เครือเจริญโภคภัณฑ์ ระดมสมองผู้นำกลุ่มโรงงานผลิตอาหาร เตรียมความพร้อมพัฒนาด้าน
ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม สู่มาตรฐานโลกเพื่อเป้าหมายเป็น "ครัว ของโลก"
นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธาน กรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์
เปิดเผยว่าขณะนี้เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) อยู่ระหว่าง ดำเนินงานตามแผนงาน เพื่อพัฒนาธุรกิจอาหารให้แข่งขันกับนานาประเทศ
ในเวทีการค้าโลกศตวรรษที่ 21 ได้เต็ม ภาคภูมิ
โดยพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืน เพื่อให้องค์กรดำรงอยู่ได้ ทั้งปัจจุบัน และอนาคต
อย่างมีเสถียรภาพ มุ่งสู่เป้าหมายเป็นครัวของโลก อย่างที่ประกาศวิสัยทัศน์ไว้ก่อนหน้านี้
พร้อมรับมือกีดกันการค้า
"ผมพูดตลอดเวลา เตือนว่า หลังจาก WTO แล้ว จะเกิดการเปลี่ยน แปลงในเวทีการค้าโลก
เราต้องเปลี่ยน แปลงตัวเองให้ทันต่อโลกที่เปลี่ยน แปลงไป เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อมจะมากีดขวาง
กีดกันทางการค้า ดังนั้น ในฐานะที่เราเป็นผู้ส่งออก ก็ต้อง เตรียมพร้อม ซึ่งซีพีเองได้เตรียมพร้อม
มาหลายปีแล้ว" เขากล่าว
เมื่อเร็วๆนี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ระดมความคิดจากกลุ่มผู้นำกลุ่มโรงงานผลิตอาหารเครือเจริญโภคภัณฑ์
ทั้งหมด ตามแผนงานพัฒนาธุรกิจอาหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ ผู้นำกลุ่ม โรงงานที่ร่วมระดมความคิดครั้งนี้
การประชุมระดมความคิดครั้งนี้ วัตถุประสงค์ เพื่อสร้างสรรค์นโยบายเป็นผู้นำการผลิตและส่งออก
อาหารของซีพี ซึ่งประกอบด้วย การดำเนินงานตาม มาตรฐาน 4 ด้าน คือคุณภาพ (Quality)
อาหารปลอดภัย (Food Safety) ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมการทำงาน และสิ่งแวด
ล้อม (Environment)
ทั้งนี้ ดำเนินงานเพื่อสร้างมาตรฐานทั้ง 4 ด้าน ให้กลุ่มโรงงานผลิตอาหารทั้งหมดของซีพีทั่วประเทศ
ไทย โดยจะให้ความสำคัญมาตรฐานความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมการทำงานเป็นพิเศษ
ตั้งบอร์ดความปลอดภัยกลุ่มโรงงานผลิตอาหาร
ขณะนี้ เตรียมการตั้งคณะกรรมการความปลอดภัยกลุ่มโรงงานผลิตอาหารเครือเจริญโภคภัณฑ์
เพื่อการสร้างโรงงานผลิตอาหารสมบูรณ์แบบที่สุดในประเทศไทย โดยคณะกรรมการฯ ชุดนี้
จะกำหนด กฎระเบียบด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมการทำงาน สำหรับใช้บังคับแก่โรงงาน
ผลิตอาหารปัจจุบัน และที่จะสร้างขึ้นใหม่
ด้านนายมนตรี คงตระกูลเทียน กรรมการ ผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจพืชครบวงจร เปิดเผยว่าส่วนการดำเนินการเพื่อมุ่งสู่มาตรฐานโลกกลุ่มธุรกิจพืชครบวงจร
เครือเจริญโภคภัณฑ์ มีนโยบายจะผลิตพืชผักผลไม้ปลอดสารเคมี เพื่อการบริโภคที่ปลอดภัยแก่ชาวโลก
ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการวิจัยและศึกษา โดยจะใช้เทคโนโลยีชีวภาพที่ปลอดภัยแทนสารเคมี
เพื่อให้ผู้บริโภคทั่วโลกมั่นใจความปลอดภัยของอาหารจากเครือเจริญโภคภัณฑ์
นอกจากนี้ ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมที่ทำงาน กำหนดมาตรฐานด้านความปลอดภัยทุกกระบวนการผลิตทั้ง
9 ขั้นตอน ได้แก่ 1. การคัดฝัก 2. อบฝัก 3. เทาะเมล็ด 4. อบเมล็ด 5.คัดเมล็ด แยกขนาดเมล็ด
6.คัดน้ำหนักเมล็ด 7.คลุกเมล็ดพันธุ์ด้วยสารกำจัดศัตรูพืช 8.เตรียมภาชนะบรรจุเมล็ดพันธ์
และ 9.ชั่งบรรจุเมล็ดพันธุ์ เพื่อให้เป็นโรงงานตามเกณฑ์มาตรฐานโลก
นายประสิทธิ์ ดำรงชิตานนท์ ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ
เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่าปัจจุบัน กลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศส่งออกผลิตภัณฑ์ข้าวตราฉัตรไป
60 ประเทศทั่วโลก และรับจ้างผลิตข้าวสารให้บางประเทศด้วย
ด้วยเหตุนี้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องก้าวให้ทันมาตรฐานโลก โดยเฉพาะมาตรฐานด้านความปลอดภัย
ทั้งด้านความปลอดภัยต่อผู้บริโภค และต่อพนักงาน ซึ่งกล้าจะรับประกันว่า ประชากร
1,000 ล้านคนที่บริโภคข้าวตราฉัตร มั่นใจได้ความปลอดภัย ของข้าวทุกเม็ด ที่ออกจากโรงงานเครือเจริญโภคภัณฑ์
เพราะประเทศคู่ค้าจะเข้ามาตรวจสอบคุณภาพ มาตรฐาน และกระบวนการผลิตทุกขั้นตอนของโรงงาน
ยังรวมถึงระบบสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ของโรงงาน ความปลอดภัยในโรงงานต่อพนักงาน ฯลฯ หากโรงงานปราศจากคุณภาพและมาตรฐานตามที่องค์การ
การค้าโลก หรือองค์กรอื่น ๆ อาทิ สหภาพยุโรป(EU) กำหนด จะมีผลต่อการส่งออกผลิตภัณฑ์ของเครือฯ
นายนพดล ศิริจงดี รองกรรมการผู้จัดการ สายธุรกิจอาหารแปรรูปและครบวงจร สระบุรี
บริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าปัจจุบัน ทั่วโลกต่างสนใจคุณภาพมาตรฐานต่างๆ
ของโรงงานที่ผลิตอาหารจำหน่ายในเวทีการค้าโลก โดยเฉพาะมาตรฐานด้านความปลอดภัย ซึ่งรวมถึงความ
ปลอดภัยในโรงงาน และผลิตภัณฑ์ที่ผลิตออกมาจำหน่าย
โดยมีเกณฑ์มาตรฐานตามกฎระเบียบประเทศ คู่ค้า องค์การการค้าโลก และสหภาพยุโรป
เป็นตัวกำหนด ทำให้บริษัทที่ทำการค้ากับต่างประเทศ ต้อง ปรับตัวรับสถานการณ์โลก
สำหรับมาตรฐานโรงงานสายธุรกิจอาหารแปรรูปและครบวงจร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ทำระบบ
มาตรฐานตามเกณฑ์มาตรฐานโลกมานานแล้ว ซึ่งเป็นที่ยอมรับในกลุ่มลูกค้าชั้นนำ อาทิ
กลุ่มเทสโก จากอังกฤษ ซึ่งซื้อผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปจากโรงงานสังกัดกรุงเทพโปรดิ๊วส์มาเป็นเวลานาน
โดยเครือเจริญโภคภัณฑ์เป็นโรงงานผลิตอาหารเพียงแห่งเดียวในโลก ที่เทสโกมีธุรกิจการค้า
ด้วย นอกจากในอังกฤษ ที่เป็นแหล่งผลิตอาหารป้อน เทสโกอีก 6 แห่ง
อย่างไรก็ตาม กรุงเทพโปรดิ๊วส์มีนโยบายจะพัฒนามาตรฐานต่างๆ ให้ดีที่สุด โดยมีเป้าหมายจะสร้างคุณภาพมาตรฐานครอบคลุมทุกเกณฑ์ของกฎระเบียบการค้าแต่ละประเทศ
ปัจจุบัน กล่าวได้ว่าธุรกิจผลิตอาหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ มีระบบคุณภาพมาตรฐานทุกด้านเกณฑ์ดีเยี่ยม
คู่ค้าต่างประเทศได้สุ่มตรวจระบบคุณภาพมาตรฐานด้านต่างๆ สม่ำเสมอ ตรวจสอบทั้งโรงงานแปรรูป
และฟาร์ม รวมถึงสวัสดิการพนักงาน ซึ่งขณะนี้ กล่าวได้ว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์พร้อมจะรับการตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานจากคู่ค้าทุกเวลา
เครือเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานด้านต่าง ๆ ต่อเนื่อง จนถึงขณะนี้ กล่าวได้ว่าเป็นบริษัทชั้นนำที่มีมาตรฐานระดับสากล
เป็นบริษัทผลิตอาหารที่มีเทคโนโลยีทันสมัยจากทุกแห่งของโลก มีระบบบริหารงานที่คำนึงถึงผู้บริโภคเป็นหลัก
โดยมีนโยบายประโยชน์ 3 ประสาน คือ ประโยชน์ต่อประเทศที่เข้าไปลงทุน ประโยชน์ต่อประชาชนในประเทศที่เข้าไปลงทุน
และประโยชน์ต่อ บริษัท รวมถึงพนักงานทุกคน
การพัฒนามาตรฐานด้านปลอดภัยครบวงจร ถือเป็นส่วนหนึ่งการพัฒนาองค์กรให้สอดรับกับทิศทางการแข่งขันการค้าระหว่างประเทศศตวรรษที่
21 ปัจจุบัน เรียกร้องให้บริษัทชั้นนำในเวทีการค้าโลก ให้ความสำคัญกับ Corporate
Social Responsibility (CSR) ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญ ที่จะ นำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์กรธุรกิจ
ที่ทำการค้ากับนานาประเทศ