|
"ธนชาต"สยายปีกจับลูกค้านอกเครือ
ผู้จัดการรายวัน(28 มกราคม 2551)
กลับสู่หน้าหลัก
ธนชาตประกันภัยพร้อมสู้ศึกปี 51 หันจับลูกค้านอกกลุ่มหลังยึดฐานลูกค้าบริษัทในเครือมายาวนาน เตรียมขยับสัดส่วนประกันภัยที่ไม่ใช่รถยนต์เพิ่มขึ้นจาก 20% เป็น 30% ภายใน 3 ปี ระบุตลาดลูกค้าเฉพาะกลุ่มมีแนวโน้มเติบโตสูงโดยเฉพาะการประกันภัยความรับผิดชอบของกรรมการและผู้บริหารที่ธนชาตมีความถนัดในเรื่องนี้
นายนภดล เรืองจินดา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด เปิดเผยว่า นโยบายการดำเนินงานของธนชาตประกันภัยในปี 2551 บริษัทจะเพิ่มสัดส่วนลูกค้าที่อยู่นอกกลุ่มธนชาติมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาลูกค้าของบริษัทส่วนใหญ่จะมียอดการเติบโตและผูกติดกับยอดลูกค้าเช่าซื้อของ บริษัททุนธนชาต จำกัด(มหาชน) TCAP ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ซึ่งหากแนวโน้มการซื้อรถยนต์ในอุตสาหกรรมลดลงอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของบริษัทได้
ดังนั้น บริษัทจึงหามาตรการป้องกันความเสี่ยงจากการดำเนินธุรกิจโดยจะเพิ่มสัดส่วนลูกค้าภายนอกกลุ่มธนชาตให้มากขึ้น ซึ่งนอกจากบริษัทจะขายผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์แล้วยังได้ใช้ช่องทางตัวแทนจำหน่ายที่มีอยู่ประมาณ 3,000 รายในการหาลูกค้านอกเครือธนชาตเพิ่มเติม
“ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาบริษัทจะเติบโตไปกับยอดเช่าซื้อของกลุ่มธนชาตแต่เราเริ่มเห็นความสำคัญของการหาลูกค้านอกกลุ่มมากขึ้น ซึ่งเมื่อพิจารณาจากการเติบโตของบริษัทนับตั้งแต่จัดตั้งขึ้นมาบริษัทอยู่ในอันดับที่ 60 ของอุตสาหกรรมจนถึงวันนี้สามารถขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 10 ได้ ดังนั้นหากภายใน 3 ปีนี้บริษัทหันไปจับลูกค้านอกกลุ่มธนชาตอาจทำให้อัตราการเติบโตของบริษัทขยายตัวได้มากขึ้น” นายนภดลกล่าว
นายนภดลกล่าวว่า สำหรับสัดส่วนลูกค้าในพอร์ตของธนชาตนั้นส่วนใหญ่ประมาณ 80% จะเป็นลูกค้าประกันภัยรถยนต์และอีก 20% จะเป็นการประกันภัยที่ไม่ใช่รถยนต์ โดยเป้าหมายระยะ 3 ปีของธนชาตตั้งเป้าสัดส่วนของประกันภัยที่ไม่ใช่รถยนต์เพิ่มขึ้นเป็น 30% ซึ่งการเติบโตของบริษัทโดยรวมจะอยู่ที่ประมาณ 20% ต่อปีถือว่าเป็นอัตราการเติบโตที่สูงกว่าอุตสาหกรรมที่อยู่ในระดับ 15%
สำหรับตลาดที่ธนชาตประกันภัยเห็นว่ามีแนวโน้มการเติบโตสูงและบริษัทมีความเชี่ยวชาญในกลุ่มนี้คือ การประกันภัยความรับผิดชอบของกรรมการและผู้บริหารบริษัท ( Director & Officer Liability Insurance ) ซึ่งในปัจจุบันยังมีบริษัทที่สนใจทำประกันภัยในรูปแบบนี้ไม่มากนัก โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทมีเบี้ยประกันประเภทนี้อยู่ประมาณ 70 ล้านบาท
“ธนชาตเองว่าแนวโน้มการทำประกันภัยในอนาคตจะเป็นนิชมาเก็ตมากขึ้นการประกันภัยความรับผิดชอบของกรรมการและผู้บริหารบริษัทแต่ละรายถือว่ามีความยากพอสมควร เราต้องเชื่อมั่นว่าลูกค้าแต่ละรายที่เรารับประกันภัยนั้นมีคุณภาพดีเพียงพอ เพราะแนวโน้มธุรกิจในอนาคตผู้ถือหุ้นจะมีการฟ้องร้องกรรมการและผู้บริหารมากขึ้นและสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ก็สนับสนุนให้คณะกรรมการบริษัททำประกันภัยประเภทนี้เพื่อให้เห็นว่าการบริหารงานมีธรรมาภิบาลและเป็นที่น่าเชื่อถือ” นายนภดลกล่าว
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|