เก้าอี้ซีอีโอทศท.ร้อนผลงานไม่คืบ


ผู้จัดการรายวัน(8 พฤษภาคม 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

ชำแหละผลงาน 'สิทธิชัย ส่งพิริยะกิจ' บนเก้าอี้กรรมการผู้จัดการใหญ่ทศท.ผ่านไป 7 เดือนผลงานไม่เข้าตา ไม่กล้าตัดสินใจ ลู่ตามลูกน้อง โดยเฉพาะโครงการโทรศัพท์ 5 แสนเลขหมาย ผ่านบอร์ดแล้วแต่ไม่ยอมขายซองประกวดราคา เปิดช่องลูกน้องรวมหัวพ่อค้าซ่องสุมบิดเบือนเจตนารมณ์บอร์ด หวังเปลี่ยนวิธีประมูล หาโอกาสรวยรายวัน

นายสิทธิชัย ส่งพิริยะกิจ ผ่านกระบวนการสรรหา ขึ้นเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2545 โดยที่มีเวลาทำงานถึงเดือนพ.ย.2546 ซึ่งครบอายุ 60 ปีบริบูรณ์ตามสัญญาจ้าง

แต่ปรากฏว่าผ่านไป 7 เดือนกับความว่างเปล่า ผลงานเป็นรูปธรรมชัดเจนยังไม่เห็นโดยเฉพาะธุรกิจหลักของทศท.

ทศท.มีรายได้หลักมาจากธุรกิจโทรศัพท์พื้นฐาน ในช่วงที่ยังไม่มีคณะกรรมการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ทศท.มีสิทธิที่จะขยายเลขหมายโทรศัพท์ได้ตามความต้องการ ซึ่งปัจจัยบวกสำหรับทศท.คือการสร้างส่วนแบ่งตลาดให้มากขึ้นในระยะยาว และเพื่อสนองตอบความต้องการของตลาดในระยะสั้น

รวมทั้งยังใช้เป็นเครือข่ายยุทธศาสตร์หลักในการให้บริการสื่อสารข้อมูลความเร็วสูง ที่เป็นอนาคตของธุรกิจโทรคมนาคมในยุคหน้า

โครงการ 5 แสนเลขหมาย ถือเป็นโครงการยุทธศาสตร์ ในการทำธุรกิจของทศท. เพราะงบประมาณในปี 2547 ของทศท.ประมาณการว่าจะมีรายได้จากการดำเนินการของกลุ่มธุรกิจต่างๆ รวม 39,315 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากโทรศัพท์พื้นฐาน 25,891 ล้านบาท มากเป็นอันดับหนึ่ง

รองลงมาเป็นรายได้จากโทรศัพท์สาธารณะ 6,796 ล้านบาท บริการสื่อสารข้อมูล 3,795 ล้านบาท โครงข่ายโทรคมนาคม 1,437 ล้านบาท โทรคมนาคมระหว่างประเทศ 1,319 ล้านบาท และโทรศัพท์ไร้สาย 77 ล้านบาท

ข้อมูลของทศท.สิ้นสุด ณ เดือนก.ย.2545 มีจำนวนลูกค้ารอบริการ (Waiting List) อยู่ถึง 710,220 ราย

แต่ในขณะเดียวกับที่มีความต้องการจำนวนมาก ทศท.กลับดำเนินโครงการขยายโทรศัพท์ 5 แสนเลขหมาย ด้วยความอืดอาดยืดยาด ทั้งๆที่บอร์ดศุภชัย พิศิษฐวานิช อนุมัติหลักการตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย. 2545 และทำประชาพิจารณ์ข้อกำหนดหรือทีโออาร์เสร็จตั้งแต่เดือน ส.ค.2545

แต่โครงการ 5 แสนเลขหมายมาถูกขัดจังหวะเมื่อเปลี่ยนบอร์ดใหม่ มีคุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) มาเป็นประธานบอร์ด

ในการประชุมบอร์ดนัดพิเศษเมื่อวันที่ 30 ม.ค.2546 ได้มีมติให้ความเห็นชอบหลักการนี้แล้ว เพียงแต่ให้หารือกับนายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม (ที่ปรึกษาประธานบอร์ด) ในรายละเอียดอีกครั้งก่อนนำเสนอในรูปโครงการกับคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)

เพียงแค่คำที่เขียนว่าให้หารือรายละเอียด ก็เป็นการเปิดช่องให้ทศท.ยำโครงการ 5 แสนเลขหมายใหม่ โดยที่นายสิทธิชัยสั่งการให้นายปรีชา รักษาชาติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ทศท.ทำรายละเอียดแนวทางต่างๆกลับมาเสนอบอร์ดใหม่

"บอร์ดคุณหญิงทิพาวดี อนุมัติตามหลักการเดิม เพียงแต่ให้นายสรรเสริญดูรายละเอียดในรูปแบบโครงการก่อนนำเสนอสศช. โดยไม่ได้สั่งให้แตะต้องวิธีการประมูลเลย แต่ช่องเพียงน้อยนิด ก็กลายเป็นโอกาสที่เปิดกว้างให้กลุ่มเสือหิวทันที"

เกรงใจลูกน้องทำงานใหญ่เสีย

สไตล์การทำงานของสิทธิชัย ออกมาในรูปประณีประนอม ไปทางดื้อ เชื่อมั่นตัวเองสูง และมั่นใจในความโปร่งใส ไม่ทำร้ายองค์กร และมองประโยชน์ทศท.สูงสุด แต่การที่ไม่มีสีชมพูในสายเลือด ไม่ได้จบวิศวกรรมศาสตร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำให้กลายเป็นไม่สามารถเทียบรุ่นพี่น้องในทศท.ได้ และทำให้กลายมาเป็นจุดอ่อนในการบริหารงานองค์กรที่มีพนักงานกว่า 2 หมื่นคน

"จุดอ่อนดังกล่าว ทำให้ผู้บริหารระดับรองใช้ความมีสีของตัวเอง รวมกลุ่มทำงานหลายๆโครงการ มีทั้งที่กำลังหักมติบอร์ดเดิม อย่างวิธีการประมูลโครงการ 5 แสนเลขหมาย มีทั้งกำลังจ่อคิวอย่างโครงการบิลลิ่ง และมีทั้งที่ถูกบอร์ดทศท.รู้ทันสั่งเบรก อย่างการล็อกสเปกให้ซิสโก้ในงานของกรมการปกครอง ทุกโครงการแสดงให้เห็นถึงความไม่เด็ดขาด และไม่กล้าตัดสินใจของนายสิทธิชัยทั้งสิ้น"

นายสิทธิชัยเคยบ่นกับคนใกล้ชิดว่า งานที่ทำทุกวันนี้ คือการตามล้างตามเช็ดงานที่อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่คนเก่า นายสุธรรม มลิลา ทำไว้ทั้งสิ้น แต่เขาอาจลืมไปว่าหากกล้าตัดสินใจในเรื่องที่ถูกต้อง อาจมีผลงานให้เห็นบ้าง

โครงการ 5 แสนเลขหมาย กว่าที่บอร์ดศุภชัยจะอนุมัติหลักการวิธีการประมูล ต้องขับเคี่ยวกับนายสุธรรมที่ยืมมือลูกน้องแก้ไขสเปก ชนิดตามล้างตามเช็ด ผ่านการกลั่นกรองอย่างดีจนได้รายละเอียด กล่าวคือจะแบ่งเนื้องานในการจัดหาออกเป็น 3 พื้นที่ และให้ผู้เข้าประกวดราคาในแต่ละพื้นที่จะต้องรับผิดชอบงานทุกงานในแต่ละโซนแบบเบ็ดเสร็จ ได้แก่งานอุปกรณ์ชุมสาย งานอุปกรณ์สื่อสัญญาณ และงานระบบข่ายสาย

รวมทั้งกำหนดคุณสมบัติผู้เข้าประกวดราคาประการสำคัญว่า ผู้เข้าประกวดราคาจะต้องมีผลงานด้านการก่อสร้างท่อร้อยสาย และข่ายสายโทรศัพท์ท้องถิ่นของส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ ในวงเงินไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาทต่อ 1 สัญญา ภายในเวลา 5 ปี และจะต้องเป็นผู้ผลิต/ผู้แทนจำหน่ายอุปกรณ์ชุมสายและอุปกรณ์สื่อสัญญาณ

โดยงบประมาณในการจัดหาแบ่งเป็นงานก่อสร้าง/ปรับปรุงระบบข่ายสายท้องถิ่น 1,900 ล้านบาท อุปกรณ์ระบบชุมสาย 2,800 ล้านบาทและอุปกรณ์ระบบสื่อสัญญาณ 2,500 ล้านบาท

หากนายสิทธิชัย เป็นคนกล้าตัดสินใจไม่เห็นกับพวกพ้องผู้บริหารระดับรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ทั้งหลาย ก็สามารถเดินหน้าโครงการ ด้วยการขายซองประกวดราคา ตามสเปกเดิมที่บอร์ดอนุมัติไว้แล้วได้ทันที

แต่เขากลับเลือกที่จะเอาใจน้องๆ ด้วยการเปิดช่องให้โอกาสทำมาหากิน เพราะแม้แต่เขาเองก็ยังมีแนวคิดที่แยกการประมูลอุปกรณ์ชุมสายกับอุปกรณ์สื่อสัญญาณ มาประมูลรวมที่ส่วนกลาง ส่วนงานข่ายสายแยกเป็น 3 โซนแต่ให้มาประมูลที่ส่วนกลางเช่นกัน

เมื่อถูกถามถึงเหตุผลว่าทำไม ไม่เลือกแบบเดิมที่มีเจ้าภาพในแต่ละโซนสามารถไล่เบี้ยได้หากงานล่าช้าและทำให้ได้บริษัทขนาดใหญ่ที่มีความน่าเชื่อถือ เขากลับตอบเลี่ยงว่าไม่มีประวัติศาสตร์ทศท.ที่เคยประมูลงานแบบเบ็ดเสร็จทั้งชุมสาย ระบบสื่อสัญญาณและงานวางข่ายสาย

แต่เขาอาจลืมไปว่า ตามแผนฯ 6 ของทศท.ซีเมนส์ ,เอ็นอีซี และมัตซุย เคยชนะประมูลงานแบบเบ็ดเสร็จทั้งชุมสาย สื่อสัญญาณและข่ายสาย จำนวน 1 แสนเลขหมาย

นายสิทธิชัยอ้างว่า การที่ต้องทำหลายแนวทางให้พิจารณา ถือเป็นเรื่องธรรมดาของการเสนองานให้ผู้ใหญ่ ซึ่งขึ้นอยู่กับบอร์ดว่าจะตัดสินใจเลือกแนวทางไหน

ไม่เพียงโครงการ 5 แสนเลขหมายที่สิทธิชัยไม่กล้าตัดสินใจ ทำให้โครงการล่าช้า เปิดช่องให้ผู้บริหารระดับรองฉวยโอกาสหาประโยชน์

โครงการระบบบิลลิ่ง เป็นอีกโครงการหนึ่งที่กำลังถูกถามหาความโปร่งใส เมื่อพิสูจน์และมีหลักฐานชัดเจนแล้วว่าบริษัทที่ชนะการประมูลอย่างเทเลเมติคส์ มีความสัมพันธ์ถือหุ้นโยงโยงกับบริษัท U.C.E.C.ที่เป็นที่ปรึกษาโครงการ ทั้งเอื้อประโยชน์กีดกันคู่แข่ง เข้ากม.ฮั้วทุกประการ

แต่นายสิทธิชัยก็ยังไม่ทำอะไรที่เด็ดขาดให้เห็นผลชัดเจน เพียงเพราะเชื่อใจนายชัยเชวง กฤตยาคม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ที่รับผิดชอบการประมูลโครงการนี้ ทำเอาเกิดเสียงลือในวงการว่าข้อมูลที่เปิดเผยต่างๆตามหน้าหนังสือพิมพ์ ที่พิสูจน์ให้เห็นถึงการถือหุ้นในลักษณะ Conflict of Interest เขาเห็นเป็นเรื่องโจ๊กน่าตลก ไม่กลัวและพร้อมพรีเซ็นต์ช่วยบริษัทในบอร์ดทศท.

"โครงการนี้เขาเถียงข้างๆคูๆว่าไม่รู้ว่าถือหุ้นโยงใยกัน ซึ่งหากอยากตรวจสอบ ลองไปสอบดูด้วยว่าผลงานเทเลเมติคส์ที่เอาผลงานของ ACCENTURE มาใช้ถูกต้องแค่ไหน และบริษัทอเมริกันรายนี้ เขาอ่อนไหวมากในเรื่องความโปร่งใส หากรู้ว่าเทเลเมติคส์มีนอกมีในกันแล้ว เรื่องนี้น่าสนุกแน่"

แหล่งข่าวย้ำว่าโครงการบิลลิ่งเป็นอีกโครงการหนึ่งที่ต้องล่าช้า เพราะขบวนการที่ไม่โปร่งใสทั้งๆที่ระบบบิลลิ่งเป็นหัวใจในการทำธุรกิจทั้งปวงของทศท.โดยเฉพาะการคิดเงินค่าใช้ การจัดแพกเกจโปรโมชันต่างๆ
รวมทั้งการที่ปล่อยให้เอไอทีดันซิสโก้ยึดครองทศท.ทำขนาดล็อกสเปกให้กรมการปกครอง แล้วอ้างว่าเป็นความต้องการของกรมการปกครอง ถึงขนาดที่สิทธิชัยเกือบอนุมัติไปแล้ว ทีดียังมีคนหวังดีช่วยส่งสัญญาณเตือนจึงรอดคุกพ้นข้อหาผิดกม.ฮั้วแบบหวุดหวิด

นายสิทธิชัย ยังถือว่าล้มเหลวในการบริหารงานในลักษณะซูเปอร์ทีม จากที่เคยแสดงวิสัยทัศน์ในตอนสรรหากรรมการผู้จัดการใหญ่ เพราะปรากฏว่ารองกรรมการผู้จัดการใหญ่ทั้ง 17 คนกำลังหลงเริงร่ากับการแต่งตั้ง จนไม่ได้นึกถึงอนาคตองค์กร

ขาดความสามัคคีต่างคนต่างแสวงหาประโยชน์ ในโครงการที่มีส่วนร่วม

"การบริหารงานแบบประณีประนอมลู่ตามใจลูกน้อง ทำให้ตอนนี้ กระบวนการจัดการโครงการประสานประโยชน์ในทศท.เปลี่ยนไป ไม่ต้องสนใจอำนาจการเมือง แต่พ่อค้าหันไปเอาใจระดับรองระดับผู้ช่วยให้ชงโครงการให้เรียบร้อยสำเร็จรูป แล้วเสนอขึ้นไปตามขั้นตอน เมื่อถึงระดับบนก็สั่งการอนุมัติ โครงการ 5 แสนเลขหมายกำลังเข้าสู่วังวนนี้ ขึ้นอยู่กับสิทธิชัยว่าจะทำงานอย่างไร ให้ผ่านไปวันๆ รักษาสภาพ ความชั่วไม่มีความดีไม่ปรากฏ หรือจะใช้เป็นด่านทดสอบความโปร่งใส พิสูจน์ฝีมือและผลงานครั้งสำคัญ" แหล่งข่าว กล่าว



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.