เมื่อมือถือกลายเป็นบัตรเอทีเอ็ม


นิตยสารผู้จัดการ( เมษายน 2551)



กลับสู่หน้าหลัก

ความพยายามจากผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือและธนาคารหลายแห่งในการที่จะให้โทรศัพท์มือถือมีความสามารถในการเป็นธนาคารเคลื่อนที่ หรือที่เรียกกันว่า "m-Banking" ดำเนินมาเป็นเวลาหลายปี แต่จนแล้วจนรอด อุปสงค์กับอุปทานที่พอจะมีหรือเกิดขึ้นไม่สามารถดึงดูดผู้บริโภคให้ยอมรับเงื่อนไขความเสี่ยงที่มากขึ้นเพื่อแลกกับความสะดวก

นี่คือครั้งแรกของบริการธนาคารโทรศัพท์มือถือที่ถือว่าเป็นรูปธรรมและจับต้องได้จริงมากที่สุดครั้งหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ทางการเงินของประเทศไทยรวมทั้งวงการโทรคมนาคมไทยเองก็ตามที

ผู้บริหารกสิกรไทยและผู้บริหารของดีแทคร่วมแถลงข่าวอย่าง พร้อมหน้าพร้อมตาในการเปิดตัวบริการ ที่เรียกว่า "ATM SIM" และระบุเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่คือโครงการที่ถือว่าใหญ่ที่สุดในไตรมาสสองของทั้งสองค่าย

ภายใต้บริการดังกล่าว ลูกค้าที่มีบัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทยและเป็นลูกค้าที่มีหมายเลขโทรศัพท์ของดีแทคอยู่แล้ว สามารถผูกบัญชีธนาคารของตนเข้ากับหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่มีอยู่ หากเป็นลูกค้าที่ไม่ต้องการเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์ไปใช้หมายเลขใหม่ก็แค่ทำการเปลี่ยนซิมการ์ดได้ฟรีที่สาขาของกสิกรไทยทั่วประเทศ และ สาขาของดีแทค เช่นเดียวกับรถเคลื่อนที่อีกนับร้อยคันที่จะตระเวน ไปให้บริการดังกล่าวตามจุดต่างๆ

พนักงานจะทำการย้ายข้อมูลจากซิมการ์ดเดิมมาใส่ในซิมการ์ดใหม่ทั้งหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ในการติดต่อและข้อมูลอื่นๆ โดยซิมการ์ดใหม่มีขนาดความจุหน่วยความจำที่ 128 เมกะไบต์ เป็นซิมการ์ดที่ไม่เคยใช้ในประเทศไทยมาก่อน ครึ่งหนึ่งของหน่วยความจำจะใช้ไปกับระบบบริการดังกล่าว อีกครึ่งหนึ่งใช้ไปกับระบบป้องกันความปลอดภัย เพราะนั่นหมายถึงว่านับตั้งแต่ที่คุณตัดสินใจใช้บริการดังกล่าว

"ซิมการ์ดของคุณจะกลายเป็นเอทีเอ็มไปใน ทันที"

เมื่อผูกบัญชีเข้ากับซิมการ์ดและทำการยืนยันผ่านระบบตามคำแนะนำของพนักงานผ่านหน้าจอตู้เอทีเอ็มแล้ว ซิมการ์ดในโทรศัพท์ มือถือก็สามารถเปิดเข้าไปยังเมนูบริการ ATM SIM ผู้ใช้จะได้รับข้อความบอกสถานะของบัญชีทุกวัน ในเวลาเดียวกันก็สามารถเช็กยอดเงินในบัญชีได้เอง สามารถทำการโอนเงินจากบัญชีที่ผูกกับซิมการ์ดผ่านระบบ เพียงกรอกหมายเลขบัญชีในช่องว่างและทำการจัดส่ง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ยกเว้นการโอนข้ามเขต เสียเพียง 10 บาทต่อการโอนเงิน 10,000 บาท สามารถทำการโอนเงินได้มากสุด 50,000 บาทต่อวัน รวมถึงธุรกรรมทางการเงินอื่นๆ ทั้งการชำระค่าบริการบัตรเครดิตของกสิกรไทยและค่าบริการโทรศัพท์มือถือของดีแทค ค่าสาธารณูปโภค อาทิ ค่าไฟฟ้า

ผู้บริหารของกสิกรไทยยอมรับว่า นับจากนี้หากซิมการ์ดที่ผูก กับบัญชีเงินฝากของลูกค้าสูญหาย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม สิ่งที่ลูกค้าต้องยอมรับก็คือพึงระวังไม่ทำหาย หากทำหายเข้าจริงๆ ลูกค้า ต้องแจ้งอายัดซิมการ์ด เสมือนทำบัตรเอทีเอ็มหาย

ปัจจุบันลูกค้าทำได้เพียงการผูกบัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทยต่อหนึ่งหมายเลขโทรศัพท์ของดีแทค หรือหนึ่งเบอร์ต่อหนึ่งบัญชีแต่ยังไม่มีการเปิดให้โอนเงินข้ามธนาคาร

สำหรับผู้บริโภคแล้ว นี่คือปรากฏการณ์ที่ทำให้พบว่า เอทีเอ็ม ไม่จำเป็นต้องอยู่ในรูปของบัตรแข็งแบนราบอีกต่อไป สำหรับธนาคาร กสิกรไทย ผู้บริหารหวังว่าจะทำให้ตู้เอทีเอ็มเพิ่มขึ้นเพราะช่วยให้คน ใช้โทรศัพท์มือถือเป็นตู้เอทีเอ็มแทน ขณะที่ดีแทคหวังว่าหากผู้ใช้พอใจบริการใหม่ที่ว่าก็จะอยู่กับค่ายตนไปนานๆ

ต่างคนต่างมีจุดหมายปลายทางที่ต่างกัน หากแต่สอดประสานกันได้ลงตัว


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.