ยามที่เกิดอาการเครียด เพียงเดินเข้าไปหาเครื่องเล่นสเตอริโอแล้วหมุนคลื่นหาเพลงดี
ๆ ที่ผสมผสานลงตัวกันอย่างกลมกลืนในการเรียบเรียงเสียงประสาน
ฟังถ้อยคำร้องที่เปล่งเสียออกมาจากนักร้องชั้นดีลื่นไหลตามจังหวะของทำนองดนตรีที่สร้างสรรค์
และกำกับโดย "ศิลปินผู้อำนวยเพลง" เพียงแค่นี้อาการความเครียดก็จะหายไปอย่างปลิดทิ้ง
เหลือไว้แต่ความสุนทรีย์ทางอารมณ์
ดนตรีจึงเป็นยาขนานเอกสำหรับผู้ป่วยทางจิตใจของบรรดามนุษยชาติทั้งหลาย และด้วยคุณค่าของความเป็นสากลในตัวของมันเองที่ไม่มีการขีดเส้นแบ่งในการให้ความสุนทรีย์แก่มนุษย์โดยปราศจากเชื้อชาติและภาษานี้เอง
ดนตรีจึงกลายเป็นมรดกของโลก
ความที่ดนตรีเป็นสมบัติของมนุษยชาติที่มีความสืบเนื่องจากชนรุ่นหนึ่งสู่ชนอีกรุ่นหนึ่งอย่างไม่มีวันตายนี้เอง
งานประดิษฐ์สร้างสรรค์งานดนตรีของศิลปินผู้ประพันธ์ จึงเป็นทรัพย์สินทางปัญญาชนิดหนึ่งที่ควรได้รับการพิทักษ์ปกป้องรักษาจากระเบียบกฎหมายทางสังคมอย่างเคร่งครัด
เนื่องจากว่าอาชีพนักดนตรีไม่ใช่อาชีพของคนเต้นกินรำกินอีกต่อไป หากแต่เป็นอาชีพของคนที่มีความรู้ความชำนาญเฉพาะด้านเหมือนอาชีพอื่น
ๆ ทั่วไป
มีการผลิตสินค้า คือ เพลงออกมาสู่ผู้บริโภค เหมือนนักเขียนผลิตนวนิยายออกสู่ตลาดบรรณพิภพ
ทุกวันนี้นักเขียนนวนิยายได้รับการคุ้มครองจากกฎหมายลิขสิทธิ์อย่างเต็มที่
"ทันทีที่นักเขียนขายลิขสิทธิ์ผลงานให้สำนักพิมพ์ เขาจะได้ผลตอบแทน
10% ของราคาขายคูณด้วยจำนวนพิมพ์ทันที" อำนวยชัย ปฏิพัทธ์เผ่าพงศ์ นักแปลและนักเขียนชื่อดังเคยเล่าให้ฟังถึงค่าตอบแทนของนักเขียนที่ขายผลงานให้สำนักพิมพ์
ถ้าผลงานของนักเขียนนักแปลรายใดได้รับการตีพิมพ์เพิ่มอีกเท่าไร ก็จะได้รับผลตอบแทนซ้ำในลักษณะเดียวกัน
ข้อเท็จจริงนี้ได้รับการปฏิบัติกันมานานนับ 10 ปีแล้ว จนกลายเป็นระบบที่มาตรฐานได้รับการยอมรับทั่วไปในตลาดบรรณพิภพเมืองไทย
ส่วนนักเขียนนักแปลคนไหนจะได้ผลตอบแทนจากการผลิตผลงานออกมามากน้อยเพียงไร
ก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพและความนิยมของตลาด นักเขียนบางคนได้รับผลตอบแทนจากงานชิ้นหนึ่ง
ๆ ของเขาสูงเกือบ 500,000 บาท ขณะที่บางคนอาจได้เพียง 20,000 บาทเท่านั้น
ดูไปแล้ว ผลงานของนักเขียนมีหลักประกันมีมาตรฐานสูงกว่าผลงานของนักดนตรีเสียอีก
ทุกวันนี้ ผลงานของนักดนตรีไม่มีหลักประกัน ระบบการซื้อขายผลงานไม่มีมาตรฐานขึ้นอยู่กับอำนาจการต่อรองกับบริษัทโฆษณาและบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายเทป
"ถ้าเป็นผลงานทำดนตรีประกอบโฆษณาสินค้าที่เรียกว่า "จิงเกิ้ล"
ราคา 30,000 บาท ถ้าเป็นสารคดีตกราคา 70,000 บาท และภาพยนตร์ 100,000 บาท"
จิรพรรณ อังศวานนท์ กรรมการผู้จัดการบริษัทกลุ่มบัตเตอร์ฟลาย เล่าให้ฟังถึงค่าตอบแทน
จิรพรรณ พื้นฐานเรียนกฎหมายจากธรรมศาสตร์ก่อนที่จะมาเข้าเรียนโปรแกรมบริหารธุรกิจระดับปริญญาโทที่ธรรมศาสตร์ทางด้านอาชีพ
จิรพรรณ เป็นนักดนตรีฝีมือชั้นครูของเมืองไทย ผลงานการสร้างสรรค์ดนตรีได้รับการยอมรับจากตลาดว่า
เข้าขั้นคุณภาพสูง แม้ว่าเขาจะไม่เคยเล่าเรียนทางดนตรีจากสถาบันใดเลย
บริษัทบัตเตอร์ฟลายที่จิรพรรณกับดนู ฮันตระกูล และเพื่อน ๆ วงบัตเตอร์ฟลายก่อตั้งเมื่อ
13 ปีก่อน เพื่อทำธุรกิจเป็นโปรดักชั่นเฮาส์ทางดนตรี ถือได้ว่าเป็นบริษัทผู้นำตลาดด้านทำดนตรีประกอบโฆษณาที่มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ
40-50% ในปัจจุบัน
แม้จะเป็นผู้นำตลาด แต่จิรพรรณก็มีความเห็นว่าค่าตอบแทนจากผลงานดนตรีที่สร้างสรรค์และขายออกไป
มีราคาถูกมากเมื่อเทียบกับคุณค่าของมันในฐานะเป็นทรัพย์สินทางปัญญาชนิดหนึ่ง
ไม่ต่างอะไรกับผลงานการสร้างซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ของบริษัทซอฟท์แวร์เฮาส์
"ผมว่าน่าจะถึงเวลาแล้วที่ผลงานทางดนตรี ควรที่จะมีระบบการคิดค่าตอบแทนจากการขายลิขสิทธิ์ในผลงานที่ได้มาตรฐานเหมือนในต่างประเทศตามกฎหมายลิขสิทธิ์
หรืออย่างน้อยที่สุดก็น่าจะเหมือนวงการธุรกิจสิ่งพิมพ์" จิรพรรณกล่าวถึงการริเริ่มของเขาในเรื่องราคาผลงานดนตรีของบัตเตอร์ฟลาย
ต้นทุนการผลิตดนตรีเพื่อประกอบโฆษณาชิ้นหนึ่ง ๆ มีค่าใช้จ่ายที่ตายตัวอยู่หลายรายการ
ไม่ว่าจะเป็นค่าประพันธ์เนื้อร้องและทำนอง ค่านักร้องนักดนตรี ค่าห้องบันทึกเสียงและค่าจัดการ
ค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะเพิ่มขึ้นทันทีถ้าหากงานชิ้นนั้นต้องปรับปรุงใหม่ตามความต้องการของลูกค้า
ยิ่งปรับปรุงมากครั้งงานชิ้นนั้นก็ไม่คุ้ม จนอาจประสบปัญหาขาดทุนในที่สุด
"ผมว่าค่าตอบแทนควรจะอยู่ในหลักการท่ขึ้นอยู่กับจำนวนเวลาของการเผยแพร่ว่านานเพียงใด
อาจเป็นปีต่อปี และอัตราค่าราคาผลงานต่อสัญญาควรเป็นเปอร์เซ็นต์ไม่ใช่ขายขาดเหมือนทุกวันนี้"
จิรพรรณพูดถึงแนวคิดการคิดค่าผลงานดนตรีตามหลักการของกฎหมายลิขสิทธิ์
บัตเตอร์ฟลายเป็นผู้นำทางคุณภาพด้านดนตรีมาแล้ว ถ้าจะเป็นผู้ริเริ่มและผู้นำสิ่งใหม่
ๆ ในเชิงสร้างสรรค์และพัฒนาระบบการคิดค่าตอบแทนในผลงาน ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินทางปัญญาชนิดหนึ่งให้ก้าวออกจากยุคหินที่เป็นอยู่เวลานี้
ก็ถือว่าเป็นผลงานที่ช่วยยกระดับคุณภาพทางการจัดการธุรกิจด้านดนตรีของประเทศขึ้นมาอีกก้าวหนึ่งที่เรียกได้ว่าเข้าขั้นมาตรฐานระดับสากล