สยามเฮ้าส์ฯดึงไต้หวันลงขันผุดรง.ใหม่


ผู้จัดการรายวัน(5 พฤศจิกายน 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

"สยามเฮ้าส์ แอนด์ โฮม"เจ้าของแบรนด์"คิงส์" เล็งดึงนักลงทุนจากไต้หวัน ร่วมลงทุนตั้งบริษัทใหม่ ตั้งโรงงานผลิตแม่พิมพ์พลาสติก หวังลดต้นทุนจ้างผลิตแม่พิมพ์ปีละ 10-20 ล้านบาท ตั้งเป้าแผนระยะ 2-3 ปี เป็นผู้นำพัฒนาครัวพลาสติกที่เหมาะสมกับคนเอเชีย พร้อมวงงบลงทุน 150 ล้านบาทในช่วง 3 ปีข้างหน้า ทั้งซื้อที่ดินเพิ่มเติม เครื่องจักรใหม่

นายชูชัย ปวีณพงษ์พัฒน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท สยามเฮ้าส์ แอนด์ โฮม จำกัด บริษัทผู้ผลิตเอบีเอส/อีโฟม ตรา "คิงส์" เช่น ประตูและวงกบประตู บานซิงค์ ตู้แขวน ชุดครัวสำเร็จรูป และอ่างล้างหน้าเคาน์เตอร์แบบแขวน เปิดเผยถึงแผนการรองรับการเติบโตของบริษัทฯว่า ขณะนี้ได้มีการเจรจากับกลุ่มนักลงทุนจากประเทศไต้หวันเพื่อจัดตั้งบริษัทใหม่ เพื่อลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตแม่พิมพ์(โม)พลาสติก ในการสนับสนุนธุรกิจของบริษัทสยามเฮ้าส์ฯ เนื่องจากในแต่ละปี ทางบริษัทจะมีค่าใช้จ่ายในการสั่งผลิตแม่พิมพ์ประมาณ 10-20 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้ การจัดตั้งบริษัทใหม่จะไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทสยามเฮ้าส์ฯ ซึ่งบริษัทแห่งใหม่จะมีทุนจดทะเบียนเบื้องต้นประมาณ 30 ล้านบาท คาดว่าภายในปี 2551 จะมีการเปิดตัวพันธมิตรร่วมทุน

ในส่วนของทิศทางธุรกิจของบริษัทสยามเฮ้าส์ฯนั้น นายชูชัยอธิบายว่า ในระยะยาวแล้ว ทางบริษัทได้วางแนวทางที่จะเป็นผู้ผลิตที่เชี่ยวชาญในเรื่องของครัวกับห้องน้ำ ขณะที่แผนระยะ 2-3 ปี จะพยายามผลักดันให้บริษัทเป็นผู้นำพัฒนาครัวพลาสติกที่เหมาะสมกับคนเอเชีย เนื่องจากบริษัทมีความถนัดและเข้าใจในความต้องการของผู้บริโภค ขณะเดียวกันยังช่วยในเรื่องของการดูแลทรัพยากรธรรมชาติให้คงอยู่ตลอดไป

ทั้งนี้ เพื่อรองรับการเติบโตของบริษัท ในช่วงปี 2551-2553 ได้เตรียมงบประมาณในการลงทุนไว้ทั้งหมด 150 ล้านบาท แยกเป็นการลงทุนขยายพื้นที่โรงงานแถวราชกระบัง เนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ การลงทุนซื้อเครื่องในการผลิตประตู เครื่องจักรในการผลิตตู้แขวนรุ่น Platinum เครื่องจักร NANO Coating Ststem และเครื่องจักร Ultra Sonic Waves สำหรับการผลิตบานซิงค์

ขณะที่ในปี 2551 ทางบริษัทมีแผนการออกสินค้าใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า แยกเป็นประตูรุ่น Platinum ที่พัฒนาการผลิตใหม่ด้วยระบบ Welding เชื่อมประสานเนื้อพลาสติกเป็นชิ้นเดียว เสริมโครงสร้างด้วยโลหะ ทำให้ประตูPlatinum มีความสวยงาม แข็งแรงยิ่งขึ้น โดยจะเพิ่มกำลังการผลิตจากเดิม 3,000 ชุด เป็น 5,000 ชุดต่อเดือน

ตู้แขวนรุ่นPlatinum พัฒนาระบบการผลิต Ultra Sonic Waves เชื่อมรอยต่อของตู้แขวน และดีไซน์ใหม่ทันสมัย เทียบเท่าครัวบิวท์อิน

ชุดครัวสำเร็จรูป Rocka เพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าสำหรับครัวสำเร็จรูป ในลักษณะชุดครัวเข้ามุม ซึ่งทางบริษัทมีบริการในการออกแบบ วัดหน้างานและติดตั้งให้แก่ลูกค้าทั่วไป และยังมีคุณสมบัติที่ทนน้ำ ทนปลวก ซึ่งเป็นจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ชุดครัวสำเร็จรูปRocka

ในส่วนแผนการตลาด จะเน้นตามหัวเมืองหลักต่างๆ เช่น เชียงใหม่ ,นครสวรรค์ ,พัทยา,ระยอง ,นครศรีธรรมราช และภูเก็ต เป็นต้น เนื่องจากตลาดในส่วนนี้ยังมีการเติบโตของกำลังซื้ออย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ทางบริษัทได้ตั้งเป้าการขายในปี 2551 มูลค่า 350 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2550 หรือเพิ่มขึ้น 15% จากประมาณของมูลค่ายอดขายในปี 50 ที่ 300 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 15% เมื่อเทียบกับปี 2549

" ถ้าปีนี้ เศรษฐกิจและการเมืองไม่มีปัญหา ทางบริษัทคาดว่ายอดขายจะมีการเติบโตประมาณ 25% แต่เรามีความเชื่อมั่นว่าในปี 2551 ทุกอย่างจะดีขึ้น เนื่องจากในปีนี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้ถึงจุดต่ำสุดแล้ว แม้ว่าตลาดคอนโดมิเนียมในปีนี้จะได้รับความนิยมจากผู้บริโภค แต่เชื่อว่าในปีหน้า ตลาดบ้านเดี่ยวระดับราคา 3 ล้านบาทขึ้นไปจะเริ่มขยายตัว โดยบริษัทจะเข้าไปทำตลาดในกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่อง และอีกปัจจัย คือ การเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาล ที่คาดว่าจะเข้าสู่ระบบมากขึ้น "นายชูชัยกล่าว


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.