"บิ๊กเคแลนด์"ชี้ปี51วัดกึ๋นจัดสรรจับตากลุ่มแนวราบปรับลดขนาดบ้านสู้ศึก


ผู้จัดการรายวัน(9 พฤศจิกายน 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

"ธงชัย คุณากรปรมัตถ์" ฉายภาพตลาดรวมอสังหาฯปี2551 เป็นปีแห่งการปรับตัวของผู้ประกอบการจัดสรร ระบุกำลังซื้อลูกค้าหดตัว จับตาผู้พัฒนาโครงการจะลดขนาดบ้านให้สอดคล้องกับความสามารถในการผ่อนของลูกค้า ชี้โครงการคอนโดฯขยายตัวต่อเนื่อง หลังพฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยน เหตุต้นทุนค่าครองชีพในเมืองสูงตามแนวโน้มราคาน้ำมัน ผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อขยับขึ้น เล็งปีหน้า ทุ่มงบ 1,000 ล้านบาท ขยายโครงการใหม่อิงแนวรถไฟฟ้า เน้นย่อส่วนโครงการให้ขนาดเหมาะสมกับภาวะตลาด

นายธงชัย คุณากรปรมัตถ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพบ้านและที่ดิน จำกัด (มหาชน) หรือ เคแลนด์ เปิดเผยถึงแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี2551 ว่า เป็นปีแห่งการปรับตัวของผู้ประกอบการ โดยภาพรวมของตลาดอสังหาฯจะยังคงชะลอตัว เนื่องจากลูกค้ามีกำลังซื้อที่ลดลง จากปัจจัยค่าครองชีพที่ขยับตัวสูงขึ้น คาดจะส่งผลให้ความต้องการ(ดีมานด์)ในตลาดแนวสูงหรือโครงการอาคารชุดเพิ่มสูงขึ้น ตามพฤติกรรมการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามภาวะเศรษฐกิจ และสถานการณ์โดยรวมของราคาน้ำมัน

“ในปีหน้าจะเป็นปีที่แย่สำหรับภาคการลงทุน แต่หากมองในด้านดี การที่ช่วงก่อนหน้านั้น สถาบันการเงินมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ทำให้ผู้ประกอบการเริ่มมีการปรับตัวเพื่อรับภาวะตลาด แต่จะมีบางส่วนที่จะล้มหายตายจากไปจากตลาด เนื่องจากไม่สามารถปรับตัวตามมตลาดได้ทัน อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อัตราการปรับตัวของราคาน้ำมัน ค่าเงินบาท ปัญหาการเมืองดัชนีความเชื่อมั่น และการขยายตัวของเศราฐกิจในระดับต่ำ ทำให้ภาพรวมตลาดอสังหาฯขยายตัวต่ำ แต่หากในปี 2551 รัฐบาลใหม่เข้ามาแก้ไขปัญหาต่างๆ ข้างต้น คาดว่าจะช่วยให้ภาพรวมอสังหาฯกลับมาขยายตัวในระดับปกติอีกครั้ง ” นายธงชัยกล่าว

สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาฯในปี 2550 ยังขยายตัวอยู่ในระดับเดียวกับปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอัตราการขยายตัวของโครงการจัดสรรที่ถดถอยลงค่อนข้างมากจากปีที่ผ่านมา แต่โครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงกับขยายตัวเข้ามาเสริมตลาดจัดสรร ทำให้ตลาดโดยรวมยังมีระดับการเติบโตเท่าๆ กับปีที่ผ่านมา

นายธงชัย กล่าวถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ว่า มียอดขายแล้ว 1,700ล้านบาท จากเป้าทั้งปี 2,000 ล้านบาท โดยยอดขายที่ได้ มาจากโครงการคอนโดมิเนียมเดอะ พาโน ประมาณ 500-600 ล้านบาท และเมื่อรวมยอดขายสะสมตั้งแต่เปิดโครงการจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท , โครงการทาวน์โฮมภายใต้ชื่อ เออร์ เบิน สาทร ประมาณ 500ล้านบาท และยอดขายจากโครงการบ้านเดี่ยว เลค แกรนด์ดิโอเซ่ ประมาณ 600-700 ล้านบาท

สำหรับในปี2551 บริษัทมีแผนนจะลงทุนพัฒนาโครงการใหม่เพิ่ม 2-3 โครงการ โดยเป็นรูปแบบโครงการขนาดเล็ก ประกอบด้วยโครงการบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และโครงการคอนโดฯ เน้นทำเลเกาะแนวรถไฟฟ้าทั้งโครงการเดิมที่เปิดใช้แล้ว และโครงการใหม่ที่กำลังจะก่อสร้าง โดยงบประมาณในการลงทุนโครงการใหม่ในปี 51 ประมาณ 1,000 ล้านบาท ใช้แหล่งเงินมาจากกระแสเงินสดของบริษัทและจากสถาบันการเงิน ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวเดอะแกรนด์ พระราม2 บนเนื้อที่โครงการ 600 ไร่ ภายในโครงการดังกล่าวจะมีโครงการย่อย เป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับราคา 16-65 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการพาร์ควิลล์ เปิดขายเฟสแรก พื้นที่ 90ไร่ จำนวน 28ยูนิต มูลค่าขายรวม 1,800ล้านบาท ซึ่งได้เปิดขายตั้งแต่ปี2548 , โครงการเลค แกรนด์โอเซ่

โครงการบ้านเดี่ยวริมน้ำ บนพื้นที่พัฒนาโครงการ 40 ไร่ ขนาดพื้นตั้งแต่ 110 ตารางวา ขึ้นไป จำนวน62 ยูนิต มูลค่าขาย 1,000ล้านบาท, โครงการไอส์แลนด์ พาราไดซ์ บ้านเดี่ยวบนเกาะส่วนตัว บนเนื้อที่โครงการ 24 ไร่ จำนวน16 ยูนิต มูลค่ารวม 50ล้านบาท


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.