ปตท.ประกาศตรึงราคาน้ำมันสัปดาห์นี้ไม่ว่าราคาโลกจะลดหรือเพิ่มอ้างต้นทุนที่ปรับขึ้นช่วงที่ผ่านมายังไม่ครอบคลุมต้นทุนที่แท้จริง
แต่ราคาโลกมีแนวโน้มที่จะลดราคาลง จับมือร.ฟ.ท.ลงนามข้อตกลงขนส่งร่วมกัน ผลักดันใช้รถไฟขนส่งน้ำมันและก๊าซแอลพีจีเพิ่มขึ้น
รถไฟวางแผนเพิ่มรถขนน้ำมันอีก 25 ตู้ คาดรายได้เพิ่มอีก 30 ล้านบาทต่อปี ส่วนปตท.คาดขนน้ำมันไปทั่วประเทศเพิ่มขึ้นเป็น
4 แสนตันต่อปี
นายอภิสิทธิ์ รุจิเกียรติกำจร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจน้ำมัน บริษัท
ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวภายหลังลงนาม ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เพื่อร่วมมือการขนส่งทางรถไฟหรือบริการอื่นที่เป็นประโยชน์
ว่า สัปดาห์นี้ราคาน้ำมันตลาดโลกมีทิศทางลดราคาลงเพราะราคาน้ำมันตลาดโลกปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาทุกตลาดปรับตัวลดลง
ซึ่งเป็นผลมาจากการคาดการณ์ว่าอิรักจะสามารถส่งออกน้ำมันได้ในเร็ว ๆ นี้ ประกอบกับมีการรายงานตัวเลขสำรองน้ำมันในหลายประเทศเพิ่มสูง
ขึ้น และการผลิตน้ำมันของประเทศ นอกกลุ่มโอเปก เช่น รัสเซีย นอร์เวย์ มีปริมาณเกินตัวเลขรายงานการผลิตจริงถึง
300,000 บาร์เรลต่อวัน ดังนั้น ปตท.จะไม่มีการเปลี่ยน แปลง ราคาน้ำมันขายในประเทศเป็นเวลา
1 สัปดาห์ แม้ว่าราคาขายในขณะนี้จะยังไม่ครอบคลุมต้นทุนก็ตาม
"แม้ว่าการปรับราคาน้ำมันสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยน้ำมันเบนซินปรับขึ้น 70 สตางค์ต่อลิตร
และ ดีเซลปรับขึ้น 30 สตางค์ต่อลิตร จะ ยังไม่ครอบคลุมต้นทุนแต่ทิศทางน้ำมันตลาดโลกมีแนวโน้มปรับลดปตท.จึงจะไม่ทำการปรับขึ้นอีกได้ใน
สัปดาห์นี้" นายอภิสิทธิ์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ปตท.กำลังพิจารณาจะขยายธุรกิจน้ำมันและก๊าซหุงต้มไปตลาดจีนตอนใต้มากขึ้น
เพราะเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง ประชากรของมณฑลหยุนหนานมีถึง 45 ล้านคน มณฑลเสฉวนมีประมาณ
135 ล้านคน ส่วนของธุรกิจน้ำมันนั้น ทาง ปตท.คงจะยังเข้าไปไม่ได้ เพราะรัฐบาลจีนได้ส่งหนังสือแจ้งให้ทราบว่า
จีนพร้อมเปิดเสรีการค้าน้ำมันตามกรอบองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) ในปี 2548
ส่วน ตลาดก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ทาง ปตท. สามารถส่งเข้าไปจำหน่ายได้ทันที
สำหรับแนวทางการส่งน้ำมันไปจำหน่ายทางจีนตอนใต้นั้น ปตท. วางแผนจะให้มีการขนส่งทางรถไฟจากภาคกลางไปเชียงราย
-เชียงแสน แล้วขนส่งไปจีน โดยกำลังพิจารณา 2 แนวทางได้แก่ 1.การขนส่งทางเรือ ล่องแม่น้ำโขง
ไปเมืองเชียงรุ้ง (สิบสองปันนา) 2. การขอความร่วม มือจากรัฐบาลพม่า ขออนุญาตขนส่ง
ก๊าซหุงต้ม-น้ำมันผ่านแดน ซึ่งอยู่ใน ระหว่างรอการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีพม่า อย่างไรก็ตาม
เบื้องต้นกระทรวงพลังงานของพม่าเห็นชอบแล้ว
ร.ฟ.ท.คาดรายได้เพิ่ม 30 ล้านบาท
นายจิตต์สันติ ธนะโสภณ ผู้ว่าฯการรถไฟฯกล่าวว่ารถไฟจะปรับปรุงประสิทธิภาพการบริการให้
สามารถรองรับความต้องการขนส่งของปตท. โดยการเพิ่มขบวนรถไฟขนส่งเชื้อเพลิงไปยังคลังปิโตรเลียม
ปตท. ทั่วประเทศ โดยเฉพาะสายเหนือและสายอีสาน รวมทั้งจะจัดที่ดินเปล่าของรถไฟทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดให้ปตท.จัดสร้างสถานี
บริการน้ำมันเพื่อเป็นสวัสดิการพนัก งานรถไฟ จำนวน 14 แห่ง
ปัจจุบันรถไฟมีขีดความสามารถ ในการขนส่งน้ำมันให้ปตท. ได้ต่อขบวนละประมาณ 25
ตู้ ความจุตู้ละ ประมาณ 36,800 ลิตร ส่วนก๊าซแอลพีจีขนส่งได้ประมาณ 450 ตันต่อขบวน
โดยราคาค่าขนส่งของรถไฟต่ำกว่าขนส่งทางถนนประมาณ 50% คาดว่าเมื่อมีความร่วมมือที่ชัดเจนจะทำให้รถไฟมีรายได้จากการขนส่งให้ปตท.เพิ่มอีกปีละ
30 ล้านบาท
นายจิตต์สันติกล่าวว่า มาตร-การที่รถไฟจะปรับเพิ่มค่าขนส่งขึ้นอีก 30% นั้นในส่วนของปตท.ก่อนหน้านี้ได้มีการปรับค่าขนส่งเพิ่ม
5% ไปแล้ว และขณะนี้กำลังเจรจาปรับเพิ่มอีก ซึ่งปตท.ยินดี แต่จะปรับเท่าใดนั้นขึ้นอยู่กับการเจรจา
ทั้งนี้ การปรับเพิ่มค่าขนส่งสินค้าแต่ละประเภทจะไม่เหมือนกัน เพราะมีปัจจัยที่แตกต่างกัน
และขึ้นอยู่กับสภาพการแข่งขันทางการตลาดด้วย นอกจากนี้ ในอนาคตรถไฟจะขยาย เส้นทางการขนส่งออกไปยังประเทศ
เพื่อนบ้านด้วย เช่น กัมพูชา ซึ่งขณะนี้เส้นทางรถไฟขาดอยู่ประมาณ 50 กม.เท่านั้น