|
Sofitel Riverside Chiang Mai สูดกลิ่นอายล้านนาบนตลิ่งริมปิง
โดย
สุภัทธา สุขชู
นิตยสารผู้จัดการ( เมษายน 2551)
กลับสู่หน้าหลัก
มนต์เสน่ห์แห่งล้านนาของจังหวัดเชียงใหม่ดูเหมือนว่าจะไม่เคยเสื่อมคลายไปจากความประทับใจของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวกลุ่มไฮเอนด์ ยิ่งเมื่อได้มนต์ขลังของสายน้ำปิงที่ตะกอนแห่งประวัติศาสตร์ไม่เคยนอนนิ่ง ก็ยิ่งทำให้ผู้มาเยือนลุ่มหลงอาณาจักรแห่งนี้มากยิ่งขึ้น
ทันทีที่ล้อเครื่องบินแตะรันเวย์สนามบินนานาชาติจังหวัดเชียงใหม่ เสียงรถราอึกทึกคึกโครม ตามวิสัยของเมืองใหญ่ก็กู่ร้องต้อนรับแขกผู้มาเยือน แต่หลังจากเลี้ยวเลาะถนนช้างคลานเพียงไม่ถึงสิบนาทีเสียงแห่งความสงบ ก็เข้าแทนที่ แว่วคลอมากับเสียงบรรเลงของสะล้อซอซึงและพิณเปี๊ยะที่ขับขานมาจากมุมหนึ่งของโรงแรมโซฟิเทล ริเวอร์ไซด์ เชียงใหม่ ถือเป็นสัมผัสแรกที่แขกได้รับทันทีที่ก้าวเข้าในโรงแรมแห่งนี้
ภายใต้อาคารปูนสีขาว หม้อ "บูรณฆตะ" สัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ตามความเชื่อของชาวล้านนาใบเขื่องที่ทำด้วยเงินแท้และทองแดงน้ำหนักรวม 12,500 บาท ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางล็อบบี้ตัดกับสีน้ำตาลเข้มของพื้นไม้ จั่วเพดานไม้ และวัสดุ ส่วนใหญ่ซึ่งทำมาจากไม้สัก เพื่อเชื่อมโยงรอยอดีตของแม่น้ำปิงที่เคยเป็นเส้นทางลำเลียงท่อนซุงไม้สักล่องจากหัวเมืองเข้าสู่เมืองหลวงในยุคเก่าก่อน
บรรยากาศภายในโรงแรมห้องพักทั้ง 75 ห้อง เต็มไปด้วยงานหัตถกรรมที่มีเอกลักษณ์ศิลปกรรมของกลุ่มชนชาวล้านนา ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้หวายประดับหลังคาโค้ง โคมไฟทรงบัวตูม เตียงตั่งไม้สัก ของตกแต่งงานไม้สลัก ผ้าซิ่นตีนจกและผ้าทอมือลายของชนเผ่าต่างๆ ทางภาคเหนือ เครื่องเขินเครื่องเงินแกะลายโดยช่างฝีมือท้องถิ่น และภาพเขียนลงรักปิดทองต่างๆ ที่ล้วนส่งกลิ่นอายอารยธรรมพื้นถิ่นให้ตลบอบอวล
ขณะเดียวกันก็ไม่ลืมสอดแทรกความหรูหราแห่งโลกเทคโนโลยีด้วยบรรดาสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้งทีวี LCD จอใหญ่ มินิโฮมเธียเตอร์ จากุซซี่พร้อมทีวีจอแบนและ wireless broadband ให้สมศักดิ์ศรีความเป็นเชนโรงแรมหรูระดับโลกอย่าง "โซฟิเทล" ที่เข้ามารับอาสาบริหารที่นี่
ถัดจากล็อบบี้ พื้นที่ส่วนหนึ่งถูกจำลองเป็นศาสนสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะในแบบล้านนา ทางเดินเชื่อมถูกออกแบบให้มีลักษณะคล้ายระเบียงพรตที่พระภิกษุชาวล้านนามักใช้เป็นสถานที่เดินจงกรม ระเบียงเชื่อมโยงไปยังฟิตเนส สปา และสระว่ายน้ำ รวมถึงท่าน้ำของโรงแรม ซึ่งอยู่ติดริมแม่น้ำปิง แม่น้ำสายสำคัญทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคมของชุมชนล้านนาในอดีต และยังคงมีความสำคัญต่อชาวเชียงใหม่ในแง่ประวัติศาสตร์มาจนวันนี้
ว่ากันว่า โรงแรมโซฟิเทลริเวอร์ไซด์ฯ ใช้งบลงทุนทางด้าน สถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายใน รวมถึงมูลค่าของศิลปวัตถุในการตกแต่งเพื่อจรรโลงบรรยากาศและกลิ่นอายล้านนาร่วมพันล้านบาทเลยทีเดียว
"ลมหายใจของเชียงใหม่เป็นการท่องเที่ยว ตื่นขึ้นมาก็เป็นการท่องเที่ยว แต่ดูเหมือนว่า ในพื้นที่เชียงใหม่กลับไม่มีโรงแรมเชนระดับ 5 ดาวที่เป็นของชาวเชียงใหม่เองเลย" บุญเลิศ บูรณุปกรณ์ เจ้าของและผู้บริหารของโรงแรมโซฟิเทลริเวอร์ไซด์ฯ เล่าที่มาที่ไป
บุญเลิศเป็นนักธุรกิจชาวเชียงใหม่และเป็นเจ้าของโรงแรมดิเอ็มเพรส โรงแรมดาวน์ทาวน์อินน์ และโรงแรมเดอะพาร์ค ในเชียงใหม่ ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 2-4 ดาว เขาเคยคิดจะใช้ที่ดิน 7 ไร่แห่งนี้ สร้างบ้านพักริมน้ำ แต่เมื่อเห็นว่าเรื่องราวและประวัติศาสตร์ของพื้นที่ตรงนี้จะช่วยเพิ่มความหรูหราและมูลค่าให้กับโรงแรมได้อย่างมาก เขาจึงเปลี่ยน มาพัฒนาพื้นที่นี้เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวแทน
แม้ว่าตัวอาคารภายนอกของโรงแรมโซฟิเทลริเวอร์ไซด์ฯ อาจดูเป็นเพียงตึกสี่ชั้นธรรมดา แต่สิ่งที่สถาปนิกแฝงเอาไว้ในตัวสถาปัตยกรรม กลับอยู่ที่การดีไซน์ฟังก์ชันของโรงแรมให้สัมพันธ์กับสายน้ำปิงเสมือนที่ "ชุมชนวัดเกตุ" ชุมชนโบราณร่วม 200 ปีที่เคยมีวิถีและชีวิตสอดคล้องผูกพันกับแม่น้ำปิงมาโดยตลอด
นานมาแล้วที่แม่น้ำปิงเป็นสายเลือดสำคัญที่หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจชุมชนแถบนี้ให้เติบโตจากการคมนาคมขนส่ง โดยมี "เรือหางแมงป่อง" เจ้าถิ่นแห่งลำน้ำนี้ทำหน้าที่ลำเลียงไม้สักและสินค้าต่างๆ ล่องไปสู่กรุงรัตนโกสินทร์อย่างคึกคัก ก่อนที่การขนส่งโดยรถไฟจะเข้ามาแทนที่ พร้อมๆ กับลมหายใจที่แผ่วลงของการจราจรบนสายน้ำปิง
เพื่อให้แขกได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชุมชนริมน้ำอย่างใกล้ชิด แม่น้ำปิงและเรือหาง แมงป่องจึงถูกปลุกให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง หลากกิจกรรมที่โรงแรมโซฟิเทลริเวอร์ไซด์ฯ จัดขึ้นริมแม่น้ำ เช่น การตักบาตรตอนเช้าที่ท่าเรือของโรงแรม โดยจะมีพระสงฆ์พายเรือมารับบิณฑบาต อันเป็นภาพที่หาดูได้ไม่ง่ายในสังคมเมืองยุคใหม่ และบริการเดินทางมาโรงแรมด้วยเรือหางแมงป่องและเช็กอินบนเรือ ซึ่งตามวิถีของชุมชนท่าน้ำ ท่าเรือก็เปรียบได้กับประตูหน้าบ้าน เป็นต้น
ทว่ากิจกรรมที่เป็นไฮไลต์ในการตาม เงาอดีตของชุมชนชาวล้านนาที่แขกไม่ควรพลาด ได้แก่ โปรแกรมล่องเรือหางแมงป่องไปชม "เวียงกุมกาม" นครโบราณของอาณา จักรล้านนาที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำปิง เจริญรุ่งเรืองโดยมีสายน้ำปิงเป็นสายเลือดหล่อเลี้ยง ก่อนที่จะถูกฝังลืมอยู่ใต้พิภพมานานกว่า 700 ปี โบราณสถานนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมโซฟิเทลฯ ใช้เวลาล่องเรือเพียง 15-20 นาที จากนั้น แขกก็เลือกได้ว่าจะเพิ่มอรรถรสในการสัมผัสประวัติศาสตร์ของนครที่เคยสาบสูญแห่งนี้ด้วยรถม้า รถสามล้อถีบ หรือจะใช้บริการรถพ่วงแถมไกด์ก็ได้
ในอดีตกาล แม่น้ำปิงเคยสร้างแรงบันดาลใจในการสร้างงานศิลป์ให้กับปราชญ์ชาวล้านนา จนก่อเกิดเป็นงานหัตถศิลป์เล็กๆ น้อยๆ งานพุทธศิลป์ที่มีคุณค่าทางจิตใจ และงานสถาปัตยกรรมอันสวยงาม หรือแม้แต่อาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ แม่น้ำสายนี้ก็ก่อกำเนิดมาแล้ว
...เชื่อว่า ถึงจะผ่านมาหลายปี พลังสร้างสรรค์ที่แฝงอยู่ในระลอกคลื่นของแม่น้ำสายนี้ไม่เคยเสื่อมคลาย หากแต่ผู้มาเยือนจะยอมปลีกตัวเองมานั่งอ้อยอิ่งทอดสายตาและจินตนาการให้ลอยไปกับกระแสน้ำบ้าง แม้จะไม่ได้งานศิลปะติดมือกลับไป แต่อย่างน้อยก็ได้ผ่อนคลายและความสงบเป็นของขวัญกลับไปแน่นอน!!
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|