อิเซตันจัดงานใหญ่ดึงคนเข้าห้าง หลังครึ่งปีแรกรายได้รวมตก10%


ผู้จัดการรายวัน(2 พฤศจิกายน 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

ห้างอิเซตัน ครวญเศรษฐกิจ การเมืองทำพิษ ครึ่งปีแรกรายได้รวมลด 10% เร่งมือลุ้นช่วงท้ายปี หวังดันยอดขายสู่เป้าหมาย ล่าสุดจัดงาน “เซ็นได โทโฮะขุ เจแปน แฟร์” หวังดึงคนเข้าห้าง

นาย ชินยะ อูเอโนะ ประธาน บริษัท อิเซตัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2550 มีรายได้ลดลงประมาณ 10% อันเป็นผลจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ที่มีผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภครวมถึงนักท่องเที่ยวที่ลดลงด้วย ขณะที่ในปี 2549 ที่ผ่านมา ห้างสรรพสินค้าอิเซตันมีรายได้ราว 1,300 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงปลายปีนี้จะมีรายได้เพิ่มขึ้นโดยรวมใกล้เคียงกับปีที่แล้ว จากการเตรียมตกแต่งพื้นที่ชั้น 2 ใหม่ในเดือนนี้เพื่อดึงดูดลูกค้า ประกอบกับการที่เซ็นทรัลเวิลด์พลาซ่าได้เปิดคอนเวนชั่นฮอลล์ ซึ่งเป็นโอกาสในการเพิ่มยอดขายของอิเซตันด้วย ในขณะเดียวกันก็มีแผนรุกธุรกิจด้วยการจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงานเทศกาลอาหารที่หมุนเวียนจากเมืองต่างๆ ของญี่ปุ่น ซึ่งได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก

“ตลอดเวลา 15 ปีที่ห้างสรรพสินค้าอิเซตันเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดจากกลุ่มลูกค้าผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จากการที่สินค้าญี่ปุ่นเป็นที่นิยมมากขึ้น พร้อมทั้งลงทุนปรับปรุงพื้นที่ตลอดจนบริการต่างๆ ให้มีความทันสมัยอยู่เสมอด้วยเอกลักษณ์ของความเป็นญี่ปุ่น โดยมีสัดส่วนลูกค้าชาวไทยเพิ่มขึ้นทุกปีถึง 60% ในปัจจุบัน ส่วนกลุ่มชาวญี่ปุ่นที่พำนักอยู่ในประเทศไทยและนักท่องเที่ยวมีประมาณ 25% สำหรับชาวต่างชาติ 15% สินค้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ อาหาร เสื้อผ้าสตรี และเสื้อผ้าบุรุษ

ล่าสุดได้จัดงานเทศกาลผลิตภัณฑ์อาหารและแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว “เซ็นได โทโฮะขุ เจแปน แฟร์” ขึ้นอีกครั้ง ที่บริเวณชั้น 5 และ 6 ระหว่างวันที่ 1-11 พฤศจิกายน 2550 ที่ห้างสรรพสินค้าอิเซตัน หลังจากประสบความสำเร็จอย่างมากในปีที่ผ่านมา โดยนอกจากอาหารปรุงสดรวมถึงผลิตภัณฑ์อาหารต่างๆ ได้รับความนิยมเหนือความคาดหมายแล้ว ในส่วนของการท่องเที่ยวที่เพิ่งเปิดตัวก็ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวชาวไทยนับพันคนไปเยือนดินแดนโทโฮะขุในช่วงมกราคม–สิงหาคม 2550 นี้ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 49% ในปีที่ผ่านมา

นายชินยะ ในส่วนของอิเซตันเองนั้นก็มีกิจกรรมพิเศษอย่างต่อเนื่องมาตลอดปี ทั้งเทศกาลอาหารและสินค้าจากแหล่งต่างๆ ที่น่าสนใจของญี่ปุ่น โครงการ My Elephant รวมถึงการร่วมกับหน่วยงานอีกหลายแห่งที่จัดงานต่างๆ และในโอกาสพิเศษนี้ก็ได้จัดเทศกาล “เซ็นได โทโฮะขุ เจแปนแฟร์” ขึ้นอีกครั้งเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่ชื่นชอบอาหารและวัฒนธรรมญี่ปุ่น

“เซ็นได โทโฮะขุ เจแปนแฟร์” ในครั้งแรกประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยมียอดขายประมาณ 6 ล้านบาท สำหรับปีที่ 2 นี้เราตั้งเป้าเพิ่มขึ้นราว 15% หรือ 7 ล้านบาท อาหารที่ขายดีที่สุดในครั้งที่แล้วคือ ซูชิ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเมนูเด็ดจาก ร้านดังส่งตรงจากญี่ปุ่นที่จะสาธิตการทำและจำหน่ายให้รับประทานกันทั้ง ราเมน จากร้านอาซาฮิยะที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของย่านคิตาคาตะในฟูกูชิม่า โคโรเกะ หอยนางรม ตลอดจนขนมและผลไม้นานาชนิด ผลิตภัณฑ์อาหารทะเล ฯลฯ และของฝากที่ขึ้นชื่ออีกมากมายจากโทโฮะขุ

ทั้งนี้ ข้อมูลของศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า ธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทย มีแนวโน้มการเติบโตขึ้น 10-15% จากปี 2549 ที่มีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 6,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีร้านอาหารญี่ปุ่นที่เปิดให้บริการในไทยมากเป็นอันดับ 5 ของโลก เป็นรองเพียงสหรัฐอเมริกา จีน เกาหลีใต้ และไต้หวัน เท่านั้น โดยในประเทศไทยมีอยู่ประมาณ 660 แห่ง โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ และชลบุรี โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ กลุ่มลูกค้าคนไทยที่ชื่นชอบรสชาติของอาหารญี่ปุ่น และชาวญี่ปุ่นที่อยู่ในประเทศไทยกว่า 60,000 คน


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.