KBANKจับมือ3องค์กร สินเชื่อส่งออกหมื่นล้าน


ผู้จัดการรายวัน(20 พฤษภาคม 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

แบงก์กสิกรไทย (KBANK) จับมือ 3 องค์กรเปิดตัวสินเชื่อส่งออก เพิ่มทางเลือกและศักยภาพต่อรองให้ผู้ส่งออก จัดให้เอ็กซิมแบงก์ กสิกร แฟคเตอริ่ง และภัทรประกันภัย ค้ำประกันก่อนขอสินเชื่อแบงก์ ให้บริการครบวงจร ตั้งเป้าทั้งปีนี้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท คาดอีก 2 ปีมาร์เก็ตแชร์เพิ่มจากปัจจุบัน 10% เป็น 15% ของมูลค่าตลาดส่งออกรวมของไทยแต่ละปีประมาณ 2.9 ล้านล้านบาท

วานนี้ (19 พ.ค) ธนาคารกสิกรไทยจับมือ 3 องค์กร เปิดบริการสินเชื่อภายใต้ประกันการส่งออก (Trade Credit Insurance and Guarantee) ให้บริการ ทั้งเงินหมุนเวียน และประกันการส่งออกแบบวันสต็อปเซอร์วิส หวังช่วยเสริมการส่งออกสู่ตลาดการค้าใหม่ๆ

นายบุญทักษ์ หวังเจริญ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทยเปิดเผยว่า เพื่อสนับสนุนผู้ส่งออกของ ไทย ทำธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ และป้องกันความ เสี่ยงจากการส่งออก ธนาคารกสิกรไทยร่วมกับธนาคาร เพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) บริษัท ภัทรประกันภัย และบริษัท กสิกร แฟคเตอริ่ง เปิด ให้บริการสินเชื่อภายใต้การประกันการส่งออก (Trade Credit Insurance and Guarantee) เป็นบริการที่สนับสนุนด้านเงินทุนหมุนเวียน และประกันการส่งครบวงจรเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว โดยธนาคารกสิกรไทยเป็นศูนย์กลางให้บริการ

ธนาคารกสิกรไทยจะให้บริการวงเงินรับซื้อลดตั๋วส่งออกแก่ผู้ส่งออกที่ส่งสินค้าไปต่างประเทศ ขณะที่เอ็กซิมแบงก์ บริษัท ภัทรประกันภัย และบริษัท กสิกร แฟคเตอริ่ง จะให้บริการด้านประกัน/ค้ำประกันการส่งออก

ตั้งเป้าสินเชื่อส่งออกปีนี้หมื่นล้านบาท

ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อดังกล่าวปีนี้ประมาณ 1 หมื่นล้าน บาท โดยปัจจุบัน ธนาคารมีส่วนแบ่งตลาดธุรกิจด้านส่งออกประมาณ 10% ของมูลค่าตลาดส่งออกประมาณ 2.9 ล้านล้านบาท ตั้งเป้าภายในปี 2548 ธนาคารจะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเป็น 15%

เงื่อนไขขอสินเชื่อดังกล่าว ลูกค้าที่ใช้บริการ ต้อง ดำเนินธุรกิจไม่ต่ำกว่า 3 ปี ชำระเงินด้วยตั๋วเรียกเก็บผ่าน ธนาคาร เช่น ตั๋ว D/A (Document Against Acceptance), D/P (Document Against Payment) หรือเปิดบัญชีเงินเชื่อ (Open Account) เทอมชำระเงินค่าสินค้าส่งออกไม่เกิน 180 วัน

ส่วนการประกันการส่งออก จะคุ้มครองกรณีล้ม ละลาย และขาดชำระหนี้ของผู้ซื้อ การพักชำระหนี้ของ รัฐบาล ถูกยกเลิกใบอนุญาตนำเข้า เกิดเหตุปฏิวัติหรือ สงคราม และขาดชำระหนี้โดยรัฐวิสาหกิจ

ด้านนายธีรนันท์ ศรีหงส์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า บริการสินเชื่อภายใต้ประกันการส่งออก (Trade Credit Insurance and Guarantee) ธนาคารกสิกรไทยจะรับ ซื้อลดตั๋วส่งออก เพื่อช่วยให้ผู้ส่งออกไทยได้รับเงิน ค่าสินค้าเร็วขึ้น โดยไม่ต้องรอเวลาให้ถึงกำหนดชำระค่าสินค้า ซึ่งจะช่วยเพิ่มรอบใช้วงเงิน Packing Credit ให้เร็วขึ้น

เนื่องจากมีวงเงินรับซื้อตั๋วส่งสนับสนุน และจะได้รับเงินแน่นอน หากผู้ซื้อต่างประเทศไม่ชำระเงิน ค่าสินค้า สถาบันที่รับประกัน/ค้ำประกันจะชดใช้ค่าเสียหายให้ ซึ่งจะช่วยผู้ส่งออกมีโอกาสขยายสู่ตลาดใหม่ๆ ที่ยังไม่คุ้นเคย หรือตลาดที่มีความเสี่ยง ส่งออกได้มากขึ้น

บริการดังกล่าว ลูกค้าผู้ส่งออกจะได้รับความสะดวกใช้บริการมาก เนื่องจากจะเป็นบริการครบวงจรเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว ธนาคารกสิกรไทยจะมีเจ้าหน้าที่ความสัมพันธ์ลูกค้า เสนอบริการถึงบริษัทลูกค้า ทั้งบริการรับซื้อลดตั๋วส่งออก และข้อ เสนอประกันการส่งออก

การประกันการส่งออกนั้น ลูกค้าสามารถพิจารณาเปรียบเทียบเงื่อนไขให้บริการเพื่อเลือกใช้บริการประกันการส่งออกที่เหมาะสมกับธุรกิจของตนที่สุด จากสถาบันแห่งใดแห่งหนึ่ง จากทั้ง 3 แห่งได้

ธุรกิจค้ำประกันส่งออกโตกว่า 20% ต่อปี

นายสถาพร ชินะจิตร กรรมการผู้จัดการ เอ็กซิมแบงก์ กล่าวว่าปัจจุบัน ผู้ค้าในต่างประเทศเปลี่ยนแปลงวิธีชำระสินค้า จากปกติที่เคยเปิด L/C ปัจจุบันใช้วิธีชำระสินค้าแบบ Open Account ซึ่งทำให้ผู้ส่งออกมีความเสี่ยงมากขึ้น

เอ็กซิมแบงก์เอง พยายามจะช่วยลดความเสี่ยง ผู้ส่งออกทุกประเภท โดยช่วงที่ผ่านมา ค้ำประกันการส่งออก 2.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งยังถือว่าไม่มาก เมื่อ เทียบกับมูลค่าสินค้าส่งออกทั้งหมดของไทยแต่ละปี

แต่ธุรกิจค้ำประกันการส่งออกของเอ็กซิมแบงก์ ขยายตัวต่อเนื่องทุกปีๆ ละไม่น้อยกว่า 20%

"ผมอยากเรียกร้องให้ผู้ส่งออก หันมาให้ความ สนใจกับการค้ำประกันการส่งออก โดยเสียค่าธรรมเนียม 0.3-1% เท่านั้น แต่ก็สามารถที่จะจัดความ เสี่ยงที่เกิดขึ้นได้ นับว่าคุ้มค่า เพราะขณะนี้ อำนาจ การต่อรองส่วนใหญ่ จะอยู่ที่ผู้ซื้อสินค้า" นายสถาพร กล่าว

ซาร์สกระทบเศรษฐกิจฮ่องกงปีนี้ 0.4-1%

นายสถาพรกล่าวถึงผลกระทบสถานการณ์สงครามมะกัน-อิรักรอบ 2 และโรคหวัดมรณะ (ซาร์ส) ต่ออุตสาหกรรมส่งออกของไทยว่า สงคราม ไม่มีผลกระทบเชิงลบ กลับมีผลกระทบแง่บวก เห็นได้ว่าไตรมาสแรก การส่งออกของไทยขยายตัวน่าพอใจ เนื่องจากมีการสั่งสต็อกสินค้า และยุทธปัจจัยทั้งหลาย

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่ากังวล คือภาวะเศรษฐกิจ ประเทศต่างๆ ตกต่ำ โดยเฉพาะหลายประเทศได้รับผลกระทบปัญหาโรคซาร์ส ซึ่งทุกฝ่ายต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังไม่ฟื้นเร็วอย่างที่คาด ขณะที่ตลาดเอเชียก็มีปัญหาโรคซาร์ส

ประเทศต่างๆ ได้รับผลกระทบถ้วนหน้า โดยเฉพาะฮ่องกง ซึ่งคาดว่าจะกระทบอัตราขยายตัวเศรษฐกิจไทยปีนี้ 0.4-1%

ประเทศไทยอาจมีผลกระทบบ้าง โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ขณะที่ภาคส่งออกยังไม่ชัดเจน แต่ก็มั่นใจว่า เศรษฐกิจไทยน่าจะขยายตัวได้ไม่น้อยกว่า 6% ปีนี้



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.