สรุปธุรกิจโฆษณาปี'50 สื่อโรงหนังโตสุด


ผู้จัดการรายสัปดาห์(7 มกราคม 2551)



กลับสู่หน้าหลัก

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปตัวเลขธุรกิจโฆษณาปี 2550 ว่าภาพรวมธุรกิจโฆษณาในช่วงครึ่งปีแรกเกิดการชะลอตัว ขณะที่ในช่วงครึ่งปีหลังมีการปรับตัวที่ดีขึ้น โดยยอดการใช้เม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อในช่วง 9 เดือนแรกมีทิศทางที่ชะลอตัวลง ซึ่งจากการสำรวจของบริษัทนีลเส็น มีเดีย รีเสิร์ช (ประเทศไทย) พบว่าเม็ดเงินโฆษณาในช่วง 9 เดือนแรก มีมูลค่า 67,297 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าที่มีการขยายตัวเพียง 1.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน นับเป็นอัตราการเติบโตที่ต่ำสุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาเป็นรายไตรมาสในรอบปีที่ผ่านมา จะเห็นว่าไตรมาสสามการใช้เม็ดเงินมูลค่าสูงสุดด้วยเงินหมุนเวียน 23,663 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตสูงสุด 4.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งสอดคล้องกับการใช้งบของภาคเอกชนโดยรวมที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสสาม

สำหรับ สื่อที่ถือเป็นตัวสำคัญของการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาโดยรวมในปีที่ผ่านมา คือ สื่อโรงภาพยนตร์และสื่อภายในห้างร้านค้าที่สามารถขยายตัวอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ต้นปี 2550 ซึ่งสวนกระแสกับภาพรวม โดยดูจากตัวเลขในช่วง 9 เดือนแรก ที่เม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อโรงภาพยนตร์มีอัตราการเติบโต 158.7% ขณะที่สื่อภายในห้างร้านค้าเติบโต 125.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แต่จากมูลค่าเม็ดเงินดังกล่าวคำนวณแล้วก็มีเพียง 3,615 ล้านบาท นับว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับสัดส่วนทั้งหมด โดยคิดเป็น 5.4% ของเม็ดเงินโฆษณาโดยรวมในช่วง 9 เดือนแรกปี 2550 เท่านั้น

ฉะนั้น จึงไม่สามารถทำให้ภาพรวมธุรกิจโฆษณาเติบโตมากนัก เพราะสื่อหลักอย่าง สื่อโทรทัศน์ สื่อวิทยุ สื่อหนังสือพิมพ์ และสื่อนิตยสาร คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 89% ของเม็ดเงินโฆษณาทั้งหมด กลับได้รับผลกระทบอย่างชัดเจนจากบรรดาผู้ประกอบการทั้งหลายที่ปรับตัวตามสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซา ด้วยการลดต้นทุนและการใช้จ่ายงบโฆษณา ผ่านสื่อหลักข้างต้นที่มีราคาแพง ขณะเดียวกัน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และขนมขบเคี้ยวกลายเป็นสินค้าที่ถูกภาครัฐบาลเข้มงวดอย่างมากในการโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ เป็นผลให้ผู้ประกอบการและเอเจนซีเทน้ำหนักไปอยู่ที่การจัดกิจกรรมการตลาด ณ จุดขายมากขึ้น รวมทั้งการเพิ่มช่องทางใหม่ เช่น อินเตอร์เน็ต โทรศัพท์เคลื่อนที่

อย่างไรก็ตาม เม็ดเงินโฆษณาในช่วงไตรมาส 3 ปี 2550 ที่เติบโตเพิ่มขึ้นนั้น พบว่า มาจากการปรับกลยุทธ์การทำงานของเจ้าของสื่อประเภทต่างๆ อาทิ การปรับปรุงรูปแบบของรายการทางโทรทัศน์ รูปเล่มภายนอกของหนังสือพิมพ์ หรือเนื้อหาสาระของรายการที่นำเสนอหรือตีพิมพ์ รวมถึงการขยายช่องทางการสื่อสารไปยังสื่ออื่นๆ เพิ่มขึ้นอย่างสื่อโรงภาพยนตร์ และสื่อในห้างร้านค้า นอกเหนือจากสื่อหลักอย่างโทรทัศน์และวิทยุ เป็นต้น

ขณะในช่วงปลายไตรมาส 3 ต่อเนื่องถึงไตรมาส 4 ยังเป็นช่วงเวลาของการรณรงค์หาเสียงของพรรคการเมืองต่างๆ ภายหลังที่มีความชัดเจนจากรัฐบาลที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป (ส.ส.) ในช่วงปลายปี 2550 ส่วนภาครัฐก็ต้องเร่งประชาสัมพันธ์เพื่อให้เกิดการรับรู้แก่ประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งด้วย ซึ่งทางศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมาส่งผลให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในวงการโฆษณาผ่านสื่อประเภทต่างๆประมาณ 300-400 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 0.3-0.4% ของเม็ดเงินโฆษณาโดยรวมในปีนี้

ทั้งนี้ ในช่วงโค้งสุดท้ายปลายปีที่ผ่านมา นอกจากสื่อแต่ละประเภทจะได้รับอานิสงส์จากงบโฆษณาเลือกตั้งทั้งของหน่วยงานภาครัฐ และพรรคการเมืองแล้ว ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปียังเป็นช่วงเวลาของการเร่งกระตุ้นยอดขายสินค้าและบริการของผู้ประกอบการเพื่อให้บรรลุเป้าที่ตั้งไว้ด้วย ซึ่งศูนย์กสิกรมองว่ามีเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อที่เติบโต 1.2% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2550 และทั้งปีเติบโตได้ประมาณ 2-5%

ดังนั้น ปี 2550 เม็ดเงินโฆษณาจึงมีเม็ดเงินหมุนเวียน ประมาณ 92,000-94,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2-5% ขณะที่ในปี 2551 เชื่อว่ามีแนวโน้มจะกระเตื้องขึ้น และมีแนวโน้มเติบโตสูงกว่า ปี 2550 หรือเกินกว่า 4%


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.