ขั้นตอนใหม่สำหรับการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น

โดย ภก.ดร. ชุมพล ธีรลดานนท์
นิตยสารผู้จัดการ( ธันวาคม 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

สำนวน "บ้านเมืองมีขื่อมีแป" ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 ให้ความหมายไว้ว่า "บ้านเมืองหรือประเทศย่อมมีกฎหมายคุ้มครอง" ซึ่งกฎหมายที่ว่าย่อมบัญญัติขึ้นมาเพื่อคุ้มครองให้เกิดความสงบสุขว่าด้วยสาระที่สอดคล้องกับสภาวการณ์ของประเทศนั้นๆ ซึ่งตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2007 ที่ผ่านมา ขื่อและแปที่ตราขึ้นมาใหม่ในประเทศญี่ปุ่นกลายเป็นขั้นตอนที่ชาวต่างชาติพึงรับรู้และปฏิบัติตามอย่างถูกต้องก่อนเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น

สืบเนื่องมาจากการก่อวินาศกรรมถล่มตึก World Trade Center ที่นิวยอร์ก จนกลายเป็นข่าวสลดไปทั่วโลก เมื่อ 11 กันยายน 2001 ซึ่งสร้างความเสียหายทั้งชีวิต และทรัพย์สินจำนวนมหาศาล อีกทั้งความรู้สึกและความเป็นอยู่ของผู้คนที่สูญเสียบุคคลในครอบครัวหรือเพื่อนฝูงภายหลังเหตุการณ์ 911 ซึ่งไม่สามารถประเมินค่าออกมาเป็นตัวเงินได้

สหรัฐอเมริกาได้ดำเนินมาตรการตอบโต้หลายประการในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในขณะเดียวกันกฎระเบียบหลายอย่างในการคุมเข้มการเดินทางเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาของคนต่างชาติถูกนำมาใช้ โดยเฉพาะการเดินทางโดยเครื่องบินและการตรวจคนเข้าเมือง กระนั้นก็ดี ภายหลังจากการก่อการร้ายในครั้งนั้นแล้วก็ยังมีการก่อการร้ายข้ามชาติที่รุนแรงซึ่งแฝงด้วยวัตุประสงค์หลากหลายจากกลุ่มก่อการร้ายที่ทั้งออกมาอ้างตัวและไม่ได้อ้างตามมาอีกหลายครั้งดังนี้ 12 ตุลาคม 2002 ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย 16 พฤษภาคม 2003 ที่โมร็อกโก, 11 มีนาคม 2004 ที่สเปน และล่าสุด 7 กรกฎาคม 2005 ที่ลอนดอน

หนึ่งในกระบวนการตอบโต้จากกองทัพสหรัฐอเมริกาและพันธมิตรซึ่งใช้เป็นเหตุผลในการโจมตีอิรักได้เริ่มขึ้นเมื่อ 20 มีนาคม 2003 และอีกหนึ่งปีถัดมารัฐบาล ญี่ปุ่นภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี Junichiro Koizumi ได้ตัดสินใจตอบรับเข้าร่วมเป็นหนึ่งในกองกำลังพันธมิตร นับเป็นการส่งกองกำลังป้องกันตัวเองแห่งราชอาณาจักรญี่ปุ่นออกนอกประเทศเป็นครั้งแรก หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อเฝ้าประจำการในอิรักตามคำเชิญชวนของประธานาธิบดี George W. Bush

ถึงแม้ญี่ปุ่นไม่ได้แสดงบทบาทสำคัญในระหว่างประจำการในสงครามอิรัก แต่นั่นอาจเพียงพอสำหรับการกลายเป็นชนวนเหตุที่ทำให้ญี่ปุ่นตกเป็นอีกเป้าหมายหนึ่งในการก่อวินาศกรรมครั้งต่อไปของกลุ่มก่อการร้ายข้ามชาติได้

ยิ่งไปกว่านั้น ทางการญี่ปุ่นยังสืบทราบว่าหนึ่งในแกนนำกลุ่ม Al-Qaeda ซึ่งเกี่ยวพันกับเหตุการณ์วินาศกรรมถล่มตึก World Trade Center เคยเดินทางเข้าออกประเทศญี่ปุ่นถึง 4 ครั้ง โดยปลอมชื่อที่ใช้ในหนังสือเดินทางก่อนถูกจับตัวได้ที่ประเทศเยอรมนี เมื่อปี 2003 เพื่อป้องกันการก่อการร้ายข้ามชาติที่อาจเกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นนั้น รัฐสภาไดเอทได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงกฎหมายควบคุมคนเข้าเมืองรวมทั้งกฎหมายการอนุญาตการพำนักของผู้อพยพ เมื่อ 24 พฤษภาคม 2006

โดยจัดสรรงบประมาณ 3.6 พันล้านเยนในการดำเนินการและติดตั้งระบบใหม่เพื่อตรวจสอบการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นที่ท่าอากาศยาน 27 แห่ง และท่าเรือ 126 แห่ง ทั่วประเทศ การตรวจเก็บข้อมูลชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่สองในโลกที่นำระบบนี้มาใช้หลังจากสหรัฐอเมริกาที่ได้เริ่มใช้มาตั้งแต่ปี 2004

คนต่างชาติที่ประสงค์เดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นนับแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2007 เป็นต้นไปจะต้องทำการพิมพ์ลายนิ้วมือทั้งนิ้วชี้ข้างซ้ายและข้างขวา จากนั้นจะต้องถ่ายรูปด้วยเครื่องตรวจสอบ "US-VISIT" ซึ่งเป็นระบบเดียวกับที่ใช้ตรวจสอบที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐอเมริกา

ในกรณีที่ข้อมูลลายพิมพ์นิ้วมือและรูปถ่ายมีส่วนสัมพันธ์กับฐานข้อมูลที่อยู่ใน Blacklist บุคคลนั้นจะถูกตรวจสอบอย่างละเอียดในขั้นตอนต่อไปที่อาจมีการสัมภาษณ์ในห้องแยกต่างหาก ซึ่งหากผลการตรวจสอบพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้ายจริงบุคคลนั้นจะถูกจับกุม แต่ถ้าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องดังกล่าวจะได้รับการพิจารณาอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศในขั้นตอนต่อไป

ในทางกลับกันบุคคลที่ไม่มีข้อมูลต้องสงสัยจะผ่านไปยังขั้นตอนการตรวจคนเข้าขั้นตอนเดิมก่อนประทับตราอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นได้สำหรับบุคคลที่ปฏิเสธให้ความร่วมมือในการพิมพ์ลายนิ้วมือ และถ่ายรูปจะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นโดยเด็ดขาด ขั้นตอนใหม่ในการตรวจคนเข้าประเทศญี่ปุ่นดังกล่าวจะได้รับการยกเว้นสำหรับชาวต่างชาติที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปี, บุคคลที่ได้รับอนุญาตให้พำนักในประเทศญี่ปุ่นเป็นกรณีพิเศษ, บุคคลที่ได้รับเชิญจากหน่วยงานราชการของประเทศญี่ปุ่นและบุคคลที่ได้รับการรับรองสถานภาพทางการทูตหรือราชการ

ทั้งนี้บุคคลที่พำนักในประเทศญี่ปุ่นเป็นระยะเวลานาน อย่างเช่นนักเรียนต่างชาติ นักธุรกิจ บุคคลที่สมรสกับชาวญี่ปุ่นรวมถึงบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้พำนักในประเทศญี่ปุ่นถาวรก็ไม่ได้อยู่ในข่ายที่ได้รับการยกเว้นการพิมพ์นิ้วมือและถ่ายรูปทุกครั้งที่เดินทางกลับถึงประเทศญี่ปุ่นแต่อย่างใด แม้ว่าจะมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าก็ตาม แต่ก็มีกลุ่มชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นเป็นเวลานานโดยเฉพาะชาวเกาหลีใต้และชาวจีนที่พยายามแสดงความไม่พอใจโดยการออกมาเรียกร้องและเคลื่อนไหวด้วยประเด็นที่ว่าขั้นตอนดังกล่าวถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล

ในขณะเดียวกันฝ่ายกองตรวจคนเข้าเมืองได้พยายามชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการนำระบบตรวจสอบแบบใหม่มา ใช้ด้วยเหตุผลความปลอดภัยของทั้งชาวต่างชาติและชาวญี่ปุ่น ซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันการก่อการร้ายข้ามชาติแล้วยังช่วยให้กรมตำรวจสามารถตรวจสอบและจับกุมผู้ร้ายข้ามแดน อาชญากร และชาวต่างชาติที่เข้ามากระทำผิดกฎหมายในประเทศญี่ปุ่นได้ง่ายขึ้นด้วย ขั้นตอนใหม่สำหรับการตรวจคนเข้าประเทศญี่ปุ่นจะสามารถป้องกันการก่อการร้ายข้ามชาติได้จริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงขั้นตอนเขียนเสือให้วัวกลัว คงต้องติดตามดูผลกันต่อไป แต่ที่แน่ๆ คือการเดินทางเข้าประเทศ ญี่ปุ่นนับจากนี้ไปจะต้องเตรียมพร้อมยอมรับระเบียบของขื่อและแปใหม่ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองทุกด่านของประเทศญี่ปุ่น


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.