“บิ๊กซี”ทุ่ม4พันล.รุกปีหน้าผุดอีก8สาขาเน้นคอมแพค


ผู้จัดการรายวัน(21 พฤศจิกายน 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

บิ๊กซีทุ่มงบกว่า 4,000 ล้านบาท ขยายสาขาเพิ่ม 8 สาขา มุ่งไซส์คอมแพคมากกว่าสแตนดาร์ด ย้ำไม่เกี่ยวกับ พรบ. ค้าปลีก หวังเรียกเงินเข้ากระเป๋ามากขึ้น ส่วนปีนี้ตบท้ายสาขา 54 ที่หางดง เชียงใหม่ ภายใต้รูปแบบการตกแต่งแบบสู่ยุค G4 หวังดูดเงินลูกค้าเพิ่มขึ้น 20% ส่วนสาขาเก่าจะปรับสู่รูปแบบเดียวกัน คาด 5 ปีเรียบร้อยทุกสาขา

นายประพันธ์ เอี่ยมรุ่งโรจน์ รองประธานอาวุโสฝ่ายพัฒนาธุรกิจและอสังหาริมทรัพย์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนการลงทุนขยายสาขาในปีหน้า จะมีการเปิดเพิ่ม 8 สาขา ภายใต้งบลงทุนประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท โดยกว่า 5-6 สาขา จะเป็นสาขาไซส์คอมแพค ขนาด 4,500-6,000 ตารางเมตร เช่น สาขากระบี่ สุโขทัย และเพชรบูรณ์ และจะเป็นไซส์สแตนดาร์ด 2-3 สาขา พื้นที่ 10,000 ตารางเมตรขึ้นไป คือ อยุธยา และนวนคร ซึ่งทางบริษัทฯมองว่า การขยายสาขาเพิ่มในลักษณะดังกล่าวจะช่วยในแง่การสร้างยอดขายได้มากขึ้น เพราะมีความสามารถในการขยายสาขาที่มากขึ้นจากปกติที่จะเพิ่มปีละ 5 สาขา แต่จะเป็นขนาดสแตนดาร์ดมากกว่า

"แผนการขยายสาขาที่มุ่งเน้นเกี่ยวกับขนาดให้เล็กลง เป็นแผนที่วางไว้อยู่ก่อนแล้วตั้งแต่ปีก่อน โดยมีเรื่องของขนาด และทำเลเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับ พรบ. ค้าปลีกที่กำลังจะเกิดขึ้น ทั้งนี้ยังมองว่า ณ เวลานี้ พรบ.ค้าปลีกยังไม่มีความชัดเจน จึงมีความกังวลในเรื่องของความไม่แน่นอนต่างๆ และห่วงเรื่องกรรมการและนโยบายของการร่าง พรบ. ค้าปลีกมากกว่าที่จะกลัวว่า จะผลลบต่อการดำเนินธุรกิจ"

นางสาวจริยา จิราธิวัฒน์ รองประธานฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯยังคงขยายสาขาอย่างต่อเนื่องในปีนี้ โดยล่าสุดได้ทุ่มงบ 800 ล้านบาท เปิดตัวสาขาที่54 และเป็นสาขาที่8ของทางภาคเหนือในรูปแบบสแตนดาร์ด บนพื้นที่รวม 78,108 ตารางเมตร แบ่งเป็นสโตร์ประมาณ 9,412 ตารางเมตร พลาซ่า 35,000 ตารางเมตร และฟู้ดคอร์ทประมาณ 14,000 ตารางเมตร

โดยมีภาพลักษณ์ที่เป็นเจนเนอเรชั่นที่ 4หรือ G4เต็มรูปแบบ ที่ต้องมีความทันสมัย มีความเป็น Hypermarket & Modern Shopping เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ภายใต้แนวคิด ทันสมัยและโฉบเฉี่ยว และมีการใช้พื้นที่ให้สอดคล้องกับประโยชน์ใช้สอย และสร้างการดึงดูดลูกค้าด้วยกลยุทธ์ รูป รส กลิ่น เสียง โดยมีการวางจัดวางสินค้าออกเป็น 3 หลัก คือ 1. World Market แผนกอาหารสดและอาหารแห้ง 2. World Home แผนกเครื่องใช้ในบ้านและเครื่องใช้ไฟฟ้า และ3. World Fashion แผนกแฟชั่น เช่น เสื้อผ้า คาดว่าจะเป็นตัวผลักดันให้ลูกค้ามีการซื้อสินค้ามากขึ้นอีก 20% ของการซื้อในแต่ละครั้ง หรือจากเดิมที่เคยซื้อสินค้าสินค้า 10ชิ้น จะเพิ่มเป็น 12 ชิ้น

นางสาวจริยา กล่าวต่อว่า สำหรับรูปแบบ G4 จะถูกนำไปใช้กับสาขาทั้งหมดด้วย คาดว่าจะมีการรีโนเวตได้ครบภายในระยะเวลาประมาณ 5 ปีนับจากนี้ โดยขึ้นอยู่กับแต่ละสาขาด้วย ที่บางสาขาอาจจะสามารถปรับได้เพียงบางแผนกเท่านั้น โดยในปีหน้าจะมีการรีโนเวตประมาณ 5สาขา เช่น บางพลี สุขสวัสดิ์ สุราษฎร์ธานี และอุบลราชธานี ภายใต้งบประมาณ 1,000 ล้านบาท หรือใช้งบรีโนเวตต่อสาขาที่ 130 ล้านบาท อย่างไรก็ตามปีนี้ทางบริษัทฯได้มีการนำรูปแบบ G4 ไปใช้กับสาขาที่ 52 ที่ชลบุรี และสาขาที่ 53 ที่บุรีรัมย์ด้วยและยังไม่เต็มรูปแบบ


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.