|
ตลาดหลักทรัพย์ฯเล็งรื้อเกณฑ์ใหม่ เปิดทางสะดวกแบกดอร์ลิสติ้งง่ายยิ่งขึ้น
ผู้จัดการรายวัน(17 ธันวาคม 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ชี้ เตรียมทบทวนเกณฑ์ใหม่ เอื้อการจดทะเบียนทางอ้อมให้สะดวกรวดเร็วขึ้น ด้านบล.บีฟิท เผยรับเป็นที่ปรึกษาทำแบกดอร์บจ.ในกลุ่มเอ็นพีจี 2 บริษัท คาดเข้าซื้อขายในหมวดปกติได้ ม.ค.นี้ และอีกบริษัทในเดือนเม.ย.นี้
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะพยายามแก้ไขเกณฑ์ที่เป็นอุปสรรคสำหรับการเข้าจดทะเบียนทางอ้อม (แบกดอร์ลิสติ้ง) ซึ่งเป็นหนึ่งในการปรับปรุงเกณฑ์การรับหลักทรัพย์และการดำรงสภาพบริษัทจดทะเบียน(บจ.) เพื่ออำนวยความสะดวกในการเป็น บจ.และ จะทำให้มีการแบกดอร์ลิสติ้งได้สะดวกขึ้น เช่น กรณีกลุ่มทุนใหม่ที่จะเข้ามาแบกดอร์บจ.ในตลาดหุ้นหากมีสถานะแข็งแกร่ง ไม่จำเป็นต้องรอให้มีกำไรติดต่อกัน 3 ไตรมาสตามเกณฑ์เดิม เพราะจะทำให้ใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าจะสามารถกลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้นได้ตามปกติ
"ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะสนับสนุนให้มีการแบกดอร์ลิสติ้ง ซึ่งจะมีการทบทวนเกณฑ์ใหม่นี้ โดยจะพยายามลดขั้นตอนที่เป็นอุปสรรค โดยเฉพาะบริษัทใหม่ที่จะเข้ามาทำแบกดอร์หากมีฐานะเข้มแข็ง มีความจริงใจในการเข้ามาบริหารงานจริง และไม่อาศัยใช้แบกดอร์ลิสติ้งเป็นเครื่องมือในการแสวงหาประโยชน์ ตลาดหลักทรัพย์จะไม่กำหนดเกณฑ์ที่เข้มงวดเหมือนก่อนหน้านี้ เพื่อต้องการจูงใจให้มีการแบกดอร์ลิสติ้งมากขึ้น"นางภัทรียา กล่าว
ด้านนายธนกฤต เอื้อสงวนกุล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บีฟิท จำกัด (มหาชน)หรือ BSEC กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทรับเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการทำแบกดอร์ลิสติ้งอยู่จำนวน 2 บริษัท ที่อยู่ในกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่แก้ไขการดำเนินงานไม่ได้ตามกำหนด (NPG) ซึ่งคาดว่าจะกลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯในเดือนมกราคม 2551 ได้1 บริษัท โดยขณะนี้กลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่ที่จะเข้ามาอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าธุรกิจใหม่ที่จะดำเนินการจะเป็นธุรกิจอะไร
ส่วนอีก 1 บริษัท คาดว่าจะกลับมาซื้อขายได้ในช่วงเดือนเมษายน 2551 ซึ่งธุรกิจใหม่จะเป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สำหรับรูปแบบจะเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมจะลดทุน และเพิ่มทุนใหม่เพื่อเสนอขายหุ้นให้กับกลุ่มทุนใหม่ที่จะเข้ามา โดยกลุ่มทุนที่เข้ามาลงทุนนั้นจะเข้ามาซื้อในราคาที่สูงกว่ามูลค่าตามบัญชี (ราคาพรีเมียม) ซึ่งการที่กลุ่มทุนใหม่เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯโดยเลือกดำเนินการแบกดอร์ฯ เพราะ มีขั้นตอนในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่น้อยกว่าและรวดเร็ว รวมถึงยังได้ประโยชน์สิทธิทางภาษี เพราะบริษัทในกลุ่มNPGนั้น ต่างมีขาดทุนสะสม
สำหรับงานด้านที่ปรึกษาทางการเงินในการทำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ปีหน้านั้น บริษัทคาดว่าจะมีการยื่นความจำนงในการเข้าจดทะเบียนฯต่ำตลาดหลักทรัพย์ฯเพื่อได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี (FAST TAK) จำนวน 10 บริษัท และจะเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO)และเข้าเทรดในไตรมาส1/51 จำนวน 4 บริษัท
จากข้อมูลตลาดหลักทรัพย์ฯณวันที่ 29 พฤศจิกายน 2550 รายชื่อบริษัทที่อยู่ในกลุ่มเอ็นพีจี มีจำนวน 22 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท อะโกร อินดัสเตรียล แมชชีนเนอรี่ จำกัด (มหาชน)หรือ AMACบริษัทแอ็ดว้านซ์เพ้นท์ แอนด์ เคมิเคิล (ไทยแลนด์)จำกัด(มหาชน)หรือ APC บริษัท เอเพ็กซ์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)APXบริษัท บางกอกรับเบอร์ จำกัด (มหาชน)BRC
บริษัท กรุงเทพผลิตเหล็ก จำกัด (มหาชน)BSI บริษัท เซอร์คิทอีเลคโทรนิคส์อินดัสตรีส์ จำกัด (มหาชน) CIRKIT บริษัท เซ็นทรัลอุตสาหกรรมกระดาษ จำกัด (มหาชน)CPICO บริษัท พันธุ์สุกรไทย-เดนมาร์ค จำกัด (มหาชน)D-MARK บริษัท ไดโดมอน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)DAIDO บริษัท ดาต้าแมท จำกัด (มหาชน)หรือ DTM
บริษัท นครหลวงเส้นใยสังเคราะห์ จำกัด (มหาชน)หรือ HTX บริษัท แมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือ MGRบริษัท ปุ๋ยเอ็นเอฟซี จำกัด (มหาชน)หรือ NFC บริษัท นิวพลัสนิตติ้ง จำกัด (มหาชน)หรือ NPKบริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน)หรือ POMPUI
บริษัท ประสิทธิ์พัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ PYT บริษัท สหมิตรถังแก๊ส จำกัด (มหาชน)หรือ SMPC บริษัท ศรีไทยฟู้ด แอนด์ เบฟเวอร์เรจ จำกัด (มหาชน)หรือ SRI บริษัท ไทยเกรียง กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือ TDT บริษัท ไทย พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)หรือ TPROP บริษัท ทุนเท็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TUNTEX และบริษัท ยูนิเวอร์แซล สตาร์ช จำกัด (มหาชน) หรือ USC
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|