|
ปตท.อ่วมขาดทุน100ล้านตรึงน้ำมัน
ผู้จัดการรายวัน(20 กุมภาพันธ์ 2551)
กลับสู่หน้าหลัก
ปตท.ยอมรับขาดทุนวันละ 20 ล้านบาทจากการตรึงราคาขายปลีกน้ำมัน ผ่านมา 5 วันขาดทุนไปแล้ว 100 ล้านบาท ทำใจดีสู้เสือกัดฟันตรึงราคาต่อเนื่อง ยังไม่ยอมส่งสัญญาณปรับขึ้น ด้านผู้ค้ารายอื่นโอดขอดูอีกระยะว่าจะตรึงต่อไปได้มากน้อยแค่ไหน ขณะที่เรกูเลเตอร์ชี้ขาดค่าเอฟทีเออีกครั้งวันนี้ขึ้นเท่าไร
นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่การตลาดขายปลีกหน่วยธุรกิจน้ำมัน บมจ.ปตท. เปิดเผยว่า แม้ว่าค่าการตลาดจะเป็นศูนย์ในขณะนี้ แต่ปตท.ยังไม่ตัดสินใจปรับราคาน้ำมันขายปลีก เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชน โดยจะขอดูทิศทางตลาดโลกในการพิจารณาวันต่อวันไปก่อนแต่ยอมรับว่า ผลจากการที่ปตท.ตรึงราคาน้ำมันในช่วงที่ผ่านมา ได้ส่งผลให้ปตท. ขาดทุนเฉลี่ยวันละ 20 ล้านบาท
รายงานข่าว แจ้งว่า ปตท.ได้ตรึงราคาน้ำมันมาแล้วรวม 5 วัน ส่งผลให้รับภาระขาดทุนไปแล้ว 100 ล้านบาทเป็นอย่างต่ำ เนื่องจากมียอดขายมากที่สุด ขณะที่ผู้ค้ารายอื่นๆ ไม่สามารถปรับขึ้นราคาได้เช่นอดีตที่ผ่านมา เนื่องจากมีบทเรียนที่ทำให้ส่วนแบ่งทางการตลาดหายไปอยู่ในฝั่งของปตท.แทน
นายยอดพจน์ วงศ์รักมิตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาดค้าปลีก บมจ.บางจาก กล่าวว่า บางจากคงจะไม่ปรับราคาตามรายใหญ่ ซึ่งส่งผลให้ต้องรับภาระขาดทุนวันละ 8-9 ล้านบาท รวมรับภาระแล้ว 5 วันที่ผ่านมาประมาณ 20 ล้านบาท ซึ่งบางจาก คงจะต้องพิจารณาต่อว่าจะรับภาระได้มากน้อยเพียงใดเพราะดูทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลกแล้วยังคงปรับขึ้นต่อเนื่อง
นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำมัน กล่าวว่า ปตท.ไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่ปรับขึ้นในแง่ของธุรกิจ เพราะค่าการตลาดต่ำมากแล้ว นอกเหนือจากเหตุผลทางสังคมเท่านั้น ซึ่งเชื่อว่าระยะสั้นแล้วการดำเนินงานดังกล่าวก็จะเกิดผลดีกับประชาชนที่จะไม่ต้องรับภาระราคาน้ำมันแพง แต่การตรึงราคาน้ำมันบ่อยครั้งและทำเป็นระยะยาวแล้ว ไม่ได้เป็นผลดีต่อธุรกิจน้ำมันเพราะเท่ากับเป็นการลดการแข่งขันของธุรกิจลง
“หากยึดนโยบายตรึงราคาน้ำมันระยะยาวจะไม่เกิดผลดีเพราะธุรกิจรายอื่นๆ ที่ไม่ได้มีศักยภาพเช่นปตท.ที่มีธุรกิจครบวงจรก็จะไม่สามารถนำรายได้อย่างอื่นมาเกลี่ยการขาดทุนได้ ซึ่งในที่สุดก็จะอยู่ลำบากและการแข่งขันก็ลดต่ำลง การบริการที่ดีก็จะไม่มีให้เห็น”นายมนูญกล่าว
ทั้งนี้ หากพิจารณาราคาน้ำมันสิงคโปร์ 6 วันที่ผ่านมาเบนซินปรับขึ้นไปเฉลี่ย 6 เหรียญต่อบาร์เรล ดีเซล 9 เหรียญต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาขายปลีกไทยไม่มีการปรับเปลี่ยนเลยโดยผู้ค้ารับภาระขาดทุนแทนประชาชน ซึ่งหากให้สะท้อนต้นทุนจะต้องปรับแล้วตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้ว 40 สตางค์ต่อลิตรและสัปดาห์นี้อีก 40 สตางค์ต่อลิตร
นายนภดล มัณฑะจิตร กรรมการในคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานหรือ เรกูเลเตอร์ กล่าวว่า คณะกรรมการฯจะมีการประชุมเพื่อพิจารณาอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติหรือ เอฟทีงวดก.พ.-พ.ค. 51 ในวันนี้(20 ก.พ.) หลังจากที่ได้มีการเปิดให้รับฟังข้อคิดเห็นผ่านเว็บไซต์สำนักงานนโยบายพลังงานแห่งชาติ(สนพ.) ตั้งแต่วันที่15-19 ก.พ.ที่ผ่านมาตามกฎหมายเพื่อทำให้เกิดความโปร่งใส อย่างไรก็ตามค่าเอฟทีที่คณะอนุกรรมการกำกับดูแลอัตราค่าไฟฟ้าและบริการพิจารณาปรับขึ้น 2.75 สตางค์ต่อหน่วยจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ยังไม่สามารถระบุได้คงต้องพิจารณารายละเอียดก่อน
แหล่งข่าวจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคหรือกฟภ.กล่าวว่า การพิจารณาค่าไฟที่ล่าช้าทำให้บิลค่าไฟที่จะเรียกเก็บกับประชาชนเลื่อนออกไป 5 วันจากที่เดิมจะเป็นวันที่ 19 ก.พ.ก็จะเลื่อนไปเป็นวันที่ 23 ก.พ.นี้แทน ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบมากนัก เพราะการจ่ายเงินให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้เจรจาขอให้งดการจ่ายค่าปรับหรือดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายกรณีจ่ายเงินผิดเวลา
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|