"ฟอลคอนประกันภัย"แนวรบปราศจากตัวแทน


ผู้จัดการรายสัปดาห์(4 กุมภาพันธ์ 2551)



กลับสู่หน้าหลัก

รูปแบบการดำเนินธุรกิจประกันภัยของ "ฟอลคอน" แตกต่างจากประกันวินาศภัยทั่วไป คือขับเคลื่อนไปข้างหน้าโดยปราศจากตัวแทนเป็นผู้เดินเกม แต่หันมารุกทางในช่องทางไดเรกท์มากกว่า ด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นความชำนาญของบริษัทแม่ พร้อมงัดแผนแผ่ขยายอาณาจักรต่างจังหวัดมากขึ้น ด้วยกลยุทธ์ Mobile Van Service วิ่งไปตามจุดสำคัญของตัวเมือง

โอฬาร วงศ์สุรพิเชษฐ์ ประธานบริหารสูงสุด ฟอลคอนประกันภัย เล่าถึงกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปีนี้ว่าจะเน้นช่องทางไดเรกท์ให้มากขึ้นเนื่องจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทเน้นไปที่รายบุคคล และเห็นว่าช่องทางไดเร็กท์สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่บริษัทต้องการได้มากที่สุด

แม้ ช่องทางไดเรกท์ ณ ปัจจุบันจะยังไม่บูมมาก แต่บริษัทเชื่อว่าในอนาคตการขายผ่านช่องทางนี้จะเติบโตมากขึ้น และด้วยความชำนาญจากบริษัทแม่ และกลุ่มบริษัทในเครือข่ายจะช่วยในการถ่ายทอดประสบการณ์ความสำเร็จในการขายผ่านช่องทางดังกล่าว ซึ่งบริษัทจะนำมาพัฒนาปรับปรุงให้เหมาะกับประเทศไทย

ตอนนี้กลุ่มบริษัทในเครือ จากประเทศอินเดียจะเข้ามาช่วยดูงานทางด้านช่องทางไดเรกท์ เพราะที่ประเทศอินเดียประสบความสำเร็จอย่างมากในการขายผ่านช่องทางนี้ ซึ่งสำหรับ"ฟอลคอนประกันภัย" ถือเป็นความโชคดีที่ได้ใช้ทรัพยากรจากบริษัทในเครือให้เกิดประโยชน์ เพราะถือเป็นการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีความรู้ความชำนาญที่ต่างกัน

นอกเหนือจากช่องทาง ช่องทางไดเรกท์ "ฟอลคอนประกันภัย"ยังขายผ่านช่องทางแบงแอสชัวรันส์ และ โบรกเกอร์ หรือนายหน้าประกันภัย โดยช่องทางที่เติบโตมากสุดในขณะนี้คือ ช่องทางแบงแอสชัวรันส์ ซึ่งผลิตเบี้ยได้คิดเป็นสัดส่วนถึง 60% ขณะที่ นายหน้าประกันภัย 20% และช่องทางไดเรกท์อีก 20%

"ช่องทาง แบงแอสชัวรันส์ ขณะนี้มีพันธมิตรคือ ทหารไทย และธนาคารอาคารสงเคราะห์ ซึ่งสินค้าในช่องทางนี้ก็เข้าใจง่าย แต่ถ้าเป็นสินค้าประเภทการประกันภัยความเสี่ยงทุกชนิด การประกันภัยก่อสร้าง มารีน ประกันภัยขนส่งสินค้า ซึ่งเป็นประกันภัยที่มีทุนประกันสูง มีความซับซ้อนและความคุ้มครองที่แตกต่างกันในแต่ละประเภทธุรกิจของผู้เอาประกันภัย สินค้าประเภทนี้จะขายผ่านช่องทางโบรกเกอร์"

โอฬาร ยังเล่าถึง แผนในครึ่งปีหลัง คือจะขยายฐานออกไปต่างจังหวัดมากข้น โดยจะเริ่มที่ภาคอีสาน จังหวัดขอนแก่น เนื่องจากจังหวัดดังกล่าวถือเป็นตลาดใหญ่สำคัญตลาดหนึ่งที่มีกำลังซื้อสูง โดยบริษัทจะยังไม่เข้าไปเปิดสาขาหรือสำนักงาน แต่จะใช้กลยุทธ์รถขับเคลื่อนเข้าถึงจุดสำคัญ จาก"Mobile Van Service" ที่เป็นรถบัสขนาดใหญ่ บรรจุอุปกรณ์สำหรับบริการลูกค้า ทั้งการให้คำปรึกษาด้านประกันภัยรถยนต์ รับแจ้งอุบัติเหตุ และตรวจสภาพก่อนทำประกันภัยรถ รถคันดังกล่าวจะตระเวนจากอีสานไปทางภาคเหนือตามที่สำคัญ อย่างเชียงใหม่ เชียงราย

ส่วนตลาดประกันภัยนั้นบริษัทยังเน้นการทำประกันภัยประเภท 1 และประเภท3 เป็นหลัก เนื่องจากเป็นสินค้าที่สำคัญของประกันภัยรถยนต์ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้ออกผลิตภัณฑ์ iMotor 5000 หากลูกค้าขับรถโดยไม่มีการชน ไม่มีการเคลม ก็ไม่ต้องจ่าย 5,000บาท ซึ่งลูกค้าให้ความสนใจในแบบประกันภัยนี้จำนวนมาก

โอฬาร เล่าอีกว่า ปีนี้ยังเน้นเรื่องของการสร้างแบรนด์ให้ติดตลาด สิ่งสำคัญนอกเหนือจากบริการ ก็คือสินค้า ซึ่งอย่างปีที่ผ่านมาในช่วงวันวาเลนไทม์ บริษัทได้ออกกรมกรรม์ iLove ประกันภัยส่วนบุคคล ซึ่งได้ผลตอบรับพอควร และทำให้ผู้เอาประกันภัยจดจำแบรนด์ของบริษัทได้ถึง 7% ด้วยกลยุทธ์จัดส่งกรมธรรม์ให้แก่คนรัก คนใกล้ชิดพร้อมดอกกุหลาบหนึ่งช่อ และสำหรับปีนี้ในวันดังกล่าวก็จะมีอะไรที่เป็นพิเศษอีก เพื่อเป็นการตอกย้ำแบรนด์มากขึ้น

นอกจากสินค้าที่จะช่วยให้บริษัมทมีแบรนด์ที่ถูกจำจดการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อก็มีส่วนช่วยเช่นกัน ตั้งแต่สื่อวิทยุ หรือสื่อกลางแจ้ง เช่น บิลบอร์ด โฟนบูธ ตลอดจนรถไฟฟ้าใต้ดิน ดังนั้นในปีนี้บริษัทได้ทุ่มงบในการโฆษณาที่ 30-35 ล้านบาท เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำมากขึ้น โดยจะเพิ่มตัวเลขการจดจำแบรนด์จาก 7% เป็น14% ในกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย 25-45 ปี และตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยบุคคลไว้ที่ 280ล้านบาท ซึ่งเป็นอัตราการเติบโต 100%

กลยุทธ์ของ "ฟอลคอนประกันภัย" ที่ดำเนินธุรกิจต่างจากบริษัทอื่นจะนำไปสู่ความสำเร็จหรือไม่ เป็นเรื่องที่รอเวลาพิสูจน์ เพราะการขับเคลื่อนไปข้างหน้าโดยไร้กองทัพตัวแทนเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของบริษัทสัญชาติแคนนาดา


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.