ระบบหลังบ้าน

โดย ไพเราะ เลิศวิราม
นิตยสารผู้จัดการ( มิถุนายน 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

ทุกวันนี้ การมีเครือข่าย หรือ network ที่ครอบคลุมการใช้งานไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นที่สุดสำหรับโอเปอเรเตอร์โทรศัพท์มือถือเพียงอย่างเดียวอีกต่อไปแล้ว


โอเปอเรเตอร์โทรศัพท์มือถือของไทยเวลานี้ ยังต้องมีเรื่องของระบบหลังบ้านดีๆ อย่างเช่น ระบบชำระเงิน หรือ billing หรือระบบ call center ที่ต้องขยายไปถึงระบบความสัมพันธ์ลูกค้า Customer relation management หรือ CRM เป็นเรื่องจำเป็นสำหรับโอเปอเรเตอร์ทุกวันนี้ ที่ต้องลงทุนเพื่อรองรับกับความต้องการของลูกค้าที่มีความสลับซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ

เช่น กรณีการทำแพ็กเกจ my ที่ให้ผู้ใช้เลือกอัตราค่าบริการได้ด้วยตัวเอง และเลือกรอบบิลในการชำระเงิน หากไม่มีระบบบิลลิ่งที่ดีพอก็ยากจะรองรับได้

"ถ้าไม่มีระบบบิลลิ่งที่มีประสิทธิภาพที่ดีพอ คงทำแพ็กเกจในลักษณะนี้ไม่ได้" สันติบอกถึงการเตรียมพร้อมระบบหลังบ้าน ที่นอกจากระบบบิลลิ่งแล้ว ระบบ call center ร้านดีแทคชอป ก็ต้องรองรับกับการตอบคำถามเกี่ยวกับบริการเหล่านี้เช่นกัน

การตัดสินใจรื้อระบบหลังบ้าน สร้างระบบ c-care ของเอไอเอส ที่ใช้เงินลงทุนซื้อระบบจัดเก็บเงิน หรือ billing ขนาดใหญ่ ใช้ซอฟต์แวร์ GENEVA ก็ด้วยเหตุผลเหล่านี้

การเลือกใช้ซอฟต์แวร์ระบบชำระเงินหรือ billing ของ Amdocs จากอิสราเอล ของ ทีเอ ออเร้นจ์ ก็ด้วยเหตุผลที่ไม่แตกต่างกันนัก ความหลากหลายของเทคโนโลยี และบริการรูปแบบใหม่ ทำให้การคิดอัตราค่าบริการมีความสลับซับซ้อนมากขึ้น เช่น บริการส่งข้อความ MMS ที่คิดอัตราค่าบริการต่อครั้ง

บริการ non-voice ที่ผ่านเครือข่าย GPRS ที่ส่งเนื้อหาด้วยความเร็วที่มากขึ้น ส่งผลให้การคิดอัตราค่าบริการที่เป็นแพ็กเกจ ที่ต้องแยกกันระหว่างค่าแอร์ไทม์ และเนื้อหา เป็นตัวอย่างหนึ่งของความสลับซับซ้อนในเรื่องอัตราค่าบริการที่ต้องมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

โอเปอเรเตอร์ของไทยเวลานี้มองเห็นความสำคัญของระบบหลังบ้านไม่แตกต่างกัน ทั้งหมดนี้ต้องขึ้นอยู่กับว่า โอเปอเรเตอร์มือถือจะคิดค้นและใช้ประโยชน์จากเครื่องมือเหล่านี้ได้มากน้อยเพียงใด



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.