|
ทาทาชูไทยฮับอาเซียน
ผู้จัดการรายวัน(7 ธันวาคม 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
ค่ายรถยักษ์จากอินเดีย “ทาทา” จับมือ “ธนบุรีประกอบรถยนต์” เปิดตัวลุยตลาดไทย และชูเป็นฐานการผลิตสำหรับอาเซียน ประเดิมรุกตลาดปิกอัพมีนาคมปีหน้า ด้วยเงินลงทุนกว่า 1.3 พันล้านบาท เผยตั้งเป้า 5 ปี ครองส่วนแบ่ง 5% ประกาศพร้อมรุกทุกเซกเม้นท์ ล่าสุดยืนความจำนงขอร่วมโครงการอีโคคาร์แล้ว ขณะที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โป ผ่านไป 8 วัน ยอดจองรถในงานเทียบกับปีที่แล้วพุ่ง 11.6%
ลงทุนผลิตปิกอัพ 1.3 พันล้าน
นายอาจิต เวนคาทารามัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวในการแถลงข่าวเปิดตัวบริษัทอย่างเป็นทางการครั้งแรกในไทยเมื่อวานนี้ (6 ธ.ค.) ว่า ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทย เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง ทาทา มอเตอร์ส ประเทศอินเดีย กับบริษัท ธนบุรีประกอบรถยนต์ ในอัตราส่วน 70 :30 เพื่อประกอบและทำตลาดรถยนต์ทาทาในไทย
“เราได้ลงทุนร่วมกัน 1.3 พันล้านบาท เพื่อขึ้นไลน์ประกอบปิกอัพทาทา เป็นโมเดลแรกสำหรับทำตลาดในไทย ซึ่งจะเริ่มเปิดตัวประมาณเดือนมีนาคมปีหน้า และตั้งใจว่าจะใช้ไทยเป็นฐานการผลิตรถ สำหรับภูมิภาคอาเซียนในอนาคต รวมถึงมีแผนที่จะมีผลิตภัณฑ์ไลน์ต่างๆ ที่น่าสนใจอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งล่าสุดนอกจากปิกอัพแล้ว ทาทา มอเตอร์ส ได้ยื่นความจำนงกับรัฐบาลไทย ที่จะรวมโครงการผลิตรถยนต์นั่งประหยัดพลังงาน หรืออีโคคาร์ด้วย”
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทาทาจะเริ่มจากการผลิตปิกอัพ 1 ตัน โดยได้มีการขึ้นไลน์ผลิตในไทยใหม่หมด ในพื้นที่ของบริษัทธนบุรีประกอบรถยนต์ จังหวัดสมุทรปราการ ด้วยกำลังการผลิตอยู่ที่ปีละกว่า 3.5 หมื่นคันต่อปี ซึ่งเบื้องต้นใช้ชิ้นส่วนประกอบในประเทศไทยประมาณ 45% และอีกไม่นานก็จะเพิ่มเป็น 50% โดยปัจจุบันมีซัพพลายเออร์ในไทยกว่า 40 ราย ซึ่งนอกจากจะผลิตชิ้นส่วนสนับสนุนทาทาในไทยแล้ว ยังได้มีการสั่งซื้อชิ้นส่วนส่งโรงงานทาทาที่อินเดียเช่นกัน
ตั้งเป้า 5 ปี ครองแชร์ปิกอัพ 5%
นายอาจิตกล่าวว่า แม้ตลาดรถยนต์ไทยจะมีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง และทำตลาดมานานหลายยี่ห้อ แต่ทาทาก็มีความมั่นใจ เพราะการที่จะผลิตรถออกมาแต่ละรุ่น ได้ให้ความสำคัญกับผู้บริโภคเป็นอันดับแรก จึงมีการสำรวจความต้องการ และผลิตรถออกมาตอบสนองผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด ซึ่งจุดเด่นของปิกอัพทาทาอยู่ที่เรื่องของดีไซน์ สมรรถนะการขับขี่ รวมถึงเครื่องยนต์คอมมอนเรล เจนเนอเรชั่น 2
“จากการมุ่งตอบสนองตามความต้องการของลูกค้า จึงมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคชาวไทย ซึ่งปิกอัพที่ทำตลาดจะมีทั้งแบบมาตรฐาน มีแค็บ และดับเบิลแค็ป พร้อมเครื่องยนต์ให้เลือกทั้ง 2.2 และ 3.0 ลิตร คอมมอนเรล โดยเบื้องต้นตั้งเป้ายอดขายตลอดทั้งปีประมาณ 5 พันคน และตั้งเป้าภายใน 5 ปี ทาทาจะมีส่วนแบ่งในตลาดปิกอัพ 5%”
ในส่วนของเครือข่ายการจำหน่าย คาดว่าเดือนมีนาคมจะสามารถเปิดให้บริการได้ประมาณ 20-25 ราย ครอบคลุมตามกลุ่มเป้าหมายของทาทา ซึ่งจะกระจายทั่วประเทศ และที่สำคัญช่วงแรกหากรถของลูกค้าเกิดปัญหาในพื้นที่จังหวัดไม่มีศูนย์บริการ ทาทามีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ฉะนั้นลูกค้าที่ซื้อรถจากทาทาไม่ต้องกลัวปัญหาการเข้าศูนย์บริการแต่อย่างใด
ประกาศพร้อมลุยทุกเซกเม้นท์
นายอาจิตกล่าวต่อว่า ทาทาเข้ามาลงทุนในไทยมองความมั่นคงระยะยาว ฉะนั้นการดำเนินงานทุกอย่างจึงไม่ได้มองที่ตัวเลขระยะสั้น โดยเฉพาะการใช้ไทยเป็นฐานผลิตรถ ซึ่งเบื้องต้นจะต้องผลักดันให้ปิกอัพของทาทาประสบความสำเร็จ และก็มีความพร้อมที่จะผลิตรถยนต์ประเภทอื่นๆ ด้วย เพราะทาทามีรถยนต์ที่หลากหลายแทบจะทุกประเภท ตั้งแต่รถยนต์นั่ง รถบรรทุกขนาดเล็ก ไปจนถึงรถขนาดใหญ่
“ล่าสุดทาทา มอเตอร์ส เพิ่งยื่นแสดงเจตจำนงขอร่วมโครงการอีโคคาร์ พร้อมกับรายละเอียดแผนปฏิบัติการเรียบร้อย แต่ขณะนี้ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพียงแต่ทาทามีความพร้อมทำตามเงื่อนไขอีโคคาร์ที่รัฐบาลไทยกำหนดทุกอย่าง”นายอาจิตกล่าว
มอเตอร์เอ็กซ์โปยอดจองพุ่ง
นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธาน บริษัท สื่อสากล และประธานจัดงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ครั้งที่ 24 เปิดเผยว่า ตัวเลขยอดจองรถยนต์ภายในงาน 8 วันแรก หรือตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย. – 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา มียอดจองไปแล้วทั้งสิ้น 8,945 คัน คิดเป็นยอดที่เพิ่มขึ้น 11.6% เมื่อเทียบในช่วงเวลาเดียวกัน
ทั้งนี้จากยอดจองที่เพิ่มขึ้น เป็นสัญญาณว่าลูกค้าในระดับบีบวก มีความกล้าในการใช้เงินจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นแล้ว โดยผู้ประกอบการที่ทำยอดจองมากกว่า 1 พันคันมี 4 ราย ประกอบด้วย โตโยต้า 2,467 คัน อีซูซุ 1,278 คัน ฮอนด้า 1,181 คันและเชฟโรเลต 1,125 คัน
ส่วนจำนวนผู้เข้าชมงานในช่วงเวลาดังกล่าว มีการเติบโตขึ้น 5.3% ซึ่งเชื่อว่าเป้าจำนวนผู้เข้าชมที่วางไว้ 1.6 ล้านคนน่าจะทำได้เกินเป้าหมาย ขณะที่ยอดจองรถในงานที่เคยตั้งเป้าไว้ 1.7 หมื่นคัน ในปีนี้น่าจะเห็นการเติบโตที่เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10% หรือคิดเป็นยอด 1.87 หมื่นคัน คาดว่าจะมีเงินสะพัดประมาณ 2 หมื่นล้านบาท และกลุ่มอุปกรณ์ตกแต่งอีกประมาณ 3 พันล้านบาท
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|