|
แกรมมี่ปรับธุรกิจเพลง6แนวมั่นใจเสริมรายได้เพิ่มอีก500ล.
ผู้จัดการรายวัน(19 มีนาคม 2551)
กลับสู่หน้าหลัก
จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ชูการวางธุรกิจเพลงใหม่เป็น 6 แนว สนองกลุ่มเป้าหมายชัดเจน พร้อมปรับทัพการทำงานใหม่ให้เข้าแต่ละแนวเพลง มั่นใจเสริมให้รายได้ปีนี้เพิ่มอีก 500 ล้านบาท จาก 3,500 ล้านบาทในปีก่อน
นางสาวบุษบา ดาวเรือง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา บริษัทฯได้ทำการรีเสริ์ช โดยได้จ้างบริษัทภายนอกให้เข้ามาดูแล และจากการสังเกตของพนักงานในบริษัทฯร่วมกัน พบว่าไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคได้เปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมาก อีกทั้งยังพบว่าปัจจัยลบต่างๆยังรุมเร้าเข้ามาอีกด้วยไม่ว่าจะเป็นกรณีการละเมิดลิขสิทธิ์ที่ยังมีต่อเนื่อง ทำให้ทางบริษัทฯต้องมีการปรับการทำงานใหม่
โดยได้วางแนวเพลงออกเป็น 6 แนวเพลงหลัก คือ 1.ทีน ไอดอล 2. ป็อป ไอดอล 3.ร็อก 4.เร็กโทรและวินเทจต์หรือแนวเพลงลิสซึ่นนิ่ง 5.นิช และ6.ลูกทุ่ง ซึ่งทาง 6 รูปแบบเพลงถือว่าเป็นการวางแนวเพลงที่ลงตัวในขณะนี้ และครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย
ทั้งนี้หลังจากที่บริษัทฯได้วางแนวเพลงใหม่แล้ว ภายใต้การทำงานในทุกๆหน่วยงานก็จะมีการแบ่งการทำงานใหม่หมด ยกตัวอย่างเช่น จากเดิมทีมการตลาดจะดูแลทำการตลาดแบบโดยรวม หลังจากนี้จะมีการคัดบุคคลากรด้านการตลาดที่มีความชื่นชอบส่วนตัวในแนวเพลงร็อก ก็ให้มาดูแลการตลาดเพลงร็อกโดยเฉพาะ ซึ่งวิธีการดังกล่าวจะนำไปใช้กับทุกหน่วยงาน ปรากฏว่าเป็นวิธีการที่ทำให้ผลประกอบการในส่วนของธุรกิจเพลงดีขึ้นค่อนข้างมาก จากผลประกอบการในปีก่อนที่ทำได้กว่า 3,500 ล้านบาท ส่วนปีนี้คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นอีก 500 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากแนวเพลงหลัก อย่าง ลูกทุ่ง 35% ร็อก 35% และป๊อป 30%
นายกริช ทอมมัส รองการรการผู้อำนวยการสายงานธุรกิจเพลง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า นอกจากนี้จากการรีเสริ์ชยังทำให้พบว่ารูปแบบเพลงทั้ง 6 รูปแบบ จะมีช่องทางจำหน่าย หรือการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันออกไปด้วย ส่งผลให้บริษัทฯมีการจัดการเกี่ยวกับช่องทางการจำหน่ายและการผลิตแผ่นซีดีหรือวีซีดีที่ดีขึ้น ช่วยให้ลดต้นทุนการผลิตที่ไม่จำเป็นออกไปได้เป็นอย่างดี
ยกตัวอย่างเช่น ทีน ไอดอล และ ป็อป ไอดอล ช่องทางจำหน่ายในส่วนของดิจิตอลจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่วีซีดีและดีวีดีจะลดลง การเข้าถึงจะใช้สื่อแมสมีเดียค่อนข้างมาก ขณะที่ลูกทุ่งวีซีดีและดีวีดี จะเป็นช่องทางขายที่สำคัญ ส่วนการเข้าถึงจะเป็นรูปแบบให้ศิลปินได้ใกล้ชิดกับกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง ส่วนร็อกจะเป็นเรื่องของโชว์บิส หรือการแสดงคอนเสิร์ตและทางเว็บไซด์เป็นหลัก หรือร้านจำหน่ายแผ่นเพลง บางร้าน ทำให้รู้ว่าควรที่จะแนวไหน และในจำนวนเท่าไหร่จึงจะเพียงต่อต่อปริมาณที่ต้องการและตรงกับกลุ่มเป้าหมายชัดเจน
อย่างไรก็ตามต่อไปนี้ ศิลปินนักร้องของแกรมมี่ ที่ออกอัลบั้มจะขึ้นตรงกับจีเอ็มเอ็มเป็นอันดับแรก แต่ยังคงมีซับแรบนด์ที่สังกัดอยู่ ไม่ว่าจะเป็น จีนี่, อัพจี หรือแกรมมี่โกลด์ ที่ยังคงไว้อยู่ แต่ในอนาคตจะไม่มีซัพแบรนด์อีกต่อไป
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|