โอสถสภาลุยฟังก์ชันนัลดริงก์ ปั้นเครื่องดื่มเปปทีนชิงชิ้นเค้ก


ผู้จัดการรายวัน(12 พฤศจิกายน 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

ไบท์แบงค็อก ปั้นเครื่องดื่มบำรุงสมอง"เปปทีน" ลงสมรภูมิฟังก์ชันนัลดริงก์ ปูพรมรสชาติแรกเปปทีน 4000 เจาะนักศึกษา-วัยทำงาน ต้นปีหน้าส่งเปปทีน 8000 เจาะผู้สูงอายุ เร่งเอทดูเคทตลาดจัดสัมนาแพทย์ พยาบาลตามโรงพยาบาล สร้างความน่าเชื่อถือผลิตภัณฑ์

แหล่งข่าวจากบริษัท โอสถสภา จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลังM-150 ชาร์คฯ เปิดเผยกับ"ผู้จัดการรายวัน"ว่า ขณะนี้ไบท์ แบงค็อก หน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นเพื่อพัฒนาสินค้า และทำตลาดรูปแบบใหม่ มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ ที่มีพฤติกรรมการบริโภคและใช้ชีวิตเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และมีความต้องการใหม่ๆ เกิดขึ้น ได้เปิดตัวฟังก์ชันนัลดริงก์หรือเครื่องดื่มที่มีคุณประโยชน์เฉพาะด้านแก่ร่างกายลงสู่ตลาด ภายใต้แบรนด์"เปปทีน" เครื่องดื่มให้คุณค่าทางสมอง นับว่าเป็นฟังก์ชันนัลดริงก์ตัวแรกของไบท์แบงค็อก จากปัจจุบันสินค้าในแผนกทั้งหมด 3 แบรนด์ ประกอบด้วย เอ็ม-แมกซ์ เครื่องดื่มชูกำลังเจาะกลุ่มวัยรุ่น ,ชาร์ค คูล ไบท เครื่องดื่มชูกำลังเจาะตลาดกลางคืน และแฮงก์ เครื่องดื่มแก้อาการเมาค้าง

ทั้งนี้การเปิดตัวเปปทีนในครั้งนี้ เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป มีความเร่งรีบในชีวิตประจำวัน มีโอกาสที่จะขาดโปรตีนชนิดใดชนิดหนึ่งได้ อีกทั้งยังเป็นการรองรับเทรนด์ฟังก์ชันนัลดริงก์และฟู้ดส์ ซึ่งกำลังเป็นตลาดที่มาแรงในปีหน้านี้ โดยบริษัทได้นำร่องเปิดตัวเปปทีน 4000 เครื่องดื่มคุณค่าทางสมองจากการมีโปรตีน 4 กรัม รสทับทิมลงสู่ตลาดก่อน วางกลุ่มเป้าหมายเป็นวัยทำงานและกลุ่มนักศึกษาเป็นหลัก ขนาด 100 มล. ราคา 36 บาท ช่วงโปรโมชันราคา 33 บาท จำหน่ายผ่านช่องทางเซเว่นอีเลฟเว่นแห่งเดียวก่อน

ส่วนในปลายเดือนมกราคม ปีหน้านี้บริษัทวางแผนจะเปิดตัวเครื่องดื่มเปปทีน 8000 รสเกรฟ ฟรุ๊ต เจาะกลุ่มเป้าหมายผู้สูงอายุ 40 ปีขึ้นไปหรือผู้บริหารระดับสูง เนื่องจากมีปริมาณโปรตีน 8 กรัม ขนาด 150 มล.ราคา 68 บาท ทั้งนี้เครื่องดื่มเปปทีนเป็นเครื่องดื่มโปรตีนชนิดหนึ่งที่นิยมในประเทศญี่ปุ่นอย่างมาก บริษัทจึงนำมาวิจัยและพัฒนาลงสู่ตลาดประเทศไทย โดยนำเข้าโปรตีนจากประเทศญี่ปุ่นมาผลิต สำหรับแผนการทำตลาดในช่วงแรกนี้ จะเน้นการให้ข้อมูลและความรู้เกี่ยวกับโปรตีนตัวนี้ คือ เปปไทด์ ซึ่งเป็นโปรตีนตัวใหม่ที่ผู้บริโภคไทยยังไม่มีใครรู้จัก ผ่านกลุ่มแพทย์และพยาบาล ด้วยการจัดสัมนาตามโรงพยาบาลต่างๆ ทั้งนี้เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผลิตภัณฑ์

สำหรับแนวโน้มฟังก์ชันนัลดริงก์และฟูดส์ กำลังแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวในปีหน้านี้ เนื่องจากผู้บริโภคไทยใส่ใจสุขภาพและต้องการสินค้าที่ตอบสนองความต้องการที่เฉพาะเจาะจง ประกอบกับการเติบโตของตลาดยังมาจากผู้ประกอบการหลายราย เริ่มหันมาสร้างตลาดดังกล่าวกันมากขึ้น อย่างไรก็ตามตลาดฟังก์ชันนัลดริงก์และฟู้ดส์ แบ่งออกเป็น 2 เซกเมตต์ คือ ฟังก์ชันนัลดริงก์เต็มรูปแบบ อาทิ ไอ-เฮลธ์ธี คิวเท็น เครื่องดื่มดีท็อกซ์หรือล้างสารพิษแบรนด์เวคกี้ รีลีฟ ส่วนอีกตลาดหนึ่งจะเป็นเครื่องดื่มหรืออาหารที่สร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการเติมสารอาหารต่างๆ เข้าไป อาทิ คัพโยเกิร์ต บิวติ ไบรตต์

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความเคลื่อนไหวตลาดฟังก์ชันนัลดริงก์และฟูดส์ว่า ในช่วงแรกของการทำตลาดกลุ่มผู้ประกอบการเปิดตัวเครื่องดื่มหรืออาหาร ด้วยการนำสารคอลลาเจนมาเป็นจุดขายด้านผิวพรรณ ความสวยความงาม ไม่ว่าจะเป็น ชาเขียว ลูกอม เป็นต้น แต่ขณะนี้เริ่มมีฟังก์ชันนัลต่างๆ ออกมามากขึ้น โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับทางสมอง อาทิ เปปทีน โคลีน เป็นต้น


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.