อาร์เอส พร้อมลงสนาม ประกาศแนวรุกบุกคอนเทนต์กีฬา

อาร์เอส พร้อมลงสนาม ประกาศแนวรุกบุกคอนเทนต์กีฬา

ผู้จัดการรายสัปดาห์(10 ธันวาคม 2550)

กลับสู่หน้าหลัก

การปรับทิศทางธุรกิจของอาร์เอส บริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่ ที่ประกาศลบภาพค่ายเพลงวัยรุ่นซึ่งหล่อเลี้ยงองค์กรมาร่วม 25 ปี หันหัวเรือสู่การเป็นผู้ให้บริการคอนเทนต์บันเทิง และกีฬา อันเป็นเส้นทางที่สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ บอสใหญ่อาร์เอส มองว่า จะสามารถผลักดันรายได้ของบริษัทให้เดินหน้า ในภาวะที่พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปจาก 25 ปีก่อนมหาศาล แต่เมื่อเดินทางมาเพียง 1 ปี ดูเหมือนเส้นทางใหม่ของอาร์เอส ดูเป็นเส้นทางที่ไม่ราบรื่น เกินกว่าความคาดหมายเหลือเกิน

คอนเทนต์บันเทิงหลายหลายรายการที่วางไว้ในการเป็นเรือธงที่จะเดินหน้าสร้างรายได้ นับแต่ปลายปี 2549 จนถึงปลายปี 2550 ล้วนตั้งอยู่บนความผิดพลาดครั้งแล้ว ครั้งเล่า การแข่งขันพลุชิงแชมป์โลก ในช่วงวันส่งท้ายปีถูกยกเลิกไปด้วยเหตุการก่อการร้าย วางระเบิดในกรุงเทพฯ ลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ทางโทรทัศน์ชุดอุลตร้าแมน ที่ร่วมลงทุนกับสมโพธิ์ แสงเดือนฉาย ก็ติดปัญหาการฟ้องร้องสิทธิ์อุลตร้าแมนในศาล ไม่สามารถนำออกฉายได้ ล่าสุด อีเวนต์ใหญ่ปลายปี การแสดงมายากล เดวิด คอปเปอร์ฟิลด์ ก็ถูกยกเลิกไปด้วยเหตุพ่อมดนักมายากล เล่นนอกบทโดนตั้งข้อหาคดีข่มขืน รวมถึงความพลาดหวังในผลงานที่ไปไม่ถึงอย่างที่เคยตั้งเป้าไว้ ทั้งงานภาพยนตร์ที่ออกฉาย เริ่มลดความร้อนแรงจากปีก่อน ๆ แสบสนิทศิษย์ส่ายหน้า ที่เคยทำรายได้ระดับ 100 ล้านบาท ในปีก่อน ๆ ไม่มีให้เห็นในปีนี้ ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ในธุรกิจเพลงก็ยังรุนแรงพอที่จะทำให้อาวุธเด็ดของบริษัท อย่าง ผลงานการแสดงคอนเสิร์ตโปงลางสะออน ต้องสะอื้นเพราะซีดีผียังระบาดหนัก

เป้าหมายรายได้ของธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์ คอนเทนต์โพรไวเดอร์ ของอาร์เอสในปีแรกที่เคยตั้งเป้าไว้ 3,500 ล้านบาท จึงต้องปรับลดลงเหลือเพียง 3,000 ล้านบาท

แม้คอนเทนต์บันเทิงจะเริ่มต้นได้ไม่สวยงาม แต่เฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ก็ยังไม่ถอดใจ เพราะวันนี้อาร์เอส ได้สร้างความพร้อมในคอนเทนต์กีฬา ที่จะเป็นอีกฟันเฟืองสำคัญของธุรกิจอาร์เอสในอนาคตได้แล้ว

อาร์เอสสานฝันธุรกิจกีฬา ตั้งเป้าปีแรกฟัน 500 ล้านบาท

หนึ่งในบริษัทลูกที่อาร์เอสเปิดตัวในปีนี้ และได้รับการจับตามองว่า เป็นบริษัทที่น่าจะมีอนาคตยาวไกล คือ การร่วมทุนกับวรวุฒิ โรจนพานิช ผู้กว้างขวางในวงการกีฬา โดยเฉพาะฟุตบอล ตั้งบริษัท อาร์เอส อินเตอร์เนชั่นแนล บรอดคาสติ้ง แอนด์ สปอร์ต แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ อาร์เอสบีเอส ที่มีลิขสิทธิ์การถ่ายทอดฟุตบอลโลก 3 สมัย นับแต่ปี 2010 จนถึง 2018 อยู่ในมือ ก่อนที่จะคว้าลิขสิทธิ์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ในปีหน้า ในเวลาต่อมา

อาร์เอสบีเอสได้รับสิทธิ์แบบ ออล มีเดีย ไรท์ จากสมาคมฟุตบอลยุโรป หรือยูฟ่า ในรายการฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2008 ที่จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 7 - 29 มิถุนายน 2551 รวมการถ่ายทอดสดทั้งหมด 33 แมทซ์ ซึ่งแน่นอนว่าเหล่าสปอนเซอร์น้อยใหญ่ต่างๆวิ่งเข้าหาอาร์เอส เนื่องจากกีฬาฟุตบอลถือเป็นหนึ่งในกีฬาที่ได้รับความนิยมจากผู้ชมชาวไทยจำนวนไม่น้อย และรายการนี้ถือเป็นการแข่งขันฟุตบอลรายการที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากฟุตบอลโลก โดยสปอนเซอร์หลักในขณะนี้มีแล้วจำนวน 3 - 4 ราย และมีโค สปอนเซอร์อีกหลายรายที่กำลังอยู่ในระหว่างเจรจา

ก้าวแรกหลังประกาศการได้รับสิทธิ์อย่างเป็นทางการคือการจับมือกับสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 และช่อง 9 ในการถ่ายทอดสด ซึ่งการดำเนินงานในครั้งนี้จะมีความพิเศษเหนือการถ่ายทอดในช่วงที่ผ่านมาด้วยการนำฟลีต หรือ เบื้องหลังเบื้องลึกต่างๆมานำเสนอให้แก่ผู้ชมชาวไทยได้ดู ในขณะที่สโลแกน ดูบอลแบบไม่มีโฆษณาคั่น ก็ยังคงไว้

นอกเหนือจากถ่ายทอดสดให้ชมกันทุกแมทช์ ในแง่ของรายการโทรทัศน์ที่ได้จับมือกับสองช่องยักษ์ใหญ่ อาร์เอสได้เตรียมผลิตรายการกว่า 17 รายการเพื่อโหมโรงการแข่งขันในครั้งนี้ โดยจะเริ่มแพร่ภาพรายการตั้งแต่เดือนเมษายนไปจนถึงเดือนมิถุนายน ซึ่งจะประกอบไปด้วยรายการรายงานเส้นทางการแข่งขันเข้าสู่ 16 ทีมสุดท้าย ,แนะนำนักแตะดาวเด่น ,เผยความพร้อมของการจัดแข่งขัน ,สัมภาษณ์พิเศษโค้ชและนักแตะดาวเด่น,รายงานข่าว,ผลการแข่งขัน ,ไฮไลท์เด็ดแต่ละคู่ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะนำเสนอผ่านรายการทีวี อาทิ เกาะติดยูโร 2008,Road To Euro 2008,Goal Moment Euro2008 ,Inside Euro 2008,Count Down Euro 2008,Highlight Euro 2008,เจาะลึก Euro 2008, Euro 2008 Daily Report , Euro 2008 Highlight Weekly ,Star Euro 2008,Before Kick-off และอื่นๆ ในขณะที่ผู้ฟังทางวิทยุสามารถรับฟังความเคลื่อนไหวต่างๆผ่านคลื่น อสมท. แอคทีฟ 99 เอฟเอ็ม ได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับการถ่ายทอดสดฟุตบอลแห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2008 จะเริ่มการแข่งขันในวันที่ 7มิถุนายน และรอบชิงชนะเลิศ 29 มิถุนายน 2551 โดยการแข่งขันจะเริ่มเตะสองช่วงเวลาได้แก่เวลาประมาณ 22.30 - 01.00 น. และ เวลา 01.00 - 03.45 น.

จุดกระแสยูโรผ่านบีโลว์เดอะไลน์ ควบคู่

นอกเหนือจากสื่อสารแบบอโบฟเดอะไลน์ของอาร์เอส กิจกรรมการตลาดแบบบีโลว์เดอะไลน์จะถูกนำมาใช้เป็นพระเอก ด้วยการเตรียมจัดอีเวนต์ใหญ่ๆเพื่อรองรับกับแฟนกีฬาทั่วประเทศที่จะมีโอกาสได้ร่วมสนุกและสร้างสีสันให้กับการแข่งขันกีฬาในครั้งนี้ โดยอาร์เอสบีเอสจะจัดกิจกรรม 2 แห่ง ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิล์ด และ ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ขณะเดียวกันจะโรดโชว์ตามหัวเมืองใหญ่ 10 จังหวัด อาทิ เชียงใหม่ นครสวรรค์ นครราชสีมา ขอนแก่น ชลบุรี เป็นต้น โดยรูปแบบของการจัดกิจกรรมในครั้งนี้จะมีการร่วมสนุกเล่นเกมส์เพื่อชิงของรางวัล รวมไปถึงการนำคอนเทนต์ความบันเทิงที่มีอยู่ของอาร์เอสมาร่วมแสดงโดยเฉพาะการนำดารา นักร้อง มาร่วมโชว์มินิคอนเสิร์ต ซึ่งจะเริ่มกิจกรรมดังกล่าวตลอดเดือนมิถุนายน

โดยงบประมาณที่อาร์เอสได้ทุ่มสำหรับการตลาดในครั้งนี้ อยู่ราว 180 ล้านบาท ซึ่งเหมารวมทั้งค่าเวลา ,การตลาดผ่านสื่อแบบอโบฟเดอะไลน์และบีโลว์เดอะไลน์ โดยอาร์เอสตั้งเป้าการดำเนินงานธุรกิจกีฬาว่าจะทำรายได้ในปีแรกกว่า 500 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนที่จะเติบโตขึ้นมาอีก 15 - 20 %

สุรชัย วางแผนการไว้ว่า จากนี้ธุรกิจกีฬาจะเริ่มสร้างรายได้ให้กับบริษัทอย่างต่อเนื่องจากสัญญาต่าง ๆ ที่บริษัทได้ทำไว้ ทำการเป็นผู้บริหารการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ที่ประเทศลาว และการแข่งขันฟุตบอลโลก ที่แอฟริกาใต้ในปี 2010 ซึ่งจะเริ่มสร้างกิจกรรมต่าง ๆ ออกมาตั้งแต่ปีหน้า

S-One จิ๊กซอว์สานต่อธุรกิจกีฬาอาร์เอส

วินิจ เลิศรัตนชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์เอส เฟรชแอร์ จำกัด อีกหนึ่งบริษัทร่วมทุนของอาร์เอส เปิดเผยว่า ในราวเดือนมีนาคมปีหน้า บริษัทฯ จะเปิดให้บริการสนามฟุตบอลหญ้าเทียมในร่มมาตรฐานสูงสุดแห่งแรกในประเทศไทย ในชื่อ S-One ที่ถนนบางนา-ตราด กิโลเมตรที่ 4 ซึ่งถือเป็นการรุกสู่การสร้างคอนเทนต์ด้านกีฬาโครงการแรกของกลุ่มอาร์เอส นับแต่ได้รับลิขสิทธิ์การถ่ายทอดฟุตบอลรายการใหญ่ระดับโลก 2 รายการมา ทั้งฟุตบอลยูโร 2008 และฟุตบอลโลก 2010 จนถึง 2018 ซึ่ง สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ บอสใหญ่อาร์เอส ฝากฝังให้วินิจรับไปดูแลควบคู่ไปกับงานโชว์บิซ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของอาร์เอส เฟรชแอร์

วินิจวางคอนเซปต์โครงการ S-One ให้เป็น Multipurpose Arena หรือสนามกีฬาอเนกประสงค์ ที่มีพื้นฐานเป็นสนามฟุตบอลขนาด 7 คน ปูพื้นด้วยหญ้าเทียมเกรดดีที่สุดในปัจจุบัน 4 สนามบนพื้นที่ 10,000 ตารางเมตร มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียบพร้อม ทั้งห้องน้ำ ห้องแต่งตัว ล็อกเกอร์รูม ร้านอาหาร ร้านค้า อินเทอร์เน็ตคาเฟ่ และระบบมัลติมีเดีย ทั้งภาพและเสียง จอถ่ายทอดบิ๊กสกรีน 2 ฝั่ง สามารถบันทึกการแข่งขันลงดีวีดี หรือจัดอีเวนต์ กิจกรรมทางดนตรี หรือกิจกรรมธุรกิจ เปลี่ยนแนวคิดของการสร้างสนามกีฬาด้วยการใช้เอนเตอร์เทนเมนต์เป็นตัวนำ ที่จะสามารถดึงผู้ใช้บริการได้กว้างขึ้น ทั้งนักเรียน คนทำงาน ไปจนถึงผู้บริหาร ก็สามารถมาใช้บริการ S-One แข่งขันฟุตบอลเพื่อความบันเทิงมากกว่าผลแพ้ชนะ

"ผมมองวิธีคิดในเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์ต้องเป็นตัวนำ ตามมาด้วยสปอร์ต ทำให้เราจะได้เซ็กเมนต์ผู้ใช้บริการอีกแบบ ขยายกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้น สร้างไลฟ์สไตล์การออกกำลังกายขึ้นใหม่ แทนที่จะไปวิ่ง เข้าฟิตเนส รวมกลุ่มมาเล่นฟุตบอล 7 คน ผู้บริหารอายุ 40-50 ปีก็เล่นกันได้ ที่ตั้งก็อยู่ใกล้เพียงแค่ถนนบางนา-ตราด กิโลเมตรที่ 4 ใช้เงินลงทุนรวมถึงการทำตลาดราว 100 ล้านบาท โดยอาร์เอสมองว่า โครงการนี้เหมาะที่จะลงทุน เพื่อสร้างความต่อเนื่องในการรุกสู่การเป็นสปอร์ต คอนเทนต์ โพรไวเดอร์ หลังจากที่ได้รับลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2008 และฟุตบอลโลก 2010 มา S-One จะเป็นเอาท์เล็ตที่จะเป็นจุดรวม กิจกรรมที่เกี่ยวกับกีฬา โดยเฉพาะฟุตบอลของอาร์เอสทั้งหมด จะมาอยู่ที่นี่"

วินิจวางแผนสร้างรายได้ให้กับ S-One โดยการจัดการแข่งขันในระบบลีก ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว จากกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ อาทิ สถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัย โรงเรียนนานาชาติ ธุรกิจต่าง ๆ เช่น ธนาคาร ทำให้รายได้ของ S-One มีหมุนเวียนตลอดทั้งสัปดาห์ คาดว่าภายใน 1 ปีจะมียอดผู้เข้าใช้บริการมากกว่า 1 ล้านคน ในส่วนของสปอนเซอร์ที่เข้ามาร่วมสนับสนุน 5 รายหลัก ประกอบด้วย ยามาฮ่า เอ็ม150 เนสกาแฟ ไอโมบาย และพานาโซนิค

กลับสู่หน้าหลัก

ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย