|
ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าหืดจับปีชวดทัพสินค้าจอภาพระเบิดไพรซ์วอร์
ผู้จัดการรายวัน(20 ธันวาคม 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
เดอะมอลล์ ระบุปีหน้าตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าโตน้อย 3-5% รับอานิสงส์ทัพสินค้าไอทีเข็นตลาดโต ส่วนจอภาพแข่งดั๊มราคาลงอีก มั่นใจสิ้นปีกำลังการซื้อผู้บริโภคฟื้นรับโบนัส "พาวเวอร์มอลล์" ทุ่ม 25 ล้านบาท ผุดงาน "แบงคอก อีเล็คโทรนิก้า 2008" หวังโกยยอดขายและกระตุ้นรายได้รวมปีนี้ทะลุ 7,000 ล้านบาท
นายอภิชาติ อัศวโภคี ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสสายบริหารงาน พาวเวอร์ มอลล์ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าในปี 2551 เชื่อว่า น่าจะมีการเติบโตประมาณ 3-5% ก็ถือว่าดีที่สุดแล้ว เพราะกลุ่มสินค้าประเภทจอภาพและเสียง โดยเฉพาะแอลซีดี ทีวี และพลาสม่า ทีวี กำลังอยู่ในช่วงปรับราคาลดลง ซึ่งปีหน้าน่าจะปรับลงได้อีกเล็กน้อย เพราะเริ่มถึงจุดอิ่มตัวสู่ระดับแมสเแล้ว ดังนั้นในแง่มูลค่า ลดลงแน่นอน ส่วนในแง่จำนวนยังคงมีปริมาณที่สูงขึ้น
ขณะที่กลุ่มไอทีปีหน้า เชื่อว่าจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 50% โดยเฉพาะสินค้าประเภทโน๊ตบุ๊ค และโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะเป็นเป็นสินค้าหลักที่จะทำให้ภาพรวมของตลาดยังเติบโตได้อยู่ ส่วนการแข่งขันของตลาดในปีหน้ามองว่า ราคายังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างรายได้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของเทคโนโลยี และดีไซน์ ที่จะเริ่มมีบทบาทในการทำตลาดมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม กำลังซื้อในช่วงปลายปีนี้ เชื่อว่าสำหรับตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าจะยังคงดีอยู่ เนื่องจากสินค้าประเภทนี้ ยังเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคมีความต้องการสูง บวกกับปลายปีจะมีเรื่องของโบนัสการทำงานที่จะมาช่วยให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อมากยิ่งขึ้น จึงน่าจะทำให้การเติบโตของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าช่วงสิ้นปีมีความคึกคักพอสมควร
ดังนั้นทางบริษัทฯจึงได้เตรียมจัดงาน แบงคอก อีเล็คโทรนิก้า 2008 ขึ้น ระหว่างวันที่ 20ธ.ค. 2550 -3 ม.ค.2551 ใน 2 สาขา คือ บางกะปิ และบางแค ภายใต้งบการจัดงานรวม 25 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 5 ล้านบาท โดยมีซัพพลายเออร์เข้าร่วมงานทั้งหมด 20 ราย ในระดับสินค้าเกรดเอ ขณะที่สินค้าจีนไม่ได้เข้าร่วมงาน คาดว่าจะมีรายได้ภายในงานกว่า 370 ล้านบาท แบ่งเป็น บางกะปิ 55% และบางแค 45% จากเดิมในปีก่อนทำได้ 350 ล้านบาท หรือช่วยทำให้รายได้รวมของพาวเวอร์มอลล์ปีนี้ เป็นไปตามเป้า 7,000 ล้านบาทได้ ขณะที่ปีหน้าคาดว่าจะมีรายได้เติบโตขึ้น 3-5%
นอกจากนี้ งานดังกล่าว บริษัทฯยังได้เพิ่มงบประมาณทางด้านโปรโมชัน และสินค้าพรีเมียมสูงขึ้นถึง 50% จากที่เคยใช้อยู่ที่ 5% ของเป้ารายได้ภายในงาน ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวมองว่า จะทำให้รูปแบบงานดังกล่าวแตกต่างจากงานแสดงผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป อีกทั้งยังต้องการหลีกหนีกลยุทธ์ทางด้านราคา เพราะเห็นว่ากลยุทธ์ดังกล่าวทำแล้วไม่คุ้ม ไม่เกิดกำไร อีกทั้งยังทำให้กลไกราคาในตลาดเสียหายด้วย
นายอภิชาติ กล่าวด้วยว่า พฤติกรรมลูกค้าที่เข้ามาใช้จ่าย ส่วนใหญ่กว่า 70% จะใช้ผ่านบัตรเครดิตและบัตรผ่อนสินค้าเป็นหลัก และอีก 30%ใช้เงินสด ซึ่งจำนวนผู้ที่ใช้ผ่านบัตรเครดิตเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากจะได้รับผลตอบแทนกลับมาที่ลูกค้าพอใจ แต่สำหรับบัตรผ่อนสินค้า กลับมีจำนวนลดลง ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะวงเงินเต็ม และอีกส่วนหนึ่งมาจากบริษัทเจ้าของบัตร ปล่อยสินเชื่อยากขึ้น
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|