"ประเทศของข้าเจ็บป่วย"


นิตยสารผู้จัดการ( กรกฎาคม 2535)



กลับสู่หน้าหลัก

Don't kill people!

Stop killing Right now!

No more Killing!

No more Dictator!

No more Suchinda!

เสียงจากโทรละโข่ง ยังคงก้องดังไปทั่วบริเวณหน้าตึกสำนักงานใหญ่สหประชาชาติ ณ กรุงนิวยอร์ก 4 วันของการรณรงค์ชุมนุมอยู่หน้าสหประชาชาติของกลุ่มคนไทย และนักเรียนไทยเพื่อให้รัฐบาลภายใต้การนำของพลเอกสุจินดา หยุดเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์เรียกร้องให้นายกฯ ลาออกเพื่อลดความขัดแย้งในสังคม

ภาพของการสังหารหมู่จากเจ้าหน้าที่รัฐบาล ที่กระทำต่อประชาชนบริเวณราชดำเนินยังคงติดตา ฝังอยู่ในความรู้สึกของคนในต่างประเทศ "มันเป็นความโหดร้าย ป่าเถื่อน ไร้มนุษยธรรมอย่างร้ายแรง"

ในคืนที่มีการล้อมปราบอย่างหนักบริเวณราชดำเนินประชาชน ถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายอย่างร้ายแรง แต่ข่าวรายการทีวีในเมืองไทยกลับเสนอรายการบันเทิง คนไทยในต่างจังหวัดของประเทศไทยกลับไม่ทราบข่าวสารว่าเกิดอะไรในกรุงเทพฯ

นี่แสดงว่า "รัฐบาลไทยได้ปกปิดความอัปยศที่เกิดขั้นในกรุงเทพฯ"

ภาพข่าวด่วนรายงานพิเศษจากเมืองไทยกลับเล็ดลอดออกมานอกประเทศ กระจายเสียงแพร่ภาพในสหรัฐอเมริกาสถานีโทรทัศน์เกือบทุกช่องในอเมริกา รายงานข่าวการล้อมปราบประชาชน เกิดการชุมนุมประท้วงปะทะกันขึ้น ทหารกระหน่ำยิงเข้าใส่ฝูงชนตามท้องถนน ในความรู้สึกของคนอเมริกันเมื่อเขาเห็นภาพออกอากาศเกี่ยวกับเมืองทยแล้ว ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า

"ยิ่งกว่าเหตุการณ์เทียนอันเหมิน"

หนังสือพิมพ์ในอเมริกาหลายฉบับเอาเรื่องราวการปราบปรามประชาชนไทย ขึ้นพาดหัวข่าววางแผงกรอบเช้าตลอดเกือบสัปดาห์ สำหรับคนไทยที่อยู่ในอเมริกา ก็จับกลุ่มสบถกันตามร้านอาหารไทย "มันโหดร้ายผิดมนุษย์" "ไอ้เหี้ย หัวใจมันทำด้วยอะไรวะ"

คนไทยในอเมริกาแต่ละกลุ่ม แต่ละสมาคม นักศึกษาไทยตามมหาวิทยาลัยในรัฐต่าง ๆ ก็รวมตัวขึ้นทันทีเพื่อคัดค้านการกระทำของรัฐบาลไทยในครั้งนี้ ร้านอาหารไทย, ร้าน grocery ไทย วัดไทย กลายเป็นแหล่งชุมนุมของคนไทยภายในไม่ทันชั่วข้ามคืนที่มีการล้อมปราบบริเวณราชดำเนิน

"ภาพข่าวที่ออกมานอกประเทศเป็นการกระทำอันทารุณโหดร้ายของผู้ถืออาวุธจากกองทัพ" คนไทยเหล่านี้ เมื่อเห็นภาพเหล่านี้ทุกคนอัดอั้น กระวนกระวาย สับสน ทำอะไรไม่ถูก

แต่ละคน เมื่อตั้งสติได้ก็โทรศัพท์กลับเมืองไทย

แต่แล้วสายโทรศัพท์ปลายทางในกรุงเทพฯ โทรเข้าไม่ได้

มีอยู่บ้างเหมือนกันสำหรับบางคนที่โทรกลับไปยังต่างจังหวัดกลับได้รับคำตอบจากญาติพี่น้องทางเมืองไทยว่า "ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น โทรทัศน์ก็ยังเปิดรายการบันเทิงอยู่"

นี่มันเกิดอะไรขึ้นในสังคมไทยอย่างนั้นหรือ ?

กลุ่มนักเรียนไทยในแต่ละรัฐก็ประสานงานกันขึ้นทุกคนรู้ว่าขณะนี้รัฐบาลใช้วิธีการ

"ปิดประตูตีแมว" "ล้อมปราบผู้ชุมนุม"

ปิดบังข้อเท็จจริงที่กำลังเกิดขึ้นในสังคม แต่ข่าวสารกลับมาเปิดเผยในนอกประเทศ ศูนย์ประสานงานเฉพาะกิจของนักศึกษาไทยในอเมริกาก็เริ่มขึ้นในค่ำคืนของการล้อมปราบปรามเช่นกัน

ในแคลิฟอร์เนีย ศูนย์ประสานงานเกิดขึ้นในหอพักมหาวิทยาลัยของนักเรียนไทย ในลอสแองเจลิส ศูนย์ต่อต้านรัฐบาลไทยก็เกิดขึ้นในวัด ซึ่งภายใต้การนำของกลุ่มนักธุรกิจในอเมริกาใน New York ศูนย์ประสานงานก็เกิดขึ้นในย่าน ฝั่ง oueena เหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ทุกคนไม่เคยนึกฝันกันมาก่อนว่ารัฐบาลจะกระทำรุนแรงถึงขนาดนี้ ในขณะอีกฝ่ายชุมนุมอย่างสงบ

ทุกคนก็ได้แต่นั่งนับเวลาที่ผ่านไปในแต่ละชั่วโมงว่าจะทำอย่างไรให้คนไทยในต่างจังหวัดรับทราบข้อมูลข้อเท็จจริงที่เล็ดลอดออกมานอกประเทศ ทุกคนคิดถึงสถานีวิทยุ BBC ภาคภาษาไทยที่กระจายเสียง ณ กรุง LONDON ซึ่งอยู่นอกเหนือการควบคุมของรัฐบาล

การส่งข่าวสารจากนักเรียนไทยในอเมริกาก็ผ่านไปยัง BBC

แถลงการณ์จาก THE DEMOCRATIC COALITION IN U.S.A. ออกประกาศว่า

"...ชาวไทยทั้งหลายช่วยกันส่งข่าวสารที่ถูกต้อง เพราะรัฐบาลเปิดหูปิดตาประชาชน บิดเบือนความจริงได้เข่นฆ่าประชาชนมากมายขอให้พวกเราทุกคนส่งข่าวสารทุกชนิดกลับไปเมืองไทยด่วน และให้บอกญาติพี่น้องที่อยู่ทางเมืองไทย หันคลื่นวิทยุไปที่ BBC ภาคภาษาไทย"

การรับข่าวสารจากศูนย์ประสานงานของนักเรียนไทยในแคลิฟอร์เนียจะเป็นแม่ข่ายใหญ่ เพราะมีกลุ่มนักเรียนไทยติดตั้งคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสูงขโมยสัญญาณดาวเทียมออกมาเพื่อต่อต้านรัฐบาลไทยเป็นการเฉพาะ เพื่อให้หยุดเข่นฆ่าประชาชน

การชุมนุมของคนไทยใน NEW YORK บริเวณหน้าสหประชาชาติยังคงดำเนินอยู่ตลอดที่มีการล้อมปราบเสียงตะโกนผ่านทางโทรโข่ง เพื่อบอกให้นานาประเทศรับรู้ช่วยหยุดยั้งการลั่นกระสุนใส่ประชาชน

STOP KILLING RIGHT NOW! ธงชาติไทยบริเวณหน้าสหประชาชาติก็ถูกเลื่อนขึ้นมาไว้หัวแถวเพื่อบอกให้นานาประเทศรับรู้ว่าประเทศไทยเกิดปัญหาแล้ว

ในตอนเที่ยง เจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติพักตอนกลางวันทุกคนเมื่อเดินผ่านเข้ามายังที่ชุมนุมของนักเรียนไทย เพื่อมาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หลังจากที่ฟังข่าวดูโทรทัศน์ เจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติบางคนเมื่อเดินจากไปแล้วก็แวะกลับมาอีกพร้อมอาหาร ขนม มาหนุนช่วย เพื่อบอกเป็นนัยว่า "พวกเขาเป็นกำลังใจให้กับคนไทยที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย"

เจ้าหน้าที่สหประชาชาติหลายคนเมื่อยื่นอาหารให้นักเรียนไทยที่ชุมนุม ทุกคนก็ได้แต่เงียบ ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาในขณะที่เดินก้มหน้ากลับไปทำงานยังตึก UN. ดูเหมือนยังมีคำถามค้างคาอยู่ในจิตใจ "นี่หรือสังคมแห่งพุทธธรรม"

ดอกไม้ประชาธิปไตยบานหลายดอกในอเมริกา กลุ่มองค์กรต่าง ๆ เกิดขึ้นตามสถานการณ์ เพื่อคัดค้านการปราบปรามประชาชน บางกลุ่มยื่นจดหมายผ่านไปยังประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ให้ช่วยยับยั้งรัฐบาลไทยให้เร็วที่สุด ก่อนที่จะสูญเสียชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปมากกว่านี้

กลุ่มคนไทยนักธุรกิจในลอสแองเจอลิส ลงมติกันในบริวัดไทยขับไล่นายสุจินดามีข้อความจากลุ่ม THAI DEMOCRATIC COALITION IN U.S.A. ออกแถลงการณ์กล่าวว่า

"...อาชญากรรมที่พลเอกสุจินดา คราประยูรและคณะได้ก่อขึ้นไว้เฉพาะที่สั่งให้ทหารและตำรวจออกปราบปรามประชาชนที่เรียกร้องประชาธิปไตยจนล้มตายจำนวนมาก บางชมรมจะดำเนินการทุกวิถีทางที่จะให้มีการดำเนินการตามกฎหมายของบ้านเมืองต่อไป รวมทั้งจะร้องขอต่อบรรดามิตรประเทศมิให้ออกวีซ่า เข้าประเทศให้กับ พล.อ. สุจินดา และคณะ ให้ถือว่าเป็นฆาตรกร และเป็น PRESONNA NON GRATA หรือบุคคลที่ไม่พึงปรารถนาของทุกอารยประเทศ..."

มีแถลงการณ์ยังรัฐบาลไทยให้ตอบคำถามของพวกเขา

"..ชีวิตของผู้บริสุทธิ์ตายไปจำนวนเท่าไร?

เราทราบดีจากข่าวที่แพร่ภาพเล็ดลอดออกมานอกประเทศ

เขาผู้เสียชีวิตเหล่านี้ทหารไทยไม่ได้ฆ่าเขาใช่ไหม?

ภาพข่าวที่เผยแพร่ออกมา ทหารเอารถยีเอ็มซีขนซากศพไปทำลาย ใช้ทหารไทยหรือไม่ ?

ทหารที่ดึงสายน้ำเกลือจากผู้บาดเจ็บ และทำร้ายซ้ำไม่ใช่ทหารไทยทำใช่หรือไม่ ?

เราลูกหลานไทยในอเมริกา เรายังสับสนกับผู้ถืออาวุธว่าเขาเหล่านี้เป็นทหารที่เล็ดลอดมาจาก ลาว, เขมร, พม่า หรืออย่างไร?.."

การชุมนุมของนักเรียนไทยหน้าสหประชาชาติ มีกลุ่มคนไทยที่เปิดร้านอาหารใน NEW YORK ต่างทำอาหารมาหนุนช่วยให้กำลังใจผู้ประท้วง ภาพเหล่านี้ไม่ใช่มีเฉพาะในกรุงเทพฯ อีกแล้ว แต่เกิดขึ้นทั่วทั้งสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะรัฐที่มีชุมชนคนไทยหนาแน่น ! 3 วันที่เมืองไทยตกอยู่ในสภาพกลียุค

3 วันที่กลุ่มนักเรียนไทยทำงานผลักดันให้ต่างประเทศให้รัฐบาลหยุดเข่นฆ่าประชาชน

3 วันที่นักเรียนไทยขาดเรียน อาจารย์ในชั้นถามว่าเกิดขึ้นทำไมไม่มาเรียน เราตอบแกเพียงว่า "ประเทศชาติของข้าพเจ้าเจ็บป่วย"

3 วันที่คนไทยฝันร้ายกับภาพอันโหดร้าย ป่าเถื่อนบริเวณถนนราชดำเนิน

3 วันที่คนไทยในสหรัฐอเมริกาตะโกนเป็นเสียงเดียวกันว่า

Don't kill people!

Stop killing Right now!

No more Killing!

No more Dictator!

No more Suchinda!

"วันนี้คนไทยยังไม่ชนะเลย แม่จ๋า"



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.