Global Team สร้างฐาน MFC ให้แข็งแกร่ง

โดย นภาพร ไชยขันแก้ว
นิตยสารผู้จัดการ( มีนาคม 2551)



กลับสู่หน้าหลัก

ด้วยประสบการณ์การทำงานของ MFC ตลอด 33 ปีที่ผ่านมา ทำให้รู้ว่าบริษัทไม่สามารถพึ่งพาคนอื่นเพียงอย่างเดียว เพราะบริษัทรู้ตัวดีว่าถ้าจะสร้างรากฐานให้ธุรกิจแข็งแกร่งและสามารถแข่งขันกับคู่แข่งที่มีอยู่ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศได้นั้น จะต้องพึ่งพาลำแข้งของตัวเองถึงจะอยู่รอดได้อย่างมีศักยภาพ

จึงทำให้ MFC ก่อตั้ง Global Team ขึ้นเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา

เป้าหมายของทีมโกลบอลนี้ เพื่อศึกษาตลาด วิจัยและพัฒนา รวมไปถึงการวิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้นกับตลาดกองทุนรวมไปถึงปัจจัยทุกเรื่องที่แวดล้อมในต่างประเทศ ที่จะมีผลต่อการทำธุรกิจของ MFC และสิ่งที่คาดหวังไว้คือทีมนี้จะต้องมีความรู้ความชำนาญในตลาดเอเชีย

Global Team เริ่มเรียนรู้จากพันธมิตร โดยเฉพาะพันธมิตรที่เข้ามาเสนอขายกองทุนให้กับบริษัท อาทิ ดอยช์แบงก์ โนมูระ หรือนิกโก้ พาร์ตเนอร์รายใหญ่ของ MFC โดยวิธีการเรียนรู้ในปัจจุบันจะเป็นรูปแบบของ Company visit เข้าไปเยี่ยมชมการทำงานในแต่ละบริษัทของต่างประเทศ รวมทั้งให้พันธมิตรจัดหาบริษัทให้ MFC เข้าไปเยี่ยมชม

"ทีมสิงคโปร์ เขาเปิด management team ให้เราดูทั้งหมด เราเข้าไปดูข้างในว่าเขาทำอะไร ทำยังไง เราดูการจัดการ วิธีการจัดการกองทุน รวมถึงวิธีการดูผู้จัดการลงทุน ว่าคนไหนดี คนไหนไม่ดี จะวัดยังไง สิ่งที่เขาทำเข้มมาก ทำผิดไม่ได้ กระดิกตัวไม่ได้เลย ถ้าผิดเขาจะกลัวมาก เขามีมาตรฐาน และเป็นมาตรฐานที่เราจะไปทั้งในด้านของการจัดการ และแง่ของ compliant"

ก่อนการสร้างทีมโกลบอล ฟันด์ บริษัทจัดระบบการทำงานอย่างเป็นขั้นเป็นตอนเริ่มจากพัฒนาระบบภายในประเทศให้มีความแข็งแกร่ง หลังจากนั้นขยายการลงทุนไปต่างประเทศ และดูวิธีการลงทุนของผู้จัดการกองทุนในต่างประเทศในรูปแบบของ ฟันด์ ออฟ ฟันด์

หลังจากนั้นเริ่มศึกษาและพัฒนาคนไปพร้อมๆ กัน รวมไปถึงศึกษาจุดเด่น จุดด้อยของตัวเอง และเริ่มเข้าไปศึกษาเพื่อลงทุนในระดับ Global แต่ก็ไปได้เฉพาะเพียง index เท่านั้น โดยใช้เครื่องมือในการประกอบการตัดสินใจในการให้น้ำหนัก และสร้างจังหวะการซื้อขาย และเริ่มลงทุนหุ้นตรงในเอเชีย ซึ่งเป็นความคาดหวังของ MFC อยู่แล้วที่ต้องการเป็นผู้มีความรู้และชำนาญในตลาดเอเชีย

ปัจจุบัน MFC มี Global Team ทั้งหมด 5 คน โดยบุคลากรเหล่านี้เกิดจากการดึงผู้จัดการกองทุน นักวิเคราะห์จากภายในของบริษัทที่มีอยู่แล้วมารับการพัฒนาเพิ่มมากขึ้น

ทีมโกลบอลจะถูกส่งให้ไปดูงานต่างประเทศในบริษัทต่างๆ รวมทั้งเข้าร่วมฟังสัมมนางานใหญ่ๆ ในเอเชีย อาทิ เอเชีย ฟอรั่ม และทั่วโลก ซึ่งหลังจากที่ไปศึกษาข้อมูลมาแล้ว ก็จะรายงานให้ศุภกรในฐานะหัวหน้าทีมรับฟังอีกครั้งหนึ่ง

"การเข้าไปเรียนรู้ และศึกษาของทีมงาน ทำให้เรามีข้อมูลและเรียนรู้บริษัทใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น จากที่เราไม่เคยรู้มาก่อนก็มี"

การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จะทำให้เกิดคำถามใหม่ๆ เกิดขึ้น และมีมุมมองที่แตกต่างจากผู้จัดการลงทุนทั่วไปมอง ทำให้ MFC สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ได้ด้วยตัวเองเพิ่มขึ้น รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า และแม่นยำมากขึ้น แต่ก็ยอมรับว่าส่วนหนึ่งยังต้องอาศัยโบรกเกอร์เช่นเดียวกันในเรื่องของข้อมูล

MFC เริ่มให้ทีมศึกษารายละเอียดการลงทุนในแต่ละประเทศ อย่างเช่นญี่ปุ่น ก็ต้องรู้ข้อมูลญี่ปุ่นอย่างละเอียด

"ปีนี้เราเริ่มไปต่างประเทศถี่ขึ้นเรื่อยๆ บริษัทเล็กๆ อาจไปเยี่ยมปีละ 2 ครั้ง แต่ถ้าเป็นบริษัทใหญ่จะไปปีละ 4 ครั้ง เราจะแอคทีฟมากขึ้น เพราะมีเป้าหมายไปลงทุนโดยตรง เราต้องรู้ให้เท่าทันคนอื่น อย่างเช่นผลประกอบการที่จะออกมา เราต้องรู้ก่อนที่จะประกาศอย่างเป็นทางการ เราต้องเจาะมาให้ได้ เราไม่ต้องการตัวเลข แต่ต้องการรู้เป้าหมายของเราจะเปลี่ยนไหม"

ทีมโกลบอลที่เกิดขึ้นจะทำให้บริษัทสามารถดำเนินงานได้ง่ายขึ้น และตัดสินใจได้เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ในขณะเดียวกันก็สามารถตอบลูกค้าได้ตลอดเวลา ซึ่งแตกต่างจากการทำงานในปัจจุบันหากเกิดคำถาม จะต้องไล่โทรหาทีละกองทุน และแต่ละแห่งก็ตอบไม่เหมือนกัน

อีกทีมหนึ่งที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาคือทีม back office ทำหน้าที่ลงบัญชีแบบรายละเอียด exchange forex

ในส่วนของเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยทำงานนอกจากทีมโกลบอล จะดูข้อมูลหรือกราฟผ่านรอยเตอร์ หรือบรูมเบิร์ก ที่มีราคาหุ้น real time แต่ก็ดูได้เฉพาะในเอเชียเท่านั้น บริษัทจะเช่าซื้อระบบส่ง sms ผ่านโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้รู้เหตุการณ์ความเคลื่อนไหวตลอดเวลา

สิ่งที่ MFC ลงทุนทั้งทางด้านบุคลากรและเทคโนโลยี มีเป้าหมายสำคัญเพื่อสร้างความแตกต่างระหว่าง บลจ.ด้วยกันที่มีถึง 22 แห่งภายในประเทศ ขณะเดียวกันก็ต้องการสร้างความแข็งแกร่งให้กับตัวเองที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาพันธมิตรต่างประเทศไปเสียทุกเรื่อง และ MFC กำลังพยายามตอกย้ำให้เห็นว่าเขาเป็นบริษัทที่พัฒนาไปสู่นวัตกรรมใหม่ๆ เสมอ โดยเริ่มต้นพัฒนาจากคนของตนเองก่อนเป็นลำดับแรก


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.