"วิธีการสำรวจ"


นิตยสารผู้จัดการ( ธันวาคม 2535)



กลับสู่หน้าหลัก

วิธีการสำรวจ

1. ข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาเป็นงบการเงินที่คัดมาจากกรมทะเบียนการค้า กระทรวงพาณิชย์ ประจำปี 2533 โดยคัดมาจากกลุ่มบริษัทที่จดทะเบียนในเดือนตุลาคม 2530 และมีทุนจดทะเบียนมากกว่า 5.0 ล้านบาทขึ้นไป

2. จัดกลุ่มบริษัทที่คัดเลือกมาออกเป็น 7 กลุ่ม ตามประเภทธุรกิจคือ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจการค้า อุตสาหกรรมหนัก อุตสาหกรรมเบา ธุรกิจการเกษตร ธุรกิจบริการ และอุตสาหกรรมพลาสติก&เคมีภัณฑ์

3. เกณฑ์ที่ใช้วัดผลการดำเนินของกิจการมี 2 ประการคือ

1) ประสิทธิภาพในการดำเนินงาน โดยมีเกณฑ์ที่ใช้วัดดังนี้

(A) NET PROFIT MARGIN แสดงถึง กิจการสามารถสร้างกำไรคิดเป็นที่เปอร์เซ็นต์ของ

ยอดขาย ในที่นี้เรากำหนดให้กิจการที่สามารถมีผลตอบแทนจากกำไรสุทธิเป็นค่าบวก จัดเป็นกลุ่มบริษัทที่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากทุกกิจการที่ศึกษาในที่นี้มีอายุการดำเนินงานอยู่ภายใจ 3 ปี ซึ่งถือว่าเป็นช่วงของการเริ่มต้น ฉะนั้นหากสามารถดำเนินธุรกิจมีกำไรได้ ก็จัดว่ามีประสิทธิภาพในการดำเนินงาน

(B) TOTAL ASSETS TURNOVER แสดงถึง กิจการสามารพใช้ประโยชน์จากทรัพย์สิน

ในการก่อให้เกิดรายได้ ในที่นี้เรากำหนดให้กิจการที่มีอัตราหมุนเวียนของสินทรัพย์รวมเกิน 1 เป็นกลุ่มบริษัทที่มีประสิทธิภาพ แม้ว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้จะค่อนข้างต่ำ แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่พอยอมรับได้สำหรับช่วงเริ่มต้นของกิจการ

1) เสถียรภาพของกิจการ โดยมีเกณฑ์ที่ใช้วัดดังนี้

(C) CURRENT RATIO แสดงถึงสัดส่วนของสินทรัพย์ระยะสั้นต่อหนี้สินระยะสั้นเป็นตัว

บ่งบอกถึงความสามารถในการชำระหนี้ระยะสั้นของกิจการในที่นี้เรากำหนดให้กิจการที่มีอัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียนเกิน 1 เป็นกลุ่มบริษัทที่มีเสถียรภาพ ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงการที่กิจการสามารถป้องกันปัญหาสภาพคล่องได้ระดับหึ่ง หากประสบปัญหาการดำเนินธุรกิจ

(D) DEBT RATIO แสดงถึงหนี้สินรวมต่อทรัพย์สินรวม เป็นตับอกถึงโอกาสที่เจ้าหนี้จะ

ได้รับชำระหนึ้จากทรัพย์สินที่มีอยู่ของกิจการ ยิ่งค่าอัตราส่วนแห่งหนี้สูงเท่าไร ความเสี่ยวที่เจ้าหนี้จะได้รับชำระหนี้จากทรัพย์สินที่มีอยู่ก็มากขึ้นตามไปด้วย ในที่นี้เรากำหนดให้กิจการที่มีอัตราส่วนแห่งหนี้ไม่เกิน 0.5 เป็นกลุ่มบริษัทที่มีเสถียรภาพ ซึ่งเกณฑ์ดังกล่าวเป็นตัวสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าหนี้ โดยเจ้าของกิจการมีการใช้เงินลงทุนของตนเองไม่น้อยกว่าในส่วนของเจ้าหนี้

4. การจัดอันดับ จะพิจารณาตามเกณฑ์ในข้อ 3 โดยให้คะแนนตามจำนวนบริษัทที่มีคุณสมบัติ

เข้าเกณฑ์ตามเงื่อนไข A, B, C และ D คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ต่อจำนวนบริษัททั้งหมดในแต่ละกลุ่มธุรกิจ ทั้งนี้คะแนนรวมเฉลี่ยของเกณฑ์ A, B เป็นตัวบ่งบอกถึงความมีประสิทธิภาพของกลุ่มธุรกิจ ส่วนเกณฑ์ C, D เป็นตัวบอกถึงความมีเสถียรภาพของกลุ่มธุรกิจ

หมายเหตุ ข้อมูลส่วนหนึ่งมาจากฐานข้อมูล "Company Profile" ของศูนย์ธุรกิจศึกษา บริษัทบริการข้อมูลผู้จัดการ จำกัด ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลบริษัทมากกว่า 30,000 ราย



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.