แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนต์ จับมือพันธมิตรชาว อาทิตย์อุทัย รีเออิ (ประเทศไทย)
หวังขยายฐานธุรกิจสู่การให้เช่าเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้ค่าเช่าเป็น
20% ภาย ใน 3 ปี เผยเตรียมลงทุนโครงการ ใหม่ช่วงครึ่งปีหลังอีก 4 แห่ง ขณะ ที่ราคาหุ้นวิ่งรับข่าวดี
นายทิฆัมพร เปล่งศรีสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี. เอ็น.ดีเวลลอปเมนต์
จำกัด (มหา ชน) เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทได้ร่วม มือกับกลุ่มทุนข้ามชาติจากประเทศ
ญี่ปุ่น เพื่อขยายตลาดเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ โดยได้เซ็นสัญญากับบริษัท รีเออิ (ประเทศไทย)
จำกัด เพื่อให้เช่าอาคาร ลุมพินี เรสซิเดนซ์ ตั้งอยู่บนถนนนราธิวาส ราชนครินท์
ซึ่งเป็นเซอร์วิส อพาร์ต เมนต์ มูลค่า 60 ล้านบาท โดยบริษัท รีเออิ จะนำไปทำเซอร์วิส
อพาร์ต เมนต์ และลองสเตย์ในประเทศไทย
การเช่าอาคารครั้งนี้ กลุ่มบริษัท รีเออิทำสัญญาเช่า นาน 3 ปี และสามารถต่ออายุสัญญาได้
ในอัตราค่าเช่ารวมทั้งสิ้น 20 ล้านบาท ซึ่งการจ่ายเงินจะทยอยจ่ายตามปกติ และแอล.พี.เอ็น.ฯจะรับรู้รายได้ได้ทุกเดือนหลังจากที่ได้รับค่าเช่า
โดยบริษัท รีเออิ จะเป็นผู้ทำการตลาดทั้งตลาดในประเทศ และต่าง ประเทศ โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายผู้สูงอายุที่เกษียณแล้วชาวญี่ปุ่น
ทั้งที่ทำงานอยู่ในไทย และประเทศญี่ปุ่น ส่วนแอล.พี.เอ็น.ฯเป็นผู้ให้เช่าเท่านั้น
สำหรับรายละเอียดโครงการอาคารลุมพินี เรสซิเดนซ์ เป็นเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ สูง
9 ชั้น จำนวน 38 ยูนิต ชั้น 1-3 ประกอบ ด้วย ร้านสะดวกซื้อ ที่จอดรถ ร้าน อาหาร
ล็อบบี้ สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย ห้องกิจกรรมโยคะ และแอโรบิก ห้องซาวน่า ห้องสมุด
พร้อมอินเทอร์เน็ต ห้องประชุม ส่วนชั้นที่ 4-9 เป็นห้องชุด ขนาด 30-74 ตารางเมตร
ห้องขนาด 30 ตารางเมตร ค่าเช่าเดือนละ 26,000 บาท ส่วนห้องขนาด 74 ตารางเมตร ค่าเช่าเดือนละ
ไม่เกิน 40,000 บาท
นายทิฆัมพร กล่าวอีกว่า การจับมือกับชาวญี่ปุ่นครั้งนี้ เนื่องจากบริษัทต้องการขยายฐานรายได้จากปกติที่มีรายได้ส่วนใหญ่จากการขายอาคารชุดพักอาศัย
เพิ่มเป็นมีรายได้จากค่าเช้าวย ซึ่งตั้งเป้าว่าภายในเวลา 3 ปี จะมีรายได้จากค่าเช่าเป็น
20% แต่รายได้หลัก ๆ ยังมาจากการขายเช่าเดิม 80%
สำหรับแผนการลงทุนของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะลงทุนโครงการใหม่อีก 4
แห่ง ซึ่งกำลังจะเปิดตัวโครงการอาคารชุดพักอาศัย บริวณซอยอารีย์ ในเร็ว ๆ นี้ ส่วนโครงการอีก
3 แห่ง อยู่ระหว่างการหาที่ดินที่เหมาะสม เพื่อพัฒนาเป็นอาคารชุดพักอาศัย อาทิ
ทิ่ดินบริเวณ ซอยพหลโยธิน รัชดาภิเษก และพระราม 9 โดยในช่วงครึ่งปีแรกได้เปิดตัวโครงการใหม่แล้ว
4 แห่ง
ด้านนาย Hajime Kabasawa ประธาน บริษัท รีเออิ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าปกตินักท่องเที่ยวญี่ปุ่นจะเข้ามาท่องเที่ยวในไทย
ประมาณ ปีละ 1.2 ล้านบาท ในจำนวนดังกล่าว น่าจะเป็นมาพักอาศัยในลักษณะลองสเตย์
(พักนานกว่า 1 เดือนขึ้นไป) เฉลี่ยที่ 20% ของจำนวน นักท่องเที่ยว และจะใช้จ่ายเงินเฉลี่ยเดือนละ
1-2 แสนเยน หรือ 35,000-70,000 บาท การจับมือกับแอล.พี.เอ็น.ฯครั้งนี้ ถือเป็นการจับมือเพื่อลงทุนธุรกิจเซอร์วิส
อพาร์ตเมนต์ และลองสเตย์ในไทยเป็นครั้งแรก และมีแผนที่จะเปิดให้บริการเพิ่มเป็น
10 แห่ง ภายใน 5 ปีข้างหน้า ซึ่งจะขยายการลงทุนไปยังต่างจังหวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ในเชียงใหม่ และหัวหิน ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในต้นปีหน้า
ทั้งนี้ หากจะทำธุรกิจเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ จะพิจารณาพื้นที่ของแอล.พี.เอ็น.ฯก่อน
ส่วนธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่บริษัทแม่ดำเนินการอยู่ เช่น ศุนย์สุขภาพ บ้านพักผู้ป่วยและผู้สูงอายุ
และเนอสซิ่ง แคร์ บริษัทจะจับมือกับพันธมิตรในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โดยธุรกิจสุขภาพ
กำลังเจรจา กับโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท เพื่อร่วมกันดำเนินงาน
ประธาน บริษัท รีเออิ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการยื่นขอรับการส่งเสริมจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
(บีโอไอ) ซึ่งคาดว่าจะได้รับการอนุมัติในส่วนของธุรกิจบ้านพัก ส่วนุรกิจลองสเตย์
ทางคณะกรรมการฯอยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติ คาดว่าจะได้รับการส่งเสริมจากคณะกรรมการฯ
เพราะ ปัจจุบันรัฐบาลกำลังให้ความสนใจที่จะให้ธุรกิจลองสเตย์เป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาพักอาศัยในไทยมากขึ้น
ขณะที่วานนี้ หุ้น LPN ปิดที่ 26.50 บาท เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 75 สตางค์ คิดเป็น
2.91% มูลค่าการซื้อขาย 32.67 ล้านบาท