เซ็นทรัลบุกตลาดอาหารญี่ปุ่นซื้อแฟรนไชส์"เปปเปอร์ลันช์"ลุย


ผู้จัดการรายวัน(12 พฤศจิกายน 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

ซีอาร์จี เซ็นสัญญาซื้อแฟรนไชส์ร้านอาหารญี่ปุ่น เปปเปอร์ลันช์ บุกตลาดไทย หลังจดจ้องขยายธุรกิจแบรนด์อาหารมานาน เตรียมเผยโฉมเด็ดปลายปีนี้รับช่วงจับจ่าย สาขาแรกนำร่องเปิดที่เซ็นทรัลเวิลด์ งานนี้คนวงในระบุจะเป็นบทพิสูจน์ฝีมือซีอาร์จีอีกครั้ง

หลังจากที่นายสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ ประธานของกลุ่มโรงแรมและอาหารในเครือเซ็นทรัล ที่ดำเนินธุรกิจอาหารในนามบริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือซีอาร์จี ประกาศมานานอย่างน้อย 1-2 ปีแล้วว่า จะขยายธุรกิจอาหารเพิ่มขึ้น ซึ่งจะมีทั้งลักษณะการพัฒนาแบรนด์ของตัวเองขึ้นมา กับการซื้อลิขสิทธิ์แฟรนไชส์ต่างประเทศเข้ามาดำเนินการ ซึ่งที่ผ่านมาก็ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด โดยให้เหตุผลทุกครั้งเมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามถึงบทสรุปเป็นอย่างไรว่า ยังอยู่ระหว่างการเจรจาและดูสถานการณ์ตลาดโดยรวม

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ทางซีอาร์จีได้บรรลุข้อตกลงและทำการเซ็นสัญญาไปแล้วกับเจ้าของลิขสิทธิ์ร้านอาหารญี่ปุ่นแบรนด์ใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นและอยู่ระหว่างการเตรียมแผนงานที่จะเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในเร็วๆนี้คาดว่าอย่างช้าสุดก่อนปลายปีนี้เพื่อรองรับการจับจ่ายเทศกาลฉลองความสุขคริสต์มาสและปีใหม่

ผู้สื่อข่าว "ผู้จัดการรายวัน" รายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้ ทางกลุ่มซีอาร์จีได้เซ็นสัญญาตกลงซื้อลิขสิทธิ์แฟรนไชส์ร้านอาหรญี่ปุ่นชื่อ "เปปเปอร์ ลันช์" เพื่อข้ามาเปิดบริการในไทยเรียบร้อยแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรีมการที่จะเปิดสาขาแรก ตั้งอยู่ที่ ชั้น 6 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ อยู่ในทำเลที่ค่อนข้างดีมาก โดยอยู่ใกล้ๆกับร้านมิสเตอร์โดนัท และ ร้านไก่ทอดเคเอฟซี ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์แฟรนไชส์ของกลุ่มซีอาร์จีเช่นเดียวกัน ซึ่งขณะนี้ร้านเปปเปอร์ลันช์สาขาแรกอยู่ระหว่างการตกแต่งร้านค้า รวมทั้งการฝึกอบรมทางด้านทักษะพนักงานโดยมี ผู้จัดการทั่วไป คนใหม่เข้ามารับผิดชอบแบรนด์นี้โดยเฉพาะ

ร้านเปปเปอร์ ลันช์ นี้ถือได้ว่า เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแนวใหม่ ที่เน้นหนักทางด้านเมนูข้าวญี่ปุ่นหน้าต่างๆ ซึ่งคาดว่าจะแตกต่างจากเมนูอาหารจากร้านญี่ปุ่นอื่นๆที่มีมากมายในไทยเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็น ฟูจิ ฮาจิบังราเมน โออิชิราเมน โออิชิบุฟเฟท์ เซน โอโตยะ เป็นต้น

แหล่งข่าวในวงการอาหารให้ความเห็นว่า การนำเข้าเปปเปอร์ลั้นช์ของกลุ่มซีอาร์จีนี้ น่าจับตามองเช่นกัน เนื่องจากว่า แม้กระแสอาหารญี่ปุ่นในไทยังมีอยู่ แต่ก็มีการแข่งขันที่รุนแรงเช่นกัน การที่จะแทรกตลาดก็ค่อนข้างยากไม่น้อย นอกจากนั้นยังจะเป็นการพิสูจน์ฝีมือของซีอาร์จีอีกครั้งว่าจะสามารถแจ้งเกิดแบรนด์ใหม่ได้อีกหรือไม่

เพราะก่อนหน้านี้ซีอาร์จีได้พัฒนาแบรนด์ใหม่ขึ้นมาเองชื่อว่า สเต็คฮันเตอร์ เป็นอาหารประเภทสเต็ค เปิดสาขาได้ประมาณไม่เกิน 10 แห่ง เช่นที่ บิ๊กซีราชดำริ เอ็มบีเคเซ็นเตอร์ชั้นโรงหนังเอสเอฟ เป็นต้น แต่ว่าผลการดำเนินงานไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าใด จึงทำให้ซีอาร์จีได้ตัดสินใจปิดสเต๊กฮันเตอร์ไปหลังจากที่เปิดบริการในระยะเวลาไม่นานนัก

ทั้งนี้ไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทางซีอาร์จีก็มีการปรับโครงสร้างผู้บริหารเล็กน้อย เช่น การแต่งตั้งให้นางสาวเกวลี ว่องปรีชา เข้ามาดูแลรับผิดชอบแบรนด์อานตี้แอนส์ จากเดิมที่ดูแลรับผิดชอบแบรนด์บาสกิ้นร้อบบิ้นส์, นายสุชีพ ธรรมาชีพเจริญ ดูแลรับผิดชอบแบรนด์มิสเตอร์โดนัท จากเดิมที่ต้องรับผิดชอบแบรนด์อานตี้แอนส์ด้วย , นายวิชัย ธรรมมานนท์ ดูแลรับผิดชอบแบรนด์พิซซ่าฮัท และขณะนี้เข้ามาช่วยดูแลแบรนด์บาสกิ้นร้อบบิ้นส์เพิ่มเติมด้วย ขณะที่นายโชคดี วิศาลสิงห์ ยังคงดูแลรับผิดชอบแบรนด์เคเอฟซี และช่วยดูแลแบรนด์ใหม่อย่าง เปปเปอร์ลันช์ ด้วย

สำหรับธุรกิจอาหารในเครือซีอาร์จีนั้น ปัจจุบีนมีทั้งหมด 5 แบรนด์ ซึ่งเป็นการบริหารลิขสิทธิ์แฟรนไชส์จากต่างประเทศทั้งหมดคือ 1. เคเอฟซี จำนวน 130 สาขา 2.พิซซ่าฮัท จำนวน 25 สาขา 3. มิสเตอร์โดนัท จำนวน 182 สาขา 4. อานตี้แอนส์ จำนวน 83 สาขา และ 5.บาสกิ้นร้อบบิ้นส์ จำนวน 46 สาขา (แฟรนไชส์ 10 สาขา) รวมทั้งหมดเท่ากับ 476 สาขา (ตัวเลขจำนวนสาขารวมสิ้นสุดเมื่อเดือนกรกฎาคม 2550)

ก่อนหน้านี้เซ็นทรัลก็มีร้านอาหารญี่ปุ่นเปิดบริการแล้วคือ ร้านเซน แต่ก็เป็นเพียงธุรกิจส่วนตัวของคนในตระกูลจิราธิวัฒน์ เท่านั้น ไม่ได้เป็นธุรกิจกงสีของตระกูลแต่อย่างใด และที่ผ่านมาก็มีการเติบโตค่อนข้างดีโดยเจาะกลุ่มพรีเมียม


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.