บล.กิมเอ็งฯฟุ้งศก.-หุ้นปี51สดใสมั่นใจช่วงต้นปีดัชนีแตะ1,000จุด


ผู้จัดการรายวัน(17 ธันวาคม 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

บล.กิมเอ็งฯ มองเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทยปีหน้ายังไปได้สวย มั่นใจการเมืองเริ่มคลี่คลายช่วยผลักดันให้ดัชนีตลาดหุ้นต้นปีแตะ 1,000 จุด และทั้งปีอยู่ที่ 1,200 จุด โดยมีกลุ่มวัสดุก่อสร้าง พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธนาคารเป็นตัวนำ

นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวในงานเสวนาเรื่อง "หมีป่วนหรือกระทิงดุ จับตาทิศทางเศรษฐกิจและตลาดหุ้นหลังเลือกตั้ง" ว่า ตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจและมีโอกาสขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อพิจารณาจาก P/E ของตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อต้นปี 2550 อยู่ที่ระดับ 10 เท่าและเพิ่มขึ้นเป็น 13.5 เท่าเมื่อช่วงกลางปี ซึ่งไม่สูงกินไปและยังมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก ขณะที่ค่า P/E ของตลาดต่างประเทศ 12-18 เท่า

ประกอบกับปัญหาการเมืองภายในจะหมดสิ้นไป เมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลที่มาจากระบอบประชาธิปไตย แม้ว่าอาจจะเป็นรัฐบาลผสม ซึ่งจะส่งผลดีในแง่ช่วยกันตรวจสอบการทำงานของคณะผู้บริหารประเทศ รวมถึงเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจที่จะแจ่มชัดขึ้น

"การเมืองจะเริ่มมีเสถียรภาพ ซึ่งจะส่งผลดีต่อจิตวิทยาของนักลงทุน ผลักดันการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยให้เศรษฐกิจมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชนจะใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจอีกทางหนึ่ง"

ส่วนปัจจัยลบเรื่องของราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น นายมนตรี กล่าวว่า เป็นไปตามวัฏจักรการขึ้นและลง ตามความต้องการที่มากขึ้น ซึ่งในหลายๆ ประเทศรวมทั้งไทยได้ริเริ่มหาพลังงานอื่นทดแทนอย่างจริงจัง อีกทั้งปัญหาซัพไพร์มในสหรัฐอเมริกาที่ยังคงให้ความสำคัญติดตามอย่างใกล้ชิด ด้านค่าเงินบาทที่แข็งค่าที่ส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออก ซึ่งผู้ประกอบการต้องรู้จักปรับตัว บริหารจัดการให้ดี และมองหาตลาดใหม่รองรับแทนตลาดในสหรัฐฯ ที่กำลังซื้อลดลง

ทั้งนี้ ในปี 2551 คาดว่าอัตรามวลรวมประชาชาติ หรือจีดีพี น่าจะโตได้ 5% โดยคาดว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้นปี 51 จะอยู่ที่ 1,000 จุด และตลอดทั้งปีที่ 1,200 จุด โดยมีกลุ่มสื่อสาร พาณิชย์ ค้าปลีก และบริโภคภายในประเทศเป็นตัวนำ รวมทั้งกลุ่มวัสดุก่อสร้าง พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธนาคาร เป็นต้น

"รัฐบาลชุดใหม่ต้องให้ความสำคัญกับเสถียรภาพทางการเมือง ราคาน้ำมัน และอัตราดอกเบี้ย หากสามารถผ่านพ้นวิกฤตในเรื่องดังกล่าวได้จะมีโอกาสสร้างผลกำไรที่ดี บวกกับรัฐบาลชุดใหม่ที่กำลังจะก้าวเข้ามาบริหารประเทศในต้นปีหน้ามีวิสัยทัศน์ด้านเศรษฐศาสตร์มหภาคอย่างเชี่ยวชาญและโปรงใส ซึ่งจะเรียกว่าความเชื่อมั่นอย่างดีต่อนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยคาดว่าดัชนีจะไปได้ถึง 1,700 จุด ในอีก 3-5ปีข้างหน้า"

นายพงศ์พันธุ์ อภิญญากุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) กล่าวว่า ช่วงนี้ตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงแกว่งตัวขึ้น โดยเป็นตลาดของนักค้าหุ้นยังไม่ใช่ตลาดของนักลงทุน ซึ่งมองการทำกำไรมองกว่าตัวหุ้นรายตัว โดยมีปัจจัยเสี่ยงคือ เศรษฐกิจของสหรัฐฯที่จะชะลอตัว รวมทั้งปัญหาการเมือง หากยังมีความขัดแย้งหลังการเลือกตั้ง

ส่วนปัญหาเรื่องของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT นั้น หากได้ข้อสรุปของการเช่าท่อก๊าซเรียบร้อยและเปิดให้มีการซื้อขายปกติ คาดว่าราคาหุ้นจะปรับตัวลดลงเล็กน้อย พร้อมแนะนำให้ซื้อ โดยราคาเป้าหมายอยู่ที่ 400 บาท

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นในปีหน้า คาดว่าตลาดหุ้นไทยจะมี P/E อยู่ที่ระดับ18 เท่า โดยกำไรของบริษัทจดทะเบียนจะเพิ่มขึ้น 26.7% ค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ขณะที่อัตราดอกเบี้ยคาดว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงจนถึงกลางปีหน้า ทั้งนี้ ในระยะสั้นแนะนำลงทุนในกลุ่มธนาคาร คือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY และกลุ่มธุรกิจเดินเรือ คือ บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA

ด้านแผนการดำเนินงานของบริษัทนั้น ปีหน้าบริษัทตั้งเป้าพยายามจะรักษาส่วนแบ่งการตลาดไว้ที่ 8-9% เน้นการพัฒนางานด้านการวิจัยและวาณิชธนกิจ โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และจัดตั้งกองทุนประมาณ 3-5 ราย


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.