|
ลงทุนพลังงานทางเลือกในตลาดโลก เปิดโอกาสใหม่เตรียมรับกระแสมาแรง
ผู้จัดการรายสัปดาห์(5 พฤศจิกายน 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
เปิดศักราชสู่ยุคเติบโตธุรกิจพลังงานสะอาด เยียวยาปัญหาโลกร้อน เชื้อเพลิงแพง น้ำมันใกล้หมดโลก กระแส "นิวเอ็นเนอร์จี"เริ่มบูมแล้วทั้งในยุโรป-อเมริกา บลจ.ธนชาตเสือปืนไวคว้ามาเปิดตัวในเมืองไทยเป็นรายแรก เป็น Growth Fund คาดเติบโตเร็ว
วิกฤติโลกร้อน เชื้อเพลิงมีราคาแพงขึ้นเรื่อยๆ อุปทานน้ำมันดิบซึ่งมีทีท่าว่ากำลังจะหมดลง นี่คือสิ่งที่คนทั้งโลกวิตกห่วงใย เป็นหายนะใหม่ที่แน่นอนว่าสามารถจะสร้างความหายนะได้มากกว่าลัทธิก่อการร้ายเป็นหมื่นเป็นแสนเท่าอย่างไม่ต้องสงสัย ภัยคุกคามทางธรรมชาติอันยากที่จะต้านทาน ชะตากรรมที่กำลังย่างใกล้เข้ามา เป็นผลลัพธ์จากการที่สิ่งแวดล้อมถูกละเลยมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน
วันนี้โลกกำลังต้องการต้องการยาต้านพิษ และมันก็กำลังปรากฏตัวขึ้นแล้วในรูปแบบของพลังงานทางเลือก รวมถึง พลังงานสะอาด ภายใต้ชื่อ "นิวเอ็นเนอร์จี" กระแสใหม่ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมมากในทั้งในทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือ อาทิ การผลิตไฟฟ้าจากกังหันลม โซล่าเซลล์ พลังน้ำ ส่งผลให้ธุรกิจลักษณะนี้มีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นอีกในอนาคตและเป็นการก้าวสู่ยุคใหม่ของพลังงานที่ไม่มีวันหมด
ปัจจุบันมีกองทุนระดับโลกที่ลงทุนในหุ้นที่ทำธุรกิจลักษณะนี้แล้ว 7กอง โดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.)ธนชาต ก็ได้นำเข้ามาเปิดตัวในประเทศไทยเป็นกองแรก คือ กองทุนเปิด ธนชาต นิวเอ็นเนอร์จีฟันด์ มูลค่า 1,700 ล้านบาท เป็นกองทุนเพื่อลงทุนในต่างประเทศ (FIF) ในลักษณะ Feeder fund ที่ลงทุนในกองทุน MLIIS NEW ENERGY FUND ซึ่งบริหารโดย BlackRock Merrill Lynch Investment เปิดขายครั้งแรกถึงวันที่ 8 พ.ย. นี้
บุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ธนชาต กล่าวว่า การบริหารของกองทุนนี้จะเน้นลงทุนในตราสารทุนของบริษัทหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มธุรกิจพลังงานทางเลือก เทคโนโลยีที่เกี่ยวกับพลังงาน รวมถึงพลังงานที่สามารถผลิตขึ้นใหม่ได้ ตลอดจนแหล่งกำเนิดพลังงานสำหรับยานพาหนะและแหล่งกำเนิดพลังงาน ณ จุดใช้พลังงาน การเก็บพลังงาน และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับพลังงานอื่นๆ
"กองทุนที่เราเข้าไปลงทุนนั้น เขาสามารถลงทุนได้ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งลักษณะการลงทุนนั้นจะลงทุนในตราสารทุนของบริษัทหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มธุรกิจพลังงานทางเลือก เทคโนโลยีที่เกี่ยวกับพลังงาน การเก็บพลังงาน ในสัดส่วนอย่างน้อย 70% ของมูลค่ากองทุน"
ส่วน ตระกูลจิตร จิตตไสยะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บลจ.ธนชาต กล่าวว่า สาเหตุที่เลือกจัดตั้งกองทุนเปิดธนชาต นิวเอ็นเนอร์จี ฟันด์ ขึ้นมา เนื่องจากมองว่าธุรกิจพลังงานทางเลือกมีแนวโน้มการเติบโตในระดับสูง ถือได้ว่าเป็น Growth Stock เลยทีเดียว ส่วนหนึ่งมาจากผลกระทบจากปัญหาภาวะโลกร้อน ซึ่งทำให้องค์กรต่างๆทั่วโลก หันมาให้ความสำคัญกับการผลิตพลังงานทางเลือก หรือพลังงานทดแทนกันมากขึ้น
ด้านปัญหาเรื่องสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ (ซับไพรม์) ที่หลายคนเกรงว่าอาจจะส่งผลให้ผลตอบแทนของกองทุนปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก เชื่อว่าในระยะสั้นก็คงอาจจะมึความผันผวนบ้าง แต่ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเพราะเชื่อมั่นว่าในระยะยาวแล้วก็น่าจะสามารถให้ผลตอบแทนที่เหนือกว่าผลตอบแทนของดัชนี MSCI World อย่างแน่นอน นอกจากนี้ในอนาคตกลุ่มบริษัทขนาดกลางที่อยู่ในอุตสาหกรรมเหล่านี้ยังมีแนวโน้มที่จะเกิดการควบรวมกิจการกันมากยิ่งขึ้นเพื่อเป็นการลดต้นทุน ซึ่งจะส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการเติบโตดีขึ้นไปอีก
การเจริญเติบโตของการใช้พลังงานมักจะแปรผันตามการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจโลก สำหรับในอนาคตแล้วแนวโน้มธุรกิจ"นิวเอนเนอร์จี้"ก็คงต้องมีการเติบโตอย่างแน่นอน...เพียงแต่ว่าปริมาณของอุปสงค์ที่พอจะทำให้เกิดการประหยัดต่อขนาด อัตราการเร่ง ความเร็วช้า ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี รวมถึงผลกระทบจากการที่เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาชะลอตัว ล้วนถือเป็นปัจจัยที่ผู้ลงทุนจะต้องพิจารณาประกอบอย่างรอบคอบ เพราะมิฉะนั้นแล้วการลงทุนของคุณก็อาจถูกบั่นทอนด้วยความเจ็บและการรักษาที่ยาวนาน
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|