|
กลยุทธ์การตลาด : ทาทา นาโนรถยนต์ราคา 2500 เหรียญ
ผู้จัดการรายสัปดาห์(28 มกราคม 2551)
กลับสู่หน้าหลัก
เกือบศตวรรษ หลังจากที่ Henry Ford ได้สร้างระบบสายพานการผลิตจนทำให้รถยนต์เป็นสินค้ามวลชน และโฟล์กสวาเกนได้สร้างรถรุ่น Beetle ให้เป็นรถของประชาชน (People Car)
ปีนี้ ผู้ผลิตรถยนต์อันดับหนึ่งจากแดนภารตะ กำลังจะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการรถยนต์โลกอีกครั้ง ด้วยการส่งรถรุ่นใหม่ล่าสุด (ที่จะทำให้รถยนต์กลายเป็นสินค้ามวลชนยิ่งขึ้นไปอีก)
เป็นรถที่ "ราคาถูกที่สุดในโลก"สนนราคาไม่ถึงแสนบาท และดีไซน์สวยใช้ได้
"ทาทา นาโน"
10 ม.ค. ที่ผ่านมา บริษัททาทา มอเตอร์ส ค่ายผลิตรถยนต์ของอินเดีย เปิดตัว ทาทา นาโน รถยนต์ราคาถูกที่สุดในโลก ในงานแสดงยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย กรุงนิวเดลี โดยเป็นรถยนต์ครอบครัวออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานในอินเดีย จำหน่ายในราคาเพียง 100,000 รูปี คิดเป็นเงินเหรียญเท่ากับ 2,500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 75,000 บาท
"การเปิดตัวนาโนถือเป็นก้าวย่างสำคัญในประวัติศาสตร์ยานยนต์" ราทัน ทาทา ประธานบริษัททาทา มอเตอร์ส กล่าว
"บริษัทใช้เวลา 4 ปี ในการพัฒนาเพื่อให้เป็นรถของประชาชน ปลอดภัยได้มาตรฐาน ราคาไม่แพง"
รถยนต์รุ่นดังกล่าวมี 4 ประตู 5 ที่นั่ง กำลังเครื่องยนต์ 33 แรงม้า ขนาด 624 ซีซี ตัวเครื่องอยู่ท้ายรถ
มีกระจกข้างด้านเดียว ไม่มีแอร์ ไม่มีวิทยุ ไม่มีกระจกไฟฟ้า และไม่มีพวงมาลัยเพาเวอร์
แต่อีกไม่นานก็จะออกวางตลาดรถแบบหรูหราให้เป็นทางเลือกอีก และเตรียมเปิดจำหน่ายในปีนี้
ทาทา มอเตอร์ส ตั้งเป้าจะผลิตรถทาทา นาโน ออกมาในเบื้องต้น 2 แสน 5 หมื่นคัน และคาดว่า ยอดสั่งซื้อจะเพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านคันต่อปี เบื้องต้นจะจำหน่ายเฉพาะในอินเดียเท่านั้น
ด้านนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมก็มองว่า ที่ตั้งราคาขายได้ถูกขนาดนี้ เพราะทาทา นาโน เป็นรถที่มีมาตรฐานการขับขี่ไม่ดีนัก ทำให้สิ้นเปลืองการใช้เชื้อเพลิง แต่บริษัทผู้ผลิตยืนยันว่า ทาทา นาโน เป็นรถที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานการปล่อยไอเสีย ใช้น้ำมันเพียง 5 ลิตร ก็สามารถวิ่งได้ไกล 100 กิโลเมตร
เชื่อว่าจะทำให้คนหลายสิบ ล้านคนทั่วโลกหันมาให้ความสนใจเป็นเจ้าของรถรุ่นนี้ โดยรถรุ่นดังกล่าวผ่านมาตรฐานทั้งในอินเดีย และ สหภาพยุโรป
ทาทา มอเตอร์ส เปิดตัวรถรุ่นนี้ เนื่องจากคาดว่ายอดขายรถในประเทศจะเพิ่มขึ้นมากนับจากนี้ และอาจเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่าภายในปี 2559 ด้วยมูลค่าถึง 1 แสน 4 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยอินเดียถือเป็นตลาดรถยนต์ที่เติบโตเร็วที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่รวดเร็ว และประชาชนมั่งคั่งมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อรถยนต์วิ่งเยอะ ๆ ปัญหาสิ่งแวดล้อมย่อมตามมา
มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ราคารถยนต์ที่ถูกแสนถูกเช่นนี้จะทำมีรถอีกหลายล้านคันออกมาแล่นตามท้องถนนในอินเดียซึ่งตอนนี้ก็ประสบปัญารถติดอยู่แล้ว นอกจากนี้ ยังจะยิ่งทำให้มลภาวะทั้งทางอากาศ และทางเสียงแย่ไปกว่านี้อีก บางคนถึงขั้นพูดว่า ทาทา มอเตอร์ส ตัดลดมาตรฐานด้านคุณภาพและความปลอดภัย จึงสามารถขายในราคาเป้าหมายได้
แต่ประธานบริษัท ราทัน ทาทา ยืนยันว่า รถรุ่นนี้เป็นรถที่ก่อมลภาวะน้อยที่สุดในอินเดีย ทั้งยังได้รับการออกแบบให้สามารถใช้งานได้ในทุกสภาพอากาศ เพียบพร้อมตามมาตรฐานความปลอดภัย
ความเคลื่อนไหวของทาทา มอเตอร์ส ทำให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำหลายแห่ง ทั้งเรโนลต์ของฝรั่งเศส นิสสัน และโตโยต้าของญี่ปุ่น และฮุนไดของเกาหลีใต้ กำลังหาทางเปิดตัวรถยนต์ราคาไม่เกิน 3 พันดอลลาร์ หรือประมาณ 1 แสนบาท เพราะไม่ต้องการเสียส่วนแบ่งในตลาด
การวางตลาดรถยนต์ที่ถูกที่สุดในโลกรุ่นนี้ของทาทา จะส่งผลกระทบอย่างไรต่ออุตสาหกรรมยานยนต์โลก
บทวิเคราะห์
อุตสาหกรรมรถยนต์ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง ประเด็นหลักจากนี้ไปก็คือทำอย่างไรจะขายรถให้ได้มากขึ้น เพราะสถานการณ์รถยนต์โลกในขณะนี้ กำลังการผลิตล้นเกิน ไม่ได้หมายความว่าผลิตเกินความต้องการ แต่หมายถึงว่ารถยนต์ที่ผลิตออกมานั้นไม่สัมพันธ์กับกำลังซื้อที่มีอยู่ในตลาด
แปลว่าคนที่มีกำลังซื้อก็ไม่ซื้อรถยนต์ที่ผลิตออกมาวางจำหน่าย ส่วนคนที่อยากจะมีรถก็ไม่สามารถเป็นเจ้าของได้เพราะราคาสูงจนเกินไป ดังนั้น ประเด็นสำคัญถึงจะทำให้รถราคาถูกพอที่คนส่วนใหญ่จะเป็นเจ้าของได้
นั่นหมายความว่าโลกรถยนต์ต้องการเข้าสู่ตลาด Bottom of Pyramid หรือตลาดรากหญ้านั่นเอง
การจับตลาดรากหญ้านั้น เคล็ดลับไม่มีอะไรมากกว่าทำให้ราคาถูกที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
โลกธุรกิจจำเป็นต้องก้าวเข้าสู่ Bottom of Pyramid ไม่เช่นนั้นบริษัทจะไม่สามารถเติบโตได้เลย
กล่าวเฉพาะโลกรถยนต์ ก่อนหน้านี้ในทศวรรษ 1970 ญี่ปุ่นบุกตลาด Low-Cost Segment ด้วยการส่งรถเล็งบุกตลาด ซึ่งเป็นตลาดที่บริษัทรถยนต์อเมริกาละเลยไม่เข้าไป และนี่คือเหตุผลที่ทำให้โตโยต้าสามารถสามารถทะลวงตลาดอเมริกา และสามารถวางรากฐานจนกระทั่งจะก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของโลกได้ตราบกระทั่งปัจจุบัน
การปล่อยให้โตโยต้าครอบครองตลาดระดับล่างได้นั้น ส่งผลให้โตโยต้าสามารถครอบครองอเมริกาได้อย่างเป็นกอบกำ
อย่างไรก็ตามจนแล้วจนเล่า บริษัทรถยนต์อเมริกาก็ยังไม่สามารถผลิตรถยนต์แข่งขันญี่ปุ่นได้ ยุโรปก็เช่นกัน
จีนและอินเดียเห็นความสำเร็จของญี่ปุ่นก็พบว่าตนเองสามารถเจริญรอยตามญี่ปุ่นได้เช่นกัน แถมไม่จำเป็นต้องบุกตลาดโลกเหมือนญี่ปุ่นด้วย ตลาดภายในประเทศของตนเองนี่แหละ ดีนักแล
จีนมีบริษัทเชอรี่ ซึ่งก็อปรถยนต์หลายยี่ห้อจนถูกฟ้องระนาว ต่อมาในระยะหลังเชอรี่ก็ไม่ได้พึงพอใจแต่เพียงการก๊อปปี้รถยี่ห้อดังอีกต่อไปแล้ว แต่ต้องการบุกตลาดต่างประเทศ เพราะตลาดโลกนั้นกว้างใหญ่ไพศาลเหลือเกิน
ขณะที่ทาทา มอเตอร์กลับมีกลยุทธ์อีกอย่าง ทาทา มอเตอร์อยู่ในเครือทาทา กรุ๊ป ซึ่งเป็นเจ้าพ่อเหล็ก เป็นเรื่องธรรมดาที่ทำรถได้ถูกกว่าบริษัทอื่น ทาทาฯ บุกตลาดต่างประเทศเช่นกัน เมื่อเร็วๆ นี้มีข่าวว่าทาทา มอเตอร์ส บุกตลาดปิ๊กอัพไทย
อย่างไรก็ตาม เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ของทาทา มอเตอร์ส ก็คือ ผลิตรถยนต์ในราคาถูกที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เป็นการเปิดศักราชรถยนต์สำหรับรากหญ้าอย่างแท้จริง
ราคาที่ตั้งมานั้นเหลือเชื่อมากๆ เพียง 2500 เหรียญเท่านั้น ไม่ถึงแสนบาท ราคาเท่ามอเตอร์ไซค์ราวๆ 3 คันเท่านั้น
"นาโน" ลดเลิกสิ่งที่ไม่จำเป็นเพื่อทำให้ราคาถูกลงในระดับที่จะก่อให้เกิดปรากฏการณ์ที่ทำให้ตลาดใหญ่ในอินเดียเกิดความแตกตื่นได้ ก็เหมือนกับโน้ตบุ๊ค EEE PC ของอัสซุสนั่นเอง
การตั้งราคารถยนต์ถูกได้ขนาดนี้ของ ทาทา มอเตอร์นั้น จะส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์โลกอย่างแน่นอน เพราะหากนาโนประสบความสำเร็จในตลาดอินเดียจะสร้างรากฐานด้านรถยนต์ของทาทา มอเตอร์ให้แข็งแกร่งมากขึ้น และเป็นฐานสำคัญในการรุกตลาดโลก เพราะตลาดอินเดียใหญ่มาก และอยู่ระหว่างการเจริญเติบโต
ขณะที่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์อื่นที่ไม่ได้เป็นเจ้าของบริษัทเหล็กก็ไม่สามารถตัดราคาได้ขนาดนี้ และการมีแบรนด์ซึ่งเป็นที่ยอมรับก็คงไม่สามารถลงมาเล่นในตลาดล่างขนาดนี้ได้
เมื่อถึงเวลานั้นทาทา มอเตอร์ ก็คงเป็นพยัคฆ์ลำพองไปแล้ว
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|