5 องค์กรบีบรอยเนทปลดบอร์ด-เพิ่มโทษ-ช่วยรายย่อย


ผู้จัดการรายวัน(29 พฤษภาคม 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่าวานนี้ (28 พ.ค.) สำนักงาน ก.ล.ต.ใช้อำนาจตามมาตรา 58 และอำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 264 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 เรียกคณะกรรมการบริษัท รอยเนท ซึ่งรวมถึงนายกิตติพัฒน์ เยาวพฤกษ์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ และประธานกรรมการบริษัท ชี้แจงเรื่องอื้อฉาวบริษัทให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องฟัง

รอยเนทกระทบภาพพจน์ประเทศ

“กรณีของบริษัท รอยเนท แม้จะเป็นบริษัทขนาดเล็ก แต่ก็มีผลกระทบต่อภาพพจน์ของประเทศ ซึ่งหากปล่อยไว้ จะทำให้นักลงทุนต่างประเทศหมดความเชื่อถือในกฏหมายที่ใช้ในประเทศไทย” นายประสารกล่าว

หน่วยงานที่ร่วมรับฟังคำชี้แจงวานนี้ ประกอบด้วย สำนักงาน ก.ล.ต. กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนคดีเศรษฐกิจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หลังการชี้แจงคณะกรรมการบริษัทรอยเนทให้คำรับรองที่ยินยอมดำเนินการดังนี้

จัดประชุมผู้ถือหุ้นภายในวันที่ 27 มิ.ย. โดยแจ้งรายละเอียดการจัดประชุมต่อ ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ ภายในวันที่ 4 มิ.ย.นี้ บรรจุเรื่องที่ผู้ถือหุ้นใช้สิทธิร้องขอ เข้าเป็นวาระการประชุม โดยจะไม่มีการขอรับมอบฉันทะจากผู้ถือหุ้นเป็นการส่วนตัว

บีบบอร์ดรอยเนทลาออก

รวมถึงคณะกรรมการบริษัทจะลาออก โดยจะส่งหนังสือลาออกถึงบริษัท พร้อมสำเนาให้นายทะเบียนและ ก.ล.ต.ทราบ ตลอดจนจะให้ผู้ถือหุ้นเลือกกรรมการชุดใหม่ได้ตามสิทธิอันชอบธรรม และร่วมมือผู้สอบบัญชี เพื่อให้ผู้สอบบัญชีสามารถตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วน และความน่าเชื่อถือของเอกสารหลักฐาน ที่ใช้ประกอบการบันทึกบัญชี และการทำงบการเงินประจำปี 2545 รวมทั้งลงนามรับรองความถูกต้องครบถ้วนของเอกสารต่างๆที่เกี่ยวข้อง

เพิ่มโทษแน่หากเบี้ยวอีกรอบนี้

ทุกหน่วยงานที่ร่วมประชุมวานนี้ จะติดตามการดำเนินการของคณะกรรมการรอยเนทใกล้ชิด หากคณะกรรมการรอยเนทไม่ดำเนินการตามที่กล่าวไว้ แต่ละหน่วยงาน จะนำความผิดและพฤติกรรมที่ไม่ร่วมมือกับทางการ เป็นองค์ประกอบขยายผล เพื่อเพิ่มความรุนแรงของคดีที่อยู่ระหว่างดำเนินการ

นอกจากนี้ หากพิจารณาตามกฏหมาย หากไม่ดำเนินการ จะถือว่าเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับ 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา343

เขากล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมมือจะแก้ไขปัญหานี้ โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ ซึงเตรียมจะแก้ไขกฏหมายมหาชน 3 เรื่อง ได้แก่ การใช้สิทธิผู้ถือหุ้นที่ถือหุ้น 5% ของทุนชำระแล้วของบริษัท สามารถขอจัดประชุมผู้ถือหุ้นได้ จากปัจจุบันกำหนดที่ 20% และจะไม่มีการนับองค์ประชุม รวมทั้งต้องมีผู้ชี้ที่จะจัดประชุมผู้ถือหุ้นได้ โดยจะตั้งคณะกรรมการ 3 คน และ 1 คนในจำนวนนี้ จะต้องเป็นอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

อย่างไรก็ตาม กรณีรอยเนท ทำให้พบจุดบกพร่อง 3 จุด ได้แก่ กลไกคุ้มครองผู้ถือหุ้น มีจุดอ่อนเรื่องการร้องขอให้จัดประชุม เรื่องกรรมการบริษัทขาดความรับผิดชอบเรื่องการปฏิบัติแนวทางที่ดี และองค์ประกอบคณะกรรมการ ที่ขาดความสมดุล ไม่มีการคานอำนาจ

จุดนี้ ทำให้สำนักงาน ก.ล.ต.จะเพิ่มเติมคุณสมบัติคณะกรรมการบริษัท ในเกณฑ์รับหลักทรัพย์ใหม่ด้วย โดยจะนำเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการเร็วๆ นี้



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.