ก้าวรุกพฤกษาฯ สู่ผู้นำอสังหาฯ ดึง 2 มือดีปั้นแบรนด์ใหม่เจาะตลาด


ผู้จัดการรายสัปดาห์(26 พฤศจิกายน 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

พฤกษาฯ ปรับโครงสร้างองค์กรระลอกใหญ่ แตก 2 แบรนด์ใหม่เคลื่อนทัพลุยตลาดเมือง ดึงผู้บริหารมือดีจากคิวเฮ้าส์-อารียาฯ เสริมทัพธุรกิจ เร่งอุดจุดอ่อนคุณภาพก่อสร้าง ปูทางสร้างชื่อเสียง–ฐานตลาดแกร่ง พร้อมลุยตลาดอินเดียคู่เวียดนาม ก่อนรุกคืบตลาดไฮเอนด์

หากทบทวนความเปลี่ยนแปลงในรอบปีที่ผ่านมาจะพบว่า พฤกษาฯ เป็นเพียงหนึ่งในดีเวลลอปเปอร์ไม่กี่รายที่มีการปรับตัวในเชิงรุก เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างน่าจับตา จึงไม่อาจจะปฎิเสธได้ว่า ปี 2550 จะกลายเป็น “จุดเปลี่ยน” ที่สำคัญของพฤกษาฯ จากผู้เล่นในตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบย่านชานเมือง ขยับขยายเข้ามาชิงแชร์ตลาดที่อยู่อาศัยในเมือง หวังที่จะเป็นผู้นำตลาดที่อยู่อาศัยระดับกลาง-ล่างทั้งในและนอกเมืองครอบคลุมทุกเซกเมนต์

แม้ตัวเลขที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้จะหดตัวลง 7.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สะท้อนให้เห็นถึงภาพรวมของตลาดที่ยังอยู่ในภาวะหดตัว แต่ยอดขายล่าสุดในไตรมาส 3 ของพฤกษาฯ กลับยังคงเติบโตสวนทางตลาด โดยมียอดขาย 3,470 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 119% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 1,587 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้ว 19% ที่มียอดขายอยู่ที่ 2,908 ล้านบาท โดยการเปลี่ยนแปลงของยอดขายเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง สามารถทำลายสถิติยอดขายของบริษัทฯ สูงสุดต่อเนื่องถึง 3 ไตรมาส ปัจจุบันมี Backlog รอโอน 6,198 ล้านบาทที่จะทยอยรับรู้รายได้ไปจนถึงปีหน้า

การเติบโตที่สวนกระแส เป็นสิ่งที่ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) (PS) บอกว่า มาจากการปรับตัวเข้าหาตลาดที่มีดีมานด์ โดยปีนี้ได้ปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่ มีการเพิ่ม 2 แบรนด์ใหม่ เพื่อรองรับแนวทางธุรกิจของพฤกษาฯ ที่ต้องการจะเป็นผู้นำตลาดในเซกเมนต์กลาง-ล่างครอบคลุมในทุกทำเล ได้แก่ “The Plant” ทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น ราคา 2-3.5 ล้านบาท และบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ราคา 2.5-5 ล้านบาท ในย่านชุมชนเมือง ที่เน้นสไตล์โมเดิร์น และ “The Seed” คอนโดมิเนียมเกาะแนวรถไฟฟ้าใจกลางเมือง ราคา 9.8-1.4 ล้านบาท หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เปิดตัว “IVY” คอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่ เกาะแนวรถไฟฟ้าย่านซีบีดี ราคา 1.4-5 ล้านบาท เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายระดับบนที่เปิดตัวไปแล้ว 2 โครงการ โดยโครงการล่าสุด “IVY Sathorn 10” จำนวน 290 ยูนิต ราคาขาย 70,000-80,000 บาทต่อ ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.9 ล้านบาท ขณะนี้มียอดขายแล้ว 60%

ปัจจุบันพฤกษาฯ มี SBU (Strategic Business Unit) หรือหน่วยธุรกิจเชิงกลยุทธ์ รวม 7 SBU ได้แก่ ทาวน์เฮาส์, บ้านเดี่ยวแบรนด์ “ภัสสร”, บ้านเดี่ยวแบรนด์ “พฤกษา วิลเลจ”, คอนโดมิเนียม 1 (IVY, City Ville และ The Tree), คอนโดมิเนียม 2 (The Seed), โรงงาน Precast และบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ในนาม “บริษัท เกสร ก่อสร้าง จำกัด” ซึ่งในอนาคตจะมีหน่วยใหม่เพิ่ม เพื่อดูแลตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะ คือ อินเดียและเวียดนาม ที่พฤกษาฯ มีแผนจะลงทุนคอนโดมิเนียมในปีหน้า เพื่อเจาะตลาดระดับล่าง ภายใต้งบลงทุน 1,000 ล้านบาท

สำหรับตลาดคอนโดมิเนียม ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่ไม่คุ้นเคย พฤกษาฯ ได้ดึงผู้บริหารมือดี “วรรณา ชัยสุพัฒนากุล” อดีตผู้บริหารจากบริษัท แผ่นดินทองฯ พร้อมทีมการตลาดครบชุด เข้ามารับภารกิจปั้นแบรนด์ IVY, อรนุช อิติโกศล อดีตผู้อำนวยการอาวุโส จากบริษัท อารียา พร็อพเพอร์ตี้ฯ หนึ่งในผู้ปลุกปั้นแบรนด์ “A Space” เข้ามาดูแลแบรนด์ The Seed ให้ติดตลาดท่ามกลางกระแสตลาดซิตี้คอนโดที่แข่งขันอย่างรุนแรง นอกจากนี้ยังดึงพรเทพ พิพัฒน์ทั้งสกุล อดีตผู้อำนวยการฝ่ายโครงการบ้าน บริษัท คาซ่า วิลล์ จำกัด เข้ามาดูแลบ้านเดี่ยว “พฤกษา วิลเลจ” หลังจากเป็นหัวหอกในการปั้นแบรนด์คาซ่าจนประสบความสำเร็จ และมีส่วนทำให้ควอลิตี้ เฮ้าส์ (QH) บริษัทแม่มีการเติบโตอย่างมากในปีนี้ ทั้งหมดกลายเป็นการเติมเต็มให้พฤกษาฯ มีความแข็งแกร่ง พร้อมที่จะรุกตลาดในเซกเมนต์ใหม่ๆ ในปีนี้และปีหน้า ซึ่งในเซกเมนต์ระดับบน ราคา 5 ล้านบาทขึ้นไปก็อยู่ในความสนใจของพฤกษาฯ เช่นกัน แต่ต้องรอดูภาวะตลาดในปีหน้าอีกครั้ง

แม้การควบคุมต้นทุนก่อสร้างอย่างมีประสิทธิภาพจะเป็นจุดแข็งที่ทำให้ราคาบ้านของพฤกษาต่ำกว่าคู่แข่ง แต่สิ่งที่ยังเป็นปัญหา คือ คุณภาพบ้านที่ยังมีการร้องเรียนจากลูกค้าอยู่ ซึ่งพฤกษาฯ ได้เร่งปรับปรุง ลดจำนวนการร้องเรียนเรื่องคุณภาพบ้าน โดยการปรับวัสดุก่อสร้างให้มีคุณภาพที่ดีขึ้น เพิ่มช่องทางรับเรื่องร้องเรียนของลูกค้าผ่านแต่ละ SBU โดยตรง ทำให้สามารถดูแลลูกค้าได้ทั่วถึงขึ้น ลดความผิดพลาดให้เหลือน้อยที่สุด ซึ่งการปรับตัวดังกล่าวถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าทั้งในปัจจุบันและอนาคตที่จะมีเพิ่มขึ้นตามการขยายไปยังตลาดใหม่ๆ เป็นการปูทางก่อนที่พฤกษาฯ จะรุกไปยังตลาดบน ที่ “แบรนด์” และ “คุณภาพ” มีผลต่อการตัดสินใจซื้อมากกว่าราคาที่ดึงดูดใจ


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.