ศรัทธามาร์เก็ตติ้งแรงปีหนูต้นทุนพุ่งสงครามโปรโมชันแผ่ว


ผู้จัดการรายวัน(14 มกราคม 2551)



กลับสู่หน้าหลัก

นักการตลาด ชี้เทรนด์การตลาดมาแรงปีหนู ฝ่ามรสุมเศรษฐกิจไทยรุมเร้าทั้งปัจจัยนอก-ใน ทัพสินค้าอเนกประสงค์ ชิ้นเดียวใช้หลากหลายเกิดรับกำลังซื้อหด คนไทยแห่หาที่พึงทางใจ กระแสศรัทธา มาร์เก็ตติ้งบูม พระพิฆเนศมที่พึงทางใจใหม่ ทัพสินค้าโหนกระแสกรีนมาร์เก็ตติ้ง-สปอร์ตมาร์เก็ตติ้งขายได้แน่ ต้นทุนพุ่งสงครามโปรโมชันแผ่วปีหนู

นายธีรพันธ์ โล่ห์ทองคำ นักการตลาด-นักวางกลยุทธ์หลายองค์กร และเป็นประธานกรรมการบริหารด้านการสื่อสาร บริษัท ธรู เดอะไลน์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด เปิดเผยกับ"ผู้จัดการรายวัน"ว่า ปีนี้ภาพรวมเศรษฐกิจโลกไม่ค่อยสู้ดีมากนัก สำหรับประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจชะลอตัวแต่ปีนี้เศรษฐกิจน่าจะไม่ดีเลย เพราะต้องผจญกับปัจจัยภายนอกและภายใน ไม่ว่าจะเป็น ราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ด้านผู้บริโภคกำลังการซื้อลดลงอย่างเห็นได้ชัด

ดังนั้นนักการตลาดต้องปรับตัวเพื่อฝ่ากระแสปัจจัยลบต่างๆ นานา ด้วยการเกาะกระแสเทรนด์การตลาดในปี 2551 นี้ เริ่มด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคซึ่งได้รับผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีมากนัก ทำให้มองหาสินค้าอเนกประสงค์ หรือซื้อเพียงชิ้นเดียวแต่สามารถใช้งานได้หลากหลาย เพื่อความประหยัดและสอดคล้องกับกำลังการซื้อ นอกจากนี้ผู้บริโภคยังใฝ่หาสินค้าที่ตอบสนองความต้องการได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น

ขณะเดียวกันท่ามกลางภาวะความไม่ชัดเจนทางการเมือง ที่โยงใยกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้ผู้บริโภคยังมองหาสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ นักการตลาดควรนำกลยุทธ์ศรัทธา มาร์เก็ตติ้งมาใช้กับสินค้า ทั้งนี้คาดว่าปีนี้กระแสพระพิฆเนศจะได้รับความนิยมจากผู้บริโภค เพราะสอดคล้องกับปี 51 ซึ่งตรงกับปีชวด โดยขณะนี้เริ่มมีกลุ่มผู้ประกอบการพระเครื่องเริ่มนำมาให้เช่าเป็นจำนวนมาก

กระแสกรีนมาร์เก็ตติงมาแรง

นายธีรพันธ์ กล่าวว่า ในช่วงปลายปีที่ผ่านมากระแสกรีนมาร์เก็ตติ้งเริ่มมาแรง จากการรณรงค์ใช้ถุงผ้าของศูนย์การค้า และกลุ่มสินค้าต่างๆ เช่นเดียวกับปีนี้ทัพสินค้าจะออกมาพูดถึงสิ่งแวดล้อม ภาวะโลกร้อน บรรจุภัณฑ์สินค้าจะเปลี่ยนมาใช้สีเขียวมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับกระแสโลก นอกจากนี้ยุค Retro จะกลับมาแรง เพราะฐานประชากรผู้สูงอายุเริ่มมีมากขึ้น หรือย้อนกลับสู่ยุคเบบี้บูม ผู้บริโภคต้องการสินค้าเป็นธรรมชาติ ดังนั้นนักการตลาดควรมีสินค้าที่ออกมารองรับกระแสดังกล่าว

สำหรับแนวโน้มการสื่อสารในปีนี้ที่มาแรง คือ E-Marketing หรือการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นรูปแบบการสื่อสารที่เข้าถึงไลฟ์สไตล์ชีวิตของกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี โดยนักการตลาดนำคอมมูนิตี้ มาร์เก็ตติ้ง หรือการสร้างสังคมของผู้บริโภคตามไลฟ์สไตล์ เช่น ทรู คอฟฟี่ เซเรเนดเอไอเอส เพื่อนำผู้บริโภคเป็นแอมบาสเดอร์ให้กับแบรนด์นั้นๆ

ทัพสินค้าโหนสปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง

นายธีรพันธ์ กล่าวว่า กลยุทธ์ที่น่าจับตามองและเชื่อว่าผู้ประกอบการน่าจะโหนกระแสโอลิมปิค เพื่อฝ่ามรสุมเศรษฐกิจฝืดในปีนี้ คือ สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง เพราะด้วยการมีจุดขายที่สามารถชูโรงได้ทั้งทางด้านกระแสสุขภาพ และความบันเทิง ทั้งนี้คาดว่าผู้ประกอบการจะพาเหรดจัดกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงโอลิมปิคปีนี้

ทั้งนี้กลยุทธ์เทเลอร์เมด มาร์เก็ตติ้ง (Tailor Made Marketing) ก็เป็นแนวทางตลาดอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ควรนำมาใช้ในยุคปัจเจกบุคคลได้เป็นอย่างดี เพราะผู้บริโภคต้องการความแตกต่าง ดังนั้นปีนี้แนวโน้มการทำตลาดเทเลอร์เมด มาร์เก็ตติ้ง หรือการออกแบบสินค้าในรูปแบบเฉพาะบุคคลมีแนวโน้มได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

ส่วนกลยุทธ์ที่กระตุ้นความสนใจผู้บริโภคได้ไม่แพ้กัน คือ การทำตลาดแนวคิดผ่านประสบการณ์ ด้วยการงัดกลยุทธ์สร้างความแปลกใหม่ที่ไม่เคยได้รับมาก่อน ผ่านการจัดกิจกรรม การทำสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค หรืออาจจะพัฒนาในรูปแบบเซอร์ไพรส์ มาร์เก็ตติ้ง

ต้นปี51สมรภูมิโปรโมชันแผ่ว

นายธีรพันธ์ กล่าวถึงสมรภูมิการทำโปรโมชันว่า เมื่อปีที่ผ่านมาการทำโปรโมชันของทัพสินค้ามีความรุนแรงตั้งแต่ต้นปีกระทั่งปลายปีนี้ เนื่องจากสินค้าต้องการกระตุ้นยอดขาย แต่ปีนี้มีปัจจัยลบเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การเลือกตั้งที่ยังไม่ชัดเจนว่าพรรคใดจะได้เป็นพรรครัฐบาล จึงมีผลต่อภาพรวมของเศรษฐกิจ ซึ่งหลักการทำโปรโมชันปกติจะดำเนินการในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจไม่ค่อยดีมากนัก แต่ปีนี้เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ดังนั้นการทำโปรโมชันจึงต้องวางแผนอย่างรอบคอบ เพื่อกระตุ้นยอดขายให้ได้ตามเป้าหมาย


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.