กลุ่มซีคอนมั่นใจปี 51 ธุรกิจรับสร้างบ้านยังรุ่ง


ผู้จัดการรายวัน(13 ธันวาคม 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

"กลุ่มซีคอน" คาดหลังเลือกตั้งภาพตลาดรับสร้างบ้านสดใสต่อเนื่องจากปีนี้ พร้อมประเมินมูลค่าตลาดรวมรับสร้างปี 51 ไว้ที่ 8,500 ล้านบาท บ้านต่ำกว่า 2 ล้านบาทยังคงครองแชมป์ ระบุราคาน้ำมันส่งผลาต้นทุนพุ่ง 3-10% คาดปี 51 ผู้ประกอบการปรับราคาขาย 5-10%

นางสาวศุภิชชา ชัยพิพัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ซีคอน จำกัด และบริษัท คอมแพค โฮม จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านในปี 2550 ว่า โดยรวมธุรกิจรับสร้างบ้านยังขยายตัวได้ดี ท่ามกลางปัจจัยลบทางเศรษฐกิจและความไม่ชัดเจนทางการเมือง โดยมีสาเหตุมาจากผู้ประกอบการธุรกิจรับสร้างบ้านสามารถปรับตัวได้ดีขึ้น และการกลับมาของกำลังซื้อของธุรกิจรับสร้างบ้าน

ทั้งนี้คาดว่าตลาดรวมทั้งปีของบริษัทรับสร้างบ้านน่าจะมีมูลค่าเทียบเท่าหรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 2549 รวม 8,000 ล้านบาท โดยช่วงที่มียอดขายมากที่สุด คือ ไตรมาสที่ 3 เป็นผลมาจากการจัดงานของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านในเดือนสิงหาคม ซึ่งประสบความสำเร็จกับยอดจองภายในงานถึง 1,500 ล้านบาท มากกว่าที่สมาคมฯ ประเมินไว้ที่ 1,000 ล้านบาท

สำหรับกลยุทธ์ของธุรกิจรับสร้างบ้าน ส่วนใหญ่จะเป็นการสร้าง Brand Differentiate และวาง positioning ของตนเองให้ชัดเจน และจากการที่บริษัทรับสร้างบ้านต่างช่วยกันยกระดับมาตรฐานการสร้างบ้านเพื่อให้แตกต่างจากผู้รับเหมารายย่อย หลายบริษัทจึงหันมาทำตลาดบ้านระดับกลาง-ล่างมากขึ้น เพื่อขยายส่วนแบ่งทางการตลาด โดยอาศัยการเปิดบริษัทลูกเพื่อรับงานจากบริษัทแม่ หรือแตกบริษัทเพื่อเจาะตลาดใหม่ ด้านการบริการจะเป็นบริการแบบ One Stop Service ซึ่งมีทั้งการจับมือกับพันธมิตร หรือแตกบริษัทลูก เช่น เปิดบริษัทตกแต่งภายใน จัดสวน บางรายจัดทำบ้านพร้อมตกแต่ง

อย่างไรก็ตาม เพื่อสร้างความสะดวกสบายให้ลูกค้า และเพื่อเป็นการปรับตัวรับสภาวะเศรษฐกิจและแสวงหาโอกาสในการทำตลาดใหม่ๆ เพิ่มขึ้น บริษัทรับสร้างบ้านจึงเปิดสาขาในต่างจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดใหญ่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว หรือแหล่งคมนาคมขนส่ง ทั้งนี้เนื่องจากตลาดต่างจังหวัดยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก เพราะกว่า 90% จะสร้างบ้านเองมากกว่าซื้อบ้านจัดสรร และลูกค้าที่ติดต่อเข้ามาในปีนี้ก็เป็นลูกค้าจากต่างจังหวัดจำนวนมาก

นางสาวศุภิชชา กล่าวว่า หากพิจารณาภาพรวมการแข่งขันของธุรกิจรับสร้างบ้านพบว่า การแข่งขันโดยรวมในปีนี้หากเป็นบ้านระดับราคาต่ำ ยังคงเห็นการแข่งขันด้านราคาเป็นหลัก ส่วนบ้านราคาระดับกลางขึ้นไป จะเน้นคุณภาพมากกว่าราคา แต่จากการแข่งขันที่รุนแรงในช่วงปลายปี ส่งผลให้หลายบริษัทต้องหันมาใช้กลยุทธ์บ้านราคาเดิม ก่อนที่จะมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นในปีหน้า เพื่อทำยอดขายให้ได้มากที่สุด ถึงแม้จะมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง แต่ก็ยังเห็นถึงความร่วมมือกันระหว่างผู้ประกอบการรับสร้างบ้านเพื่อพัฒนาธุรกิจรับสร้างบ้านผ่านทางสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ที่เห็นได้ชัดในปีนี้ คือ การร่วมมือกันร่างสัญญามาตรฐาน เพื่อนำมาใช้ในปี 2551 เพื่อปกป้องสิทธิของผู้บริโภคไม่ให้โดนเอาเปรียบ สร้างความยุติธรรมให้กับทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภค

ด้านสถานการณ์ภายหลังการเลือกตั้งนั้นเชื่อว่าในช่วงแรกภาพรวมทุกธุรกิจรวมทั้งธุรกิจรับสร้างบ้าน จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เพราะนโยบายต่างๆ มีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งง่ายต่อการตัดสินใจลงทุนหรือขยายกิจการ แต่ปัจจัยลบต่างๆ ก็ยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะต้นทุนการก่อสร้างที่สูงขึ้น 3-10% อันเป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปีหน้าบริษัทรับสร้างบ้านหลายรายต้องปรับราคาขายให้สูงขึ้น 5-10% เพื่อให้ราคาแปรผันไปตามต้นทุน หลังจากไม่ได้ปรับหรือว่าปรับน้อยมากในปี 2550

"การแข่งขันในปีหน้า จะเน้นการสื่อสารกับลูกค้าโดยตรงมากขึ้น จากความสำเร็จอย่างมากของการออกบูธแต่ละครั้ง โดยเฉพาะงานใหญ่ของทางสมาคมฯที่จะจัดขึ้นช่วงเดือนสิงหาคมในทุกๆ ปี ซึ่งจากการสำรวจความคิดเห็นของผู้ที่เข้าร่วมชมงานรับสร้างบ้าน 2007 จำนวนประมาณ 9,000 ตัวอย่างพบว่า กว่า 50% มีแนวโน้มที่จะสร้างบ้านภายใน 1-2 ปี ข้างหน้า ทางสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านจึงประเมินมูลค่าตลาดบริษัทรับสร้างบ้านปี 2551 จะขยายตัวอยู่ที่ประมาณ 8,500 ล้านบาท" นางสาวศุภิชชา ชัยพิพัฒน์ กล่าว

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา 11 เดือนในปี 2550 ซีคอน โฮม สามารถสร้างยอดขายได้สูงถึง 260 หลัง รวมมูลค่า 700 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ประกาศไว้เมื่อต้นปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 650 ล้านบาท เช่นเดียวกับ คอมแพคโฮม ที่สามารถกวาดยอดขายได้ตามเป้าหลังเปิดตัวได้ 5 เดือน 80 ยูนิต รวมมูลค่า 110 ล้านบาท


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.