เมเจอร์ฯผนึกบิ๊กซียึดตลาดภูธร


ผู้จัดการรายวัน(29 พฤศจิกายน 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

เมเจอร์ฯ ผนึกบิ๊กซี ร่วมหอลงโรงเป็นพันมิตรทำเลขยายสาขา ด้านเมเจอร์ฯ หวังยึดหัวหาดตลาดพื้นที่ภูมิภาค เพิ่มสัดส่วนสาขาในภูธรเป็น 40% นำร่อง 3 สาขาใหม่ของบิ๊กซีปีหน้า ส่วนบิ๊กซีหวังขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น

นายประพันธ์ เอี่ยมรุ่งโรจน์ รองประธานอาวุโสฝ่ายพัฒนาธุรกิจและอสังหาริมทรัพย์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บิ๊กซี ได้ร่วมมือเป็นพันธมิตรหลักด้านธุรกิจกับทางเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ ผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์รายใหญ่ของไทย เพื่อต้องการผลักดันให้บิ๊กซีเป็น วันสต๊อปชอปปิ้งมากขึ้น

จากผลการสำรวจของบิ๊กซี พบว่า พฤติกรรมของลูกค้าที่มาบิ๊กซีมีประมาณ 65% ที่มาซื้อสินค้าและทำกิจกรรมอื่น เช่น รับประทานอาหาร ซื้อสินค้าในพลาซ่า ชมภาพยนตร์ เป็นต้น โดยสัดส่วนที่มาซื้อสินค้าและชมภาพยนตร์จะมีสัดส่วนประมาณ 40% ดังนั้นการร่วมมือกับเมเจอร์ฯ ในการเปิดบริการโรงหนังในบิ๊กซีจะเป็นการตอบรับไลฟ์สไตล์ดังกล่าวได้อย่างลงตัว และยังเป็นการขยายฐานสู่กลุ่มวัยรุ่นเพิ่มขึ้นด้วย

นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การร่วมมือกับบิ๊กซีครั้งนี้เป็นไปตามยุทธศาสตร์แผนการลงทุน 2-3 ปีจากนี้ที่จะขยายสาขาให้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคโดยเฉพาะหัวเมืองใหญ่ เพื่อต้องการเพิ่มสัดส่วนการขยายสาขาในต่างจังหวัดเป็น 40% และในกรุงเทพฯ 60% ด้วยโมเดลธุรกิจ 4 แบบคือ สแตนด์อโลน, ศูนย์การค้าหรือชอปปิ้งเซ็นเตอร์, ดิสเคาน์สโตร์ และไลฟสไตล์เซ็นเตอร์ ซึ่งบิ๊กซีเป็นหนึ่งในโมเดลของดิสเคานต์สโตร์ที่มีฐานลูกค้าตรงกับเมเจอร์ฯ

โดยปัจจุบันนี้เมเจอร์กรุ้ปมีสาขาในต่างจังหวัดเพียง 20% และสาขาในกรุงเทพฯมากถึง 80% จากทั้งหมด 38 สาขา ในทุกแบรนด์ โดยการปรับสัดส่วนนี้เพื่อเป้าหมายการสร้างอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมภาพยนตร์โดยรวมเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้องการสร้างสัดส่วนตลาดหนังไทยให้เพิ่มเป็น 40% และตลาดหนังฮอลลีวู้ด 60%

ทั้งนี้แผนปีหน้าของความร่วมมือดังกล่าว นายวิชากล่าวว่า จะเปิดโรงหนังแบรนด์เมเจอร์ฯและโบว์ลิ่งที่บิ๊กซี 3 สาขาใหม่คือ บิ๊กซีสาขาอยุธยา สาขานวนคร และสาขาธัญบุรี

สำหรับที่ผ่านมา เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ได้เป็นพันธมิตรกับบิ๊กซี มาตั้งแต่ปี 2546 โดยเปิดให้บริการสาขาแรกกับแบรนด์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ที่บิ๊กซี นครสวรรค์ (ประกอบด้วย โรงภาพยนตร์ 5 โรง โบว์ลิ่ง 12 เลน คาราโอเกะ 9 ห้อง) ปี 2547 เปิด เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ที่บิ๊กซี ฉะเชิงเทรา (ประกอบด้วยโรงภาพยนตร์ 5 โรง โบว์ลิ่ง 12 เลน คาราโอเกะ 7 ห้อง) นอกจากนี้ ได้เปิดให้บริการในแบรนด์ อีจีวี เมื่อปี 2546 ที่ บิ๊กซี ราชดำริ (ประกอบด้วย โรงภาพยนตร์ 7 โรง) ปี 2548 เปิด อีจีวี ที่บิ๊กซี อ้อมใหญ่ และล่าสุดในปีนี้ เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2550 เปิดเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ที่บิ๊กซี ชลบุรี (ประกอบด้วย โรงภาพยนตร์ 4 โรง โบว์ลิ่ง 10 เลน คาราโอเกะ 8 ห้อง) รวมเปิดให้บริการ 5 สาขา ประกอบด้วยโรงภาพยนตร์ 26 โรง โบว์ลิ่ง 46 เลน คาราโอเกะ 36 ห้อง

นายประพันธ์กล่าวเสริมว่า ขณะนี้บิ๊กซีมี 54 สาขา ที่เปิดให้บริการแล้ว ส่วนในปีหน้ามีแผนที่จะเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 8 แห่ง รวมงบลงทุนกว่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งจะมีที่เป็นขนาดใหญ่มาตรฐาน 3 สาขาและมีเมเจอร์ฯเปิดบริการด้วย ส่วนอีก 5 สาขาจะเป็นรูปบคอมแพ็คหรือโมเดล G4 จากปรกติจะลงทุนประมาณ 3,000 ล้านบาท เปิดเพิ่ม 4-5 สาขาเท่านั้น

นายประพันธ์ เอี่ยมรุ่งโรจน์ รองประธานอาวุโสฝ่ายพัฒนาธุรกิจและอสังหาริมทรัพย์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การแข่งขันธุรกิจค้าปลีกช่วงปลายปีจะมีความเข้มข้นและคึกคักมากขึ้น เพราะเป็นช่วงเทศกาลหน้าขายสำคัญ ขณะที่กำลังซื้อของผู้บริโภคเองก็ยังไม่ค่อยดีมากนัก อีกทั้งราคาสินค้าก็มีการปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภคต้องรัดเข็มขัดเต็มที่

ล่าสุดทางบิ๊กซีได้ลดอัตราค่าเช่าพื้นที่ในฟู้ดคอร์ทให้กับพันธมิตรร้านค้าอาหารต่างๆ เพื่อไม่ให้มีต้นทุนที่สูงขึ้น เพื่อที่จะได้ตรึงราคาจำหน่ายอาหารให้กับผู้บริโภคได้เหมือนเดิม

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บิ๊กซีไม่ได้เป็นพันธมิตรรายเดียวของเมเจอร์ฯที่เข้าไปเปิดโรงหนังในดิสเคาน์สโตร์ เพราะว่าก่อนหน้านี้ เมเจอร์ฯก็เปิดสาขาในเทสโก้โลตัสซูเปอร์เซ็นเตอร์บ้างแล้ว เช่นที่สาขา เทสโก้โลตัสบางกะปิ เป็นต้น ส่วนในคาร์ฟูร์ยังไม่มี ขณะที่บิ๊กซีเองก็มีผู้ประกอบการโรงหนังบางค่ายที่เปิดบริการอยู่ในบิ๊กซีเช่นกันเช่น ที่บิ๊กซีสาขานครปฐม

นายวิชากล่าวต่อถึงกรณีบริษัทลูกคือ เอ็มพิคเจอร์ ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเข้าซื้อหุ้นในบริษัท ทราฟฟิกคอร์เนอร์ ซึ่งมีแผนที่จะต่อยอดธุรกิจด้วยการนำเอาหนังของเอ็ทมพิคเจอร์ไปฉายบนมือถือ หรือทีวีดาวเทียมซึ่งต้องรอผลการสรุปการเจรจาและการศึกษาก่อน


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.