"เกษม/อาณัติ ความหมายของการรับงานที่ธนายง"


นิตยสารผู้จัดการ( กรกฎาคม 2535)



กลับสู่หน้าหลัก

ถึงวันนี้แม้ภาวะบ้านที่ดินอาจจะซบเซาไปบ้างแต่กลุ่มธนายง ของคีรีกาญจนพาสน์ ก็มีอะไรตื่นเต้นให้ชาวบ้านชาวช่องเขาต่อ นั่นคือโครงการรถไฟฟ้าสัมปทานของกรุงเทพมหานครที่ธนายงได้รับสัมปทานและลงนามในสัญญากันเมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา

เพื่อให้งานเร็วขึ้น ธนายงตั้งบริษัทใหม่ขึ้นดำเนินการคือบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) สำหรับการทำงานนี้

หลายคนยังไม่มั่นใจกับโครงการนี้มากนัก แม้ในส่วนลึก ๆ คนกรุงเทพยังฝันที่จะเห็นรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพมาแก้ปัญหาจราจรที่กำลังจะทำให้คนกรุงเทพบ้าขึ้นทุกวัน

จนกระทั่งมีการเปิดตัวโครงการนั่นแหละหลายคนจึงมั่นใจโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การมี 2 คีย์แมนสำคัญมานั่งบริหารโครงการ

คนแรกเกษม จาติกวณิชเจ้าของฉายา "ซูเปอร์เค" ที่มีประสบการณ์การบริหารงานภาครัฐและภาคเอกชนจนประสบผลสำเร็จมามากมายหลายหน่วยงาน และคนที่สองคือ อาณัติ อาภาภิรม อดีตรัฐมนตรีรัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์และรัฐบาลนายกอานันท์ ปันยารชุนและอดีตผู้ว่าการการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.)

"คีรีเขาชวน ตั้ง 3 ครั้งกว่าที่จะยอมรับที่ยอมรับก็เพราะเห็นว่าเป็นคนทำงานจริงจังและที่เชื่อมั่นก็คือ การทำงานที่ตรงไปตรงมาจนสำเร็จขั้นแรกก่อนรายอื่น ๆ" เกษมบอกกับ 'ผู้จัดการ' ในวันเปิดตัวโครงการ

ส่วนอาณัติกล่าวถึงการรับตำแหน่งว่าเนื่องจากเป็นงานที่ท้าทายเอามาก ๆ กับความเป็นวิศวกรของตนที่ผ่านมาเฉพาะภาครัฐเท่านั้น

"เป็นงานเอกชนงานแรกในชีวิต" อาณัติบอกกับผู้จัดการพร้อมทั้งเสริมถึงเหตุผลของการรับตำแหน่งว่าเนื่องจากโครงการนี้ เป็นโครงการสำคัญมากสำหรับคนกรุงเทพ ตนซึ่งเคยเป็นประธานแก้ปัญหาการจราจรในสมัยรัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์จึงให้ความสนใจมากที่จะมาทำงานนี้ เมื่อคีรีทาบทามจึงใช้เวลาในการพิจารณาไม่มากนัก

สำหรับเกษม จาติกวณิชประธานไทยออยล์ จะรับตำแหน่งประธานกรรมการ (CHAIRMAN) ในบริษัท BTSC ในขณะที่ ดร. อาณัติ อาภาภิรม จะรับตำแหน่งประธานและกรรมการผู้จัดการใหญ่ (PRESIDENT&CHIEF EXECUTIVE OFFICER) ส่วนคีรีจะเป็นประธานกรรมการบริหาร

อาณัติยอมรับว่าการวางผังโครงสร้างดังกล่าวนั้นเป็นเพียงในระยะเริ่มเท่านั้น เพราะจากการที่มีการคุยกันคีรีบอกว่าในอนาคตเมื่องานเริ่มมีมากขึ้น อาณัติจะต้องรับตำแหน่งทั้งประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่

นัยยะของตำแหน่งบุคคลไม่สำคัญเท่ากับความหมายของการมารับตำแหน่ง

เพราะเชื่อกันว่าการมารับตำแหน่งของทั้งสองคนนั้นมีมากกว่านี้แน่นอน

อาณัติเองยอมรับว่าเรื่องที่สำคัญที่สุดในตอนนี้มี 2 เรื่องคือเรื่องการเงินและเรื่องเทคนิคเพราะโครงการระดับ 18,000 ล้านบาทนั้นที่มาของเงินเป็นเรื่องสำคัญมาก และเป็นหนึ่งในเงื่อนไขโครงการด้วยกล่าวคือในระยะเวลา 1 ปีนับจากวันลงนามในสัญญาเมื่อ 9 เมษายนที่ผ่านมาแล้ว บริษัทจะต้องเสนอที่มาของเงินที่จะใช้ในโครงการให้กับกรุงเทพมหานครในฐานะผู้ให้สัมปทานโครงการได้รับทราบ

เชื่อกันลึก ๆ ว่าตรงนี้เป็นจุดที่เกษมและ ดร. อาณัติได้รับการทาบทาม !!

ทั้งนี้เป็นที่ทราบกันว่าเกษมนั้นเป็นบุคคลที่สถาบันการเงินต่างชาติเชื่อถือใน CREDIT มากที่สุดคนหนึ่งการกู้เงินของไทยออยล์ที่เขาเป็นประธานหรือการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยที่ผ่าน ๆ มาลายเซ็นต์ของเขาคือเครื่องหมายค้ำประกันเป็นอย่างดี

ในส่วนของอาณัตินั้นเชื่อกันว่า ธนาคารกรุงเทพในฐานะ ADVISER ด้านการเงินในประเทศ เป็นผู้ส่งมาช่วยในการดูแลโครงการเนื่องจาก ดร. อาณัติ มีส่วนในการช่วยเหลือชาตรี โสภณพนิชไม่น้อยในการวางผังโครงสร้างบริหารเมื่อประมาณ 10 ปีก่อนเพื่อลดความขัดแย้งบางระดับภายในธนาคาร

อาณัติกล่าวยอมรับเรื่องนี้กับ "ผู้จัดการ" เพียงสั้น ๆ ว่า "ผมรู้จักกับคุณชาตรีพอสมควรในการวางโครงสร้างให้แบงก์เมื่อเกือบ 10 ปีก่อน"

ขณะเดียวกันสิ่งที่เชื่อกันว่าคีรีมุ่งที่จะให้อาณัติใช้ความรู้ความสามารถตลอดจนถึง CONNECTION ที่มีอยู่ในการให้ความช่วยเหลือโครงการ นั่นคือในเรื่องของการผลักดันโครงการนี้ให้รัฐบาลที่จะดูแลเรื่องรถไฟฟ้านี้ คือรัฐบาลของนายกอานันท์ รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ และเพิ่มปฏิเสธเก้าอี้สมัยที่ 2 ไปเมื่อรับตำแหน่งนี้

เหตุผลก็คือก่อนที่จะครบ 1 ปีบริษัท BTSC จะต้องได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) แต่เนื่องจากมติของรัฐบาลมีว่าได้ลดภาษีเครื่องจักรกลลงมาเหลือเพียง 5% ดังนั้นจึงไม่สามารถพิจารณาเรื่องนี้ได้ต้องให้คณะรัฐมนตรีเป็นผู้พิจารณา

อาณัติ กล่าวว่า ตนเชื่อว่ารัฐบาลชุดนี้จะต้องให้การสนับสนุนโครงการแน่นอน เพราะโครงการนี้ก็เป็นการอนุมัติของรัฐบาลนี้เช่นกัน ในการประชุม ครม. อานันท์ 1 ครั้งสุดท้าย

คีรีเองยอมรับกับ "ผู้จัดการ" ว่าการชักชวนเกษมมารับตำแหน่ง CHAIRMAN ก็เนื่องจากเชื่อมั่นในฝีมือการบริหารของเกษมและหวังว่าสามารถที่จะช่วยโครงการได้มากในขณะที่การทาบทาม ดร. อาณัตินั้น ก็เพื่อดูงานให้สำเร็จเพราะมีความรู้ความสามารถในด้านนี้มาก

นับเป็นการแสดงถึงการยอมรับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ของคีรี

เพราะงานนี้อาณัติจะต้องทุ่มเทสุดตัวในการผลักดัน เนื่องจากเป็นงานเอกชนงานแรกที่มีแบงก์กรุงเทพสนับสนุนที่ท้าทายความสามารถมาก

การทาบทามเกษมและ ดร. อาณัติของคีรีครั้งนี้จึงไม่ใช่ธรรมดาสำหรับมังกรฮ่องกงคนนี้



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.