มัลติ ไดเมนชั่น กับรูปโฉมใหม่ ธุรกิจขายความรู้


นิตยสารผู้จัดการ( มกราคม 2534)



กลับสู่หน้าหลัก

เรื่องของการอบรมสัมมนา ความรู้ทางด้านวิทยาการจัดการในยุคนี้ถือว่าเป็นกิจกรรมปกติของโลกธุกริจในบ้านเราที่มีอยู่แทบทุกวัน วันละหลาย ๆ รายการจนเกิดกิจการที่ทำธุกริจกับความใฝ่รู้ของคนขึ้นมามากมายหลายแห่ง ที่ประสบความสำเร็จ าก ที่เอาดีไม่ได้ก็มีไม่น้อย

ปรากฏการณ์หนึ่งที่สังเกตเห็นได้ก็คือ พอนาน ๆ เข้าหัวข้อการอบรมหรือสัมนาก็มักจะวนเวียนซ้ำกันไปมาอยู่ไม่กี่เรื่อง รวมไปถึงเรื่องวิทยากร ผู้บรรยายที่เป็นดาวดวงเด่นก็มีอยู่เพียงไม่กี่คน เปรียบเสมือนธุกริจขายสินค้าที่จับต้องได้ ก็เป็นนักธุรกิจที่มีสินค้าขายกันอยู่ไม่กี่ตัว ไม่มีการคิดค้นสินค้าใหม่ออกมาตอบสนองตลาดกันบ้างเลย

แต่ในยุคข่าวสาร วิทยาการ ความรู้ คือทรัพยากรสำคัญในการตัดสินใจทั้งในระดับองค์กร และระดับบุคคล แล้วความต้องการในการบริโภคข่าวสาร ความรู้ ยังอยู่อย่างไม่รู้จักจบสิ้น ทำให้ธุกริจนี้คงอยู่ได้

ขณะเดียวกันหัวหน้าคนใหม่ ที่จะเข้ามาก็ต้องคิดแล้วคิดอีก ถ้าไม่เจาะตลาดหาช่องว่างให้เจอแล้วสร้างสรรค์สินค้าใหม่ ๆ มาเติมช่องว่างนั้นให้เต็มแล้วละก็ยากที่จะเกิดได้

มัลติ ไทเมนชั่น เองก็คิดเช่นนี้ จึงเข้าสู่เวทีด้วยจุดขายใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน แต่มีความต้องการในตลาดแน่นอนสำหรับการบรรยายเรื่อง kotler on marketing โดย philip kotler ในวันที่ 17-18 มกราคม นี้

นพพร ไพรัตน์ กรรมการผู้จดัการของมัลติไดเมนชั่น พูดถึงธุรกิจของเขาว่าเป็นบริษัทที่ปรึกษาทางด้านการจัดการ การฝึกอบรมการพัฒนาองค์กร

" ลูกค้าของเราเป็นสสถาบันการเงิน ธุรกิจการบิรการ อุตสาหกรรมไฮเทค เราไม่ได้ทำในลักษณะที่กว้างมาก เป็นกลุ่มเล็ก ๆ ใช้เวลาทำกันเป็นปี ๆ " นพพร อธิบาย

นพพร จบการศึกษาทางด้านบริหารจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมือ่ พศ.2514 แล้วไปเรียนต่อทางด้านการบริหารอุตสาหกรรมที่เนเธอร์แลนด์ พอกลับมาแล้ว เขามารับราชการที่ศูนย์ เพิ่มผลผลิต ซึ่งเป้นหน่วยงานที่ให้บริการการฝึกอบรมแก่เอกชน ของกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นเวลา 4 ปี ก่อนทีจะมานั่งเก้าอี้ผู้จัดการฝึกอบรมของสมาคมจัดการธุกริจแห่งประเทศไทยอีก 10 ปี พร้อมๆ กับเข้าเป็นนักศึกษาปริญญาโทการบริหารรุ่นแรกของศรินทร์

ปี 2524 สมาคมจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทยเชิญ Philip Kotler มาพูดเรื่อง marketing in the changing economy ให้นักธุกริจฟัง จาก จุดนี้นพพร ได้รู้จักกับ kltler และได้มีการติดต่อกันตลอดมา

เอ่ยชื่อ philip Kotler สำหรับแวดวงนักธุกริจและผู้ใฝ่ แสวงหาวิทยาการการบริหารธุกริจในบ้านเรา แล้วน้อยคนที่จะไม่รู้ว่าเขาคือใครเเละมีฐานะเช่นไรในสังคมธุรกิจของโลก

PHILIP KOTLER ได้รับการยกย่องว่าเป็นเอกทัตคะทาง

ด้านการตลาดคนหนึ่งของโลกKOTIER ทำมาหากินด้วยการขายความรู้

ความคิดของตนให้กับองค์กรต่างๆในโลกธุรกิจ เขาเป็นศาสตราจารย์ทางด้านการตลาดระหว่างประเทศอยู่ที่ J.L. KELLOGG GRADUATE SCHOOL of ANAGEMENT เป็นโรงเรียนบริหารธุรกิจของมหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทอร์น สหรัฐอเมริกาซึ่งนิตรยาสาร BUSINESS WEEK ได้ทำการสำรวจแล้วยกย่องให้เป็นโรงเรียนบริหารธุรกิจที่ดีที่สุดในอเมริกา

นอกจากนั้นเเล้ว งานหลักของเขาคือ เป็นที่ปรึกษาทางด้านยุทธศาสตร์ เเผนการการตลาดให้กับบริษัทใหญ่ๆในอเมริกา และยุโรป อย่างเช่นไอบีเอ็ม เอทีแอนด์ที เจเนรัล อิเล็คทริค อันนี่ เวลล์ และสายการบินเอส เอเอส เป็นต้น

สำหรับคนที่ไม่มีปัญญาเป็นลูกค้าใช้บริการให้คำปรึกษาหารือจากเขาโดยตรง ก็ยังมีโอกาสรับรู้ว่าเขาคิดอย่างไร จากความเป็นนักเขียนของเขา ที่เขียนตำรับตำรา หนังสือทางด้านการตลาดออกมาหลายเล่ม รวมทั้งบทความมากว่า 80 ชิ้น ในวารสารชั้นนำต่าง ๆ ของโลก ผลงานเล่มหนึ่งของเขา คือ marketing management analysis planning and contro เป็นเหมือนคัมภีร์ ทางการตลาด ซึ่งใช้เป็นตำราเรียนในดรงเรียนบริหารธุรกิจเกือบทุกแห่งที่มีอยู่ในดลกนี้

ในดลกปัจจุบัน ที่ข้อมูลข่าวสาร ความรู้คือทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในการผลิต ความคิดเห็นของ kotler จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องฟัง อย่างน้อยถ้าไม่ฟังเพื่อเอาไปใช้โดยตรงก็จะได้รู้ว่าโลกเปลี่ยนแปลงไปปถึงไหนแล้ว

หัวข้อที่ kotler จะมาพูดในครั้งนี้ เป็นเรื่องของยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีทางการตลาดที่สอดคล้องกับสสถานการณ์ใหม่ของโลกธุรกิจในปัจจุบันและความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลา

ความยากลำบากของการจัดสัมมนาหรือการบรรยาย โดยนักวิชาการหรือนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงจากสายสัมพันธ์ที่ต้องมีกับตัวผู้บรรยายในระดับหนึ่งแล้ว ก็คือเรื่องค่าใช้จ่ายที่สูงลิบลิ่ว ถ้าไม่ใช่หน่วยงานที่ป็นสถาบันหรือสมาคมที่ไม่หวังผล เรื่องกำไรแล้ว ก็ยากที่จะรับภาระนี้ได้ แม้แต่ศศินทรค์ ซึ่งมีเงินทุนอุดหนุนแน่นหนา และเคยเชิญ kolter มาพูดเมื่อสามปีที่แล้ว ผู้บริหารบางคน ก็ยังคงเปรย ๆ ว่า ต้องใช้เงินมากเหลือเกิน

สำหรับการมาครั้งนั้น มัลติไดเมนชั่น ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าที่พัก และการอำนวยความสะดวกให้กับ kolter และภรรยาตลอเวลาที่อยู่ในเมืองไทย " ทุกอย่างต้องชั้นหนึ่งหมด" นพพร กล่าว

ค่าใช้จ่าย อีกส่วนหนึ่ง คือต่าตัวของ kolter เองซึ่งนพพร เปิดเผยเพียงว่า เป็นตัวเลขเจ็ดหลัก มัลติไดเมนชั่น เก็บค่าเข้าฟัง สำหรับรายการทั้งสองวัน เป็นเงินคนละ 18,500 บาท ซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง เมื่อจำนวนที่นั่งกำหนดไว้ประมาณ 150 ที่ ถูกจองหมดอย่างรวดเร็ว จากผู้สนใจที่เป็นผู้บริการระดับสูงทั้งไทยและต่างประเทศ

ความสำเร็จของมัลติไดดเมนชั่น ครั้งนี้ น่าจะบ่งบอกได้ว่า ตลาดการจัดอบรม สัมมนา ในไทยมีความต้องการโปรแกรมที่ผู้บรรยายเป็นนักคิด นักวิชาการต่างประเทศที่มีชื่อเสียงอยู่ แม้ราคาจะสุงเพียงไหน ก็ยังสู้ และน่าจะเป็นลุ่ทางใหม่ของธุรกิจอบรม สัมาในการเจาะตลาดใหม่ๆได้



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.