|

โบรกฯชี้หุ้นไทยผันผวนต่อ
ผู้จัดการรายวัน(11 ธันวาคม 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ยังคงผันผวนสูง โบรกฯระบุต้นสัปดาห์มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นได้หลังข่าวหนุนระยะสั้นเฟดเตรียมลดดอกเบี้ย ขณะที่ต้องลุ้นผลศาลปกครองตัดสินปตท.14 ธ.ค. พร้อมแนะรอจังหวะขายทำกำไรเหตุความเสี่ยงยังสูง บล.เกียรตินาคิน ชี้หากปตท.ถูกถอนดัชนีรูดหลุด 800 จุดแน่ ด้านบล.โกลเบล็กมองหุ้นอยู่ช่วงขาขึ้น เชื่อปตท.ไม่ถูกเพิกถอน แนะเข้าซื้อ
นายอดิศักดิ์ คำมูล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KGI กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้(11-14 ธ.ค.) จะค่อนข้างผันผวน เนื่องจากในวันที่ 11ธ.ค.นี้ ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (เฟด) จะมีการประชุมเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ย ซึ่งไม่ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% หรือ 0.25% ก็จะส่งผลทำให้ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นในระยะสั้นเท่านั้น เพราะนักลงทุนทราบแล้วว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยซึ่งเป็นไปตามที่คาด ขณะที่อาจจะมีแรงขายทำกำไรออกมาเนื่องจากจะต้องรอฟังผลการพิจารณาตัดสินคดีของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)หรือ PTT ในวันที่ 14 ธันวาคม 2550 โดยประเมินแนวรับที่ระดับ 814 จุดแนวต้านที่ระดับ 857 จุด
“เชื่อว่าดัชนีหุ้นสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นจะผันผวนซึ่งมีปัจจัยภายนอก และภายในประเทศ ซึ่งดัชนีอาจปรับตัวลดลงแรง โดยเชื่อว่านักลงทุนต่างประเทศจะขายทำกำไรออกมาจากที่เศรษฐกิจอเมริกายังคงชะลอ”นายอดิศักดิ์ กล่าว
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ จะเป็นช่วงขาขึ้น จากกรณีที่ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุซได้ออกมาแนวทางในการช่วยเหลือผู้ซื้อบ้าน ซึ่งจะบรรเทาในเรื่องปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์คุณภาพต่ำ (ซัพไพรม์) และจากการที่ เฟดจะมีการประชุมในเรื่องอัตราดอกเบี้ย ซึ่งบริษัทคาดว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในอัตรา 0.25% ซึ่งจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นในภูมิภาคปรับตัวเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่มากนัก จากยังมีแรงกดดันจากการที่ศาลปกครองสูงสุดจะมีการพิจารณาตัดสินคดีแปรรูปบริษัทปตท. แต่จากการที่นักลงทุนต่างประเทศมีการขายหุ้นออกไปอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าจะกลับเข้ามาซื้อสุทธิ โดยบริษัทแนะนำกลับมาซื้อหุ้นจากที่ผ่านมาแนะนำขาย จากที่มองว่าตลาดหุ้นอยู่ในช่วงขาขึ้น ประเมินแนวรับที่ระดับ 841 จุด แนวต้านที่ระดับ 860 จุด
นางวิริยา ลาภพรหมรัตน ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน กล่ววว่า ดัชนีในสัปดาห์นี้จะแกว่งอยู่ในกรอบ 820-860 จุด เนื่องจากมีปัจจัยที่ต้องติดตามคือ การประชุมของเฟดโดยส่วนใหญ่นักลงทุนและนักวิเคราะห์มองว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% และหากเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยในวันนี้อาจส่งผลให้ดัชนีมีการรีบาวน์ช่วงสั้นๆ โดยอาจเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 850 จุดได้
นอกจากนี้ จะต้องติดตามคดีของบริษัทปตท. โดยศาลปกครองสูงสุดจะมีคำตัดสินในวันศุกร์ที่ 14 ธันวาคมนี้ ว่าจะถูกถอดถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือไม่ ซึ่งหากผลออกมาเป็นลบก็อาจส่งผลให้ดัชนีปรับลดลงมากกว่า 800 จุด ได้ แต่หากผลออกมาเป็นบวกก็อาจส่งผลให้ดัชนีเพิ่มขึ้นกว่ากรอบแนวต้านที่ 860 จุด โดยประเมินกรอบแนวรับที่ 820 จุด โดยบริษัทแนะนำถือเงินสดก่อน เพื่อรอดูข้อมูลทั้งจากคดีของปตท. และการประชุมเฟดที่จะเกิดขึ้น
นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.นครหลวงไทย กล่าวว่า ดัชนีจะแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบๆ โดยเป็นลักษณะรอความชัดเจน เนื่องจากยังมีอีกหลานประเด็นที่นักลงทุนต้องติดตาม โดยในสัปดาห์นี้หากหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นอาจจะมีแรงขายทำกำไรออกมา แต่หากต้องการลงทุนแนะนำเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน เช่น TOP หรือ PTTEP เนื่องจากมองว่าราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้จะปรับตัวดีขึ้น ขณะที่มองกรอบดัชนีอยู่ที่แนวต้านอ850 จุด และแนวรับอยู่ที่ 830 จุด
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|