ล้มแผนโรงเยื่อกระดาษ อ.อ.ป. ดูไม่ยาก ใครได้ใครเสีย

โดย สันทิฏฐ์ สมานฉันท์
นิตยสารผู้จัดการ( กันยายน 2538)



กลับสู่หน้าหลัก

แผนงานขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้หรือ อ.อ.ป. ที่ฝันมากว่า 5 ปี เพื่อที่จะเข้าสู่อุตสาหกรรมผลิตเยื่อกระดาษ โดยการร่วมมือกับเอกชนไทย มีอันต้องล้มครืนลงอย่างไม่เป็นท่าก่อนที่ทุกอย่างจะเริ่มต้นด้วยซ้ำไป

นับเป็นบทเรียนที่น่าจดจำอย่างยิ่งแก่หน่วยงานของรัฐ ที่ไม่สามารถสร้างอำนาจต่อรอง และการผูกมัด โดยปล่อยให้ฝ่ายตนเป็นเพียงผู้รับการกระทำและเฝ้ารอเท่านั้น ทั้งๆ ที่น่าจะสร้างอำนาจต่อรองและความแน่นอนในการร่วมมือได้ดีกว่านี้อีกมากมายนัก

เป็นที่เข้าใจกันว่าโครงการร่วมมือระหว่าง อ.อ.ป. กับภาคเอกชนในโครงการผลิตเยื่อและกระดาษนั้น เริ่มแรกเมื่อราวปี 2532 มาจากการที่บริษัท สวนกิตติ มีปัญหาเรื่องการหาพื้นที่เพื่อทำสวนป่ายูคาลิปตัส จึงมีแนวคิดที่จะอาศัยที่ดินซึ่ง อ.อ.ป. ได้รับการอนุมัติจากกรมป่าไม้ให้เข้าทำการปลูกป่าจำนวนนับแสนไร่ แม้ขณะนั้นบริษัท สวนกิตติ จะมีที่ดินปลูกป่ายูคาลิปตัสอยู่แล้วหลายหมื่นไร่ก็ตาม แต่เมื่อไม่เพียงพอประกอบกับการหาที่ดินในปริมาณที่มากมายเช่นนั้นเป็นเรื่องยากลำบาก จึงมีการเจรจากันเพื่ออาศัยพื้นที่ แต่ที่สุดการเจรจาคืบหน้าถึงขนาด อ.อ.ป. มีโครงการหาเอกชนเพื่อทำโรงงานผลิตเยื่อและกระดาษ

ที่สุด โครงการโรงงานเยื่อกระดาษที่ อ.อ.ป. จะร่วมกับเอกชนครั้งนี้ตั้งวงเงินลงทุนไว้ที่ประมาณ 4,200 ล้านบาท โดยอ.อ.ป.ถือหุ้น 32% บริษัท แอ๊ดวานซ์ อะโกร จำกัดถือหุ้น 29% บริษัท เยื่อกระดาษสยาม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือปูนซิเมนต์ไทยถือหุ้น 29% และบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ถือหุ้น 10% แต่โครงร่างข้างต้นนั้นไม่อาจจะเป็นจริงได้ เมื่อบริษัท แอ๊ดวานซ์ อะโกร แจ้งการถอนตัวที่จะเข้าร่วมโครงการ โดยอ้างว่าฝ่ายตนเองไม่มีความพร้อม เพราะลงทุนในโครงการส่วนของตนเองมากมายอยู่แล้ว หรืออาจเป็นว่าปัญหาที่ประสบได้คลี่คลายไปแล้ว จึงมิต้องห่วง และไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมโครงการกับ อ.อ.ป.

ขณะที่บริษัท เยื่อกระดาษสยาม หายเงียบไปเฉยๆ จนเลยกำหนดการตอบรับการร่วมทุน เมื่อสิ้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

จึงเท่ากับว่าเอกชนทั้งสองรายที่ดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมผลิตเยื่อและกระดาษอยู่แล้ว ตัดสินใจฝังโครงการนี้

"รู้สึกปวดร้าวมาก กับความไม่แน่นอนของเอกชนไทย เพราะเป็นเวลาเกือบ 3 ปีที่ อ.อ.ป. ร่วมผลักดันกับแอ๊ดวานซ์ อะโกร และเยื่อกระดาษสยาม แต่ก็ถอนตัวทั้งที่ทุกอย่างลงตัวหมดแล้ว มันเป็นบทเรียนสำหรับ อ.อ.ป. ในการให้โอกาสเอกชนไทยร่วมทุนในโครงการ และเป็นเหตุทำให้โครงการต้องล่าช้าออกไป"

วินัย ทรัพย์รุ่งเรือง รองผู้อำนวยการ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ กล่าวถึงความรู้สึกต่อสิ่งที่เกิดขึ้น

ทางด้านแอ๊ดวานซ์ อะโกร ดร.วีรพงษ์ รงมางกูร ประธานกรรมการบริหารได้กล่าวว่า เหตุที่บริษัทตัดสินใจถอนตัวออกจากโครงการเยื่อกระดาษของ อ.อ.ป. เนื่องจากโครงการดังกล่าวล่าช้ามาก ประกอบกับบริษัทเองมีโครงการลงทุนในธุรกิจเยื่อและกระดาษหลายโครงการ จึงมีปัญหาขาดแคลนบุคลากรที่จะมาดูแลโครงการเยื่อกระดาษของ อ.อ.ป. จึงตัดสินใจถอนตัวดังกล่าว แต่ก็คาดว่าโครงการของ อ.อ.ป. จะยังมีนักลงทุนรายอื่นสนใจเข้าร่วมอยู่

สำหรับความคืบหน้าล่าสุดของโครงการเจ้าปัญหานี้ มีแนวโน้มว่าความฝันที่ตั้งใจไว้แต่ต้นจะต้องปรับเปลี่ยนแนวทางออกไป และก็ไม่แน่ใจว่าจะสัมฤทธิ์ผลขึ้นมาได้หรือไม่

วินัย ทรัพย์รุ่งเรือง ได้กล่าวว่า หลังจากที่เอกชนไทยปฏิเสธการร่วมทุนแล้วนั้น ทาง อ.อ.ป. ได้ติดต่อไปยังเอกชน 3 ราย ซึ่งครั้งแรกได้เสนอตัวเข้าร่วมการคัดเลือกเพื่อร่วมโครงการดังกล่าวด้วย แต่ไม่ได้รับการคัดเลือก คือบริษัท KAMYR AB จากประเทศสวีเดน, บริษัท AHLSTROM จากประเทศฟินแลนด์ และบริษัท ดูโก้ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นบริษัทค้าเยื่อและกระดาษในประเทศไทยให้กลับเข้ามาเจรจาร่วมทุนกับ อ.อ.ป. อีกครั้ง

แต่การติดต่อกับทั้ง 3 รายอย่างไม่เป็นทางการ ชัดเจนว่าทั้งหมดนั้นได้ปฏิเสธการร่วมทุน

"อ.อ.ป. เข้าใจดีว่าบริษัทเหล่านั้น เคยเสียโอกาสมาแล้วครั้งหนึ่ง จึงไม่อยากที่จะเสียเวลาอีก การประกาศหาผู้ร่วมทุนใหม่จึงเป็นเรื่องที่ต้องนำมาพิจารณากันอีกครั้ง ซึ่งคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้เสียแล้ว เพราะต้องใช้เวลาพิจารณาหลายขั้นตอน เนื่องจากต้องเป็นไปตาม พ.ร.บ.การร่วมทุนภาครัฐและเอกชน นั่นหมายความว่าจะต้องเริ่มต้นพิจารณาโครงการใหม่ทั้งหมด"

ทางออกที่เป็นไปได้มากที่สุดในขณะนี้ก็คือ ถ้าไม่สามารถหาผู้ร่วมทุนในโครงการเยื่อกระดาษได้ อ.อ.ป. ก็จำเป็นที่จะต้องหันไปสู่อุตสาหกรรมแปรรูปไม้เพื่อเป็นวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างที่อยู่อาศัยแทน โดย อ.อ.ป.จะเป็นผู้ป้อนวัตถุดิบคือไม้ให้กับผู้ร่วมทุน

จากจุดเริ่มต้นจนถึงบทสรุปของโครงการเยื่อและกระดาษที่อ.อ.ป.เฝ้าแต่ฝันมาเนิ่นนานนั้น ดูเหมือนว่า ได้กลายเป็นการเตะถ่วงแบบสบายหัวเกือกของภาคเอกชน ที่รู้ซึ้งถึงกลไกของภาครัฐดีว่าจะทำอะไรก็ติดขัดไปหมดกับโครงการใหญ่ๆ เหล่านี้

ฝังโครงการคราวนี้ไว้ ไม่รู้อีกกี่ปีจึงจะเริ่มต้นใหม่ได้

เกมครั้งนี้ ดูง่ายนิดเดียวว่าใครได้ประโยชน์



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.