|

'ฟิทช์'ประเมินฐานะLHแข็งแกร่ง ปรับแนวโน้มเครดิตมีเสีถยรภาพ
ผู้จัดการรายวัน(11 มกราคม 2551)
กลับสู่หน้าหลัก
รายงานข่าวจากบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด แจ้งว่า ได้ปรับแนวโน้มเครดิตของบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH เป็นแนวโน้มมีเสถียรภาพจากแนวโน้มเป็นลบ ในขณะเดียวกัน ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) ของ LH ระยะยาวที่ระดับ "A- (tha)" (A ลบ (tha)) และระยะสั้นที่ระดับ "F2 (tha)" ทั้งนี้ การปรับแนวโน้มเครดิตเป็นมีเสถียรภาพของ LH สะท้อนถึงความสามารถของบริษัทในการบริหารกระแสเงินสดรับและจ่ายได้ดีกว่าที่ฟิทช์คาดการณ์ไว้ในปี 2550 ถึงแม้บริษัทจะมีนโยบายจ่ายเงินปันผลที่สูงและมีการลงทุนในธุรกิจอื่น โดยปัจจัยดังกล่าวช่วยลดความกังวลของฟิทช์ต่ออัตราส่วนหนี้สินที่สูงขึ้นซึ่งมีผลทำให้ฟิทช์ปรับแนวโน้มเครดิตของ LH เป็นลบในเดือนพฤศจิกายน 2549
นอกจากนี้ ฟิทช์คาดว่าแนวโน้มที่ดีขึ้นของตลาดบ้านเดี่ยวและความสามารถในการชิงส่วนแบ่งตลาดจากผู้ประกอบการบ้านเดี่ยวรายเล็กน่าจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของกำไรและช่วยให้อัตราส่วนหนี้สินของบริษัทปรับตัวดีขึ้นได้ในปี 2551
สำหรับในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2550 ยอดหนี้สินสุทธิของ LH ลดลงเหลือ 1.21 หมื่นล้านบาทจากระดับ 1.32 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นปี 2549 ในขณะที่อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม ค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ลดลงมาที่ 3.0 เท่า จาก 3.6 เท่า ณ สิ้นปี 2549 การปรับตัวดีขึ้นของระดับหนี้สินสุทธิและอัตราส่วนหนี้สินเป็นผลมาจากการที่บริษัทลดการขยายโครงการใหม่ในปี 2550 ซึ่งทำให้มีการซื้อที่ดินใหม่ที่ไม่สูงมากนักและมีค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างโครงการใหม่ที่ลดลง รวมทั้งมีผลจากผลประกอบการที่ดีขึ้นของบริษัท
ขณะที่ผลประกอบการของ LH น่าจะยังคงแข็งแกร่งในไตรมาสที่ 4 ของปี 2550 ซึ่งน่าจะทำให้ระดับของหนี้สินสุทธิและอัตราส่วนหนี้สินลดลงต่อไปอีก แม้ว่าบริษัทจะมีแผนขยายโครงการใหม่ที่เพิ่มขึ้นในปี 2551 มีการจ่ายเงินปันผลที่ยังสูงอยู่ที่ระดับ 80% และมีความต้องการใช้เงินเพื่อลงทุนในกิจการอื่น ฟิทช์มองว่าความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งขึ้นและการที่บริษัทอาจจะมีการขายทรัพย์สินจะช่วยลดระดับของหนี้สินสุทธิและอัตราส่วนหนี้สินให้อยู่ในระดับที่สอดคล้องกับอันดับเครดิต ณ ปัจจุบันได้ภายในสิ้นปี 2551 อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของหนี้สินสุทธิและอัตราส่วนหนี้สินที่สูงกว่า 3.0 เท่า อย่างต่อเนื่อง อาจจะมีผลกระทบในทางลบต่ออันดับเครดิตได้
ทั้งนี้ อันดับเครดิตของ LH สะท้อนถึงความเป็นผู้นำในการประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยในประเทศไทย ชื่อเสียงอันแข็งแกร่ง ผู้บริหารที่มีประสบการณ์ LH เป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดและแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยในประเทศไทย โดยเป็นผลจากการที่ LH มีการถือครองที่ดินเปล่าจำนวนมากและความสามารถในการประหยัดเชิงต้นทุนจากขนาดการผลิตของโครงการขนาดใหญ่ของบ้านประเภทสร้างเสร็จก่อนขายบนทำเลที่ดีในกรุงเทพมหานคร รวมทั้ง LH ยังมีความแข็งแกร่งทางด้านการเงินและความสามารถในการสร้างกระแสเงินสด
อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตของ LH ได้พิจารณารวมถึงลักษณะความผันผวนของวัฎจักรธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัย รวมถึงความเสี่ยงจากความสามารถในการทำกำไรที่ลดลงจากการเพิ่มขึ้นของราคาที่ดินและวัสดุก่อสร้าง การที่ LH ขยายธุรกิจไปยังธุรกิจธนาคารที่เน้นการปล่อยสินเชื่อเพื่อรายย่อยทำให้บริษัทต้องเผชิญกับความเสี่ยงเนื่องจากบริษัทมีดำเนินธุรกิจธนาคารมาก่อน ในปี 2550 LH ได้มีการลงทุนเพิ่มอีก 301 ล้านบาท ในธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) เพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้นในธนาคารแห่งนี้
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|