รับสร้างบ้านดิ้นสู้น้ำมันแพง


ผู้จัดการรายวัน(19 พฤศจิกายน 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

รับสร้างบ้านดิ้นปรับตัว หลังเจอภาวะน้ำมันแพงต้นทุนพุ่ง น้องใหม่ "คอมแพ็ค" ไอเดียเก๋ บ้านมาตรฐานราคาเดียว หนุนลูกค้าตัดสินใจเร็วขึ้น ร่นเวลาเจรจาลูกค้าเหลือไม่เกิน 2 เดือน ป้องกันความเสี่ยงเรื่องเวลาในยุคน้ำมันแพงราคาวัสดุปรับขึ้นรายวัน

จากภาวะราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ ต้นทุนขนส่ง ราคาวัสดุก่อสร้างปรับตัวสูงขึ้นตาม ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่สำหรับธุรกิจรับสร้างบ้านในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้หลายฝ่ายยังเกรงกันว่าราคาน้ำมันจะวิ่งขึ้นไปทะลุ 100 เหรียญสหรัฐ/บาเรลล์ ทำให้บริษัทรับสร้างบ้านเริ่มหันมาปรับตัวยำกใหญ่เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นตามมา

นางสาวศุภิชชา ชัยพิพัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ซีคอน จำกัด กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ต้นทุนก่อสร้างปรับเพิ่มขึ้น ในขณะที่การแข่งขันในตลาดทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ทำให้การปรับราคาค่าก่อสร้างทำได้ยาก ดังนั้นสิ่งที่จะอยู่รอดในตลาดได้จะต้องปรับตัว หากลยุทธ์ใหม่ๆ เพื่อลดต้นทุนการผลิต

สำหรับ ซีคอนดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องยากนักเพราะลูกค้าสามารถรับกับราคาที่ปรับเพิ่มขึ้นได้ แต่ในส่วนของ คอมแพ็คโฮมซึ่งเป็นบริษัทน้องใหม่ของซีคอน ที่เปิดตัวมาเพื่อรับงานสร้างบ้านในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ในระดับราคา 7 แสนบาท ถึง 2 ล้านบาทแล้วจะต้องมีการความคุมต้นทุนการก่อสร้างให้ดี รวมไปถึงการก่อสร้างให้เร็วขึ้นเพื่อลดค่าใช้จ่าย

ทั้งนี้กลุ่มบริษัทซีคอนถือได้ว่าเป็นผู้นำในเรื่องการก่อสร้างสำเร็จรูปทำให้การก่อสร้างรวดเร็วขึ้น ซึ่งโดยปกติการก่อสร้างบ้านขนาดเล็กจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2-3 เดือน และบ้านกลังใหญ่ 7-8 เดือน ที่ผ่านมาบริษัทได้ร่นระยะเวลาก่อสร้างลงโดยบ้านหลังเล้กให้เหลือเวลาก่อสร้างเพียง 2 เดือน และบ้านหลังใหญ่เหลือ 6-7 เดือน ทำให้ช่วยลดต้นทุนลงไปได้มาก

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการก่อสร้างจะสามารถทำได้รวดเร็ว แต่ในปัจจุบันราคาสินค้ามีความผันผวนอย่างมากทำให้เป็นอุปสรรคในการทำธุรกิจอย่างหนึ่ง รวมไปถึงระยะเวลาเจรจากับลูกค้าจนกระทั่งเซ็นสัญญา หากใช้เวลานานจะทำให้บริษัทมีความเสี่ยงมากขึ้น ดังนั้นจึงกำหนดการเจรจากับลูกค้าจนกระทั้งเซ็นสัญญาต้องใช้เวลาภายใน 2 เดือน จากเดิมเฉลี่ยประมาณ 3 เดือนขึ้นไป

"หากเราเจรจากับลูกค้าได้เร็ว ก็จะทำให้สร้างบ้านได้เร็วส่งมอบเร็ว เราก็ไม่ต้องไปแบกรับภาระเรื่องความผันผวนของต้นทุนวัสดุ เพราะการสร้างบ้านขนาดเล็กเรามีกำไรน้อยอยู่แล้วทำให้ต้องควบคุมให้ดี" นางสาวศุภิชชากล่าว

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแนวคิดที่จะใช้ราคาก่อสร้างเป็น "มาตรฐานราคาเดียว" เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ซึ่งบ้านในแต่ละแบบอาจกำหนดการปรับเปลี่ยนวัสดุได้ไม่เกินกี่ประเภท หากเกินกว่าที่กำหนดไว้จะต้องสร้างบ้านในราคาที่แพงขึ้น ซึ่งบริษัทจะต้องมีแบบบ้านมากพอเพื่อให้ลูกค้าได้ตัดสินใจง่ายขึ้น

นายศักดา โควิสุทธิ์ นายกสมาคมรับสร้างบ้าน กล่าวว่า แม้ว่าในปีนี้ธุรกิจรับสร้างบ้านจะสวนกระแสกับภาวะเศรษฐกิจอยู่บ้าง โดยมีลูกค้าเข้ามาสั่งสร้างบ้านจำนวนมาก ก่อนที่ราคาก่อสร้างจะปรับตัวสูงขึ้นในปีหน้า ทำให้ยอดขายในช่วงปลายปีของแต่ละบริษัทปรับเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะเป็นตัวฉุดให้ธุรกิจรับสร้างบ้านมีกำไรน้อยลง ดังนั้นจึงควรลดต้นทุนค่าใช้จ่ายต่างๆลง แต่ไม่ควรลดคุณภาพการก่อสร้างและเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในการทำธุรกิจ บริษัทรับสร้างบ้านจะต้องบริหารเงินให้ดี ลดหนี้ลง เพื่อลดความเสี่ยงจากการไม่มีงานหรือมีงานน้อย

"ในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจชะลอตัว หรือมีความผันผวน หากบริษัทไม่มีความเข้มแข็งทางการเงินเพียง ไม่ควรที่จะปรับเปลี่ยนหรือปรับปรุงบริษัทที่ต้องใช้ต้นทุนมากในช่วงนี้ เพราะอาจทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น หรือาจเลวร้ายถึงขึ้นเจ๊งได้"


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.