ธุรกิจที่ทำได้เร็วเท่าไรยิ่งดี


นิตยสารผู้จัดการ( ธันวาคม 2534)



กลับสู่หน้าหลัก

เพียงหนึ่งเดือนกับจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์แมคอินทอช 2 เครื่องและพนักงาน 4 คนสำหรับรับงานกราฟิกดีไซน์

สุรช ล่ำซำ ก็ตัดสินใจระดมทุนเพิ่มขึ้นจากเดิม 2 ล้านบาทเป็น 5 ล้านบาททันที เพิ่มเครื่องคอมพิวเตอร์อีก 6 เครื่อง พนักงานอีก 6 คน และย้ายสำนักงานขนาดห้องเดียวจากถนนสีลม มาอยู่ที่อาคารพาณิชย์ 2 ชั้นในซอยหลังสวน

"ถ้าเราขยับขยายใหญ่ขึ้น ตลาดก็มีแน่ ๆ" คือเหตุผลการโตของกราฟิกเดสก์ที่สุรช ล่ำซำ บอกกับ "ผู้จัดการ"

สุรช ล่ำซำ เป็นบุตรชายคนโตของบรรยงค์ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย และภรณี ล่ำซำ หลังจากที่เรียนจบชั้นประถม 4 ที่โรงเรียนสาธิตประสานมิตร เขาบินไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริการะดับจูเนียร์ไฮสกูลที่รัฐแมสชาชูเชตต์ แล้วย้ายไปเรียนไฮสกูลที่รัฐคอนเน็ตติกัต ต่อปริญญาตรีที่นิวยอร์คทางด้าน RETAIL MARKETING ปริญญาใบสุดท้ายที่เขานำกลับมาเมืองไทยด้วยความภาคภูมิใจ คือ ปริญญาโท GRAPHIC COMMUNICATION จากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก

เขามีความสนใจงานด้านคอมพิวเตอร์กราฟิกมาก จนกรทั่งเมื่อเรียนจบแล้ว ก็ยังคงทำงานต่ออีก 6 เดือนที่บริษัท P PRESS ในนิวยอร์ก ซึ่งเคยฝึกงานนานถึง 2 ปีในช่วงที่เรียนปริญญาโท และถือว่าเป็นการจุดประกายความคิดตั้งบริษัททำนองนี้ขึ้นในเมืองไทย

บริษัท P PRESS จึงเปรียบเสมือนเป็นแม่แบบของกราฟิกเดสก์ จะมีความต่างกันก็ตรงที่ใหญ่กว่ากราฟิกเดสก์ 10 เท่า แต่ในส่วนการทำงานมีลักษณะเหมือนกัน คือ เป็นบริษัทที่ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานกราฟิกอย่างครบวงจร ตั้งแต่รับงานออกแบบสิ่งพิมพ์ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นงานชิ้นเล็ก ๆ อย่างเช่น ออกแบบโลโก นามบัตร หรืองานชิ้นโตจำพวกออกแบบนิตยสารทั้งเล่ม หนังสือรายงานประจำปีของบริษัทหรือแม้กระทั่งออกแบบบรรจุภัณฑ์ด้วย

นอกจากนี้ ยังรับตกแต่งฟิล์มสไลด์หรือที่เรียกกันตามศัพท์เทคนิคว่า "RE-TOUCHING" ซึ่งก่อนหน้านี้การตกแต่งฟิล์มต้องใช้ "มือ" ทำเท่านั้น ทำให้กินเวลานานเป็นอาทิตย์กว่าจะลบรอยที่ไม่งามทิ้งหรือเพิ่มสีสันให้เหนือจริง แต่สำหรับผู้ที่ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ได้คล่องจะสามารถประหยัดเวลาลงกว่าเดิม 100 เท่า รวมทั้งราคาก็ถูกกว่าด้วย และได้ผลงานไม่ต่างกับวิธีการทำด้วยมือ

และที่ขาดเสียมิได้ คือ เครื่อง LINOTRONIC 330 เป็นเครื่องถ่ายงานกราฟิกที่เสร็จแล้วให้ออกมาในรูปของแผ่นกระดาษโบร์ไมด์หรือเป็นแผ่นฟิล์มเพื่อใช้ในขั้นตอนการพิมพ์ต่อไป ซึ่งจำเป็นต้องลงทุนควบคู่กันไปด้วยจึงจะเรียกว่าครบวงจรอย่างแท้จริง

การเป็นบริษัทคอมพิวเตอร์กราฟิกจึงไม่ใช่จะอาศัยบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถอย่างเดียว ปัจจัยความพร้อมในเงินลงทุนด้านอุปกรณ์เครื่องมือราคาแพงก็เป็นสิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างเช่น เครื่อง LINOTRONIC -330 เครื่องเดียวก็มีราคาถึง 3 ล้านบาทเศษ หรือเครื่องทำ RE-TOUCHING ก็มีหลายราคาตั้งแต่ 2 แสนบาทขึ้นไปถึง 100 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพการทำงาน

ถึงแม้ว่าบริษัทคอมพิวเตอร์กราฟิกจะมีเป็นจำนวนนับสิบขึ้นไป อาทิเช่น บริษัทเดียร์บุ๊ค บริษัทออมนิวิชั่น ฯลฯ แต่สุรช ล่ำซำ ยืนยันว่า ตลาดด้านนี้จะโตวันโตคืนขึ้นเรื่อย ๆ

"ดูอย่างบริษัทเอเจนซี่โฆษณาซิครับ ยังเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา" เขาพูดถึงประเด็นปัญหาที่ "ผู้จัดการ" ถามถึงงบการลงทุนที่สูง แต่โอกาสทางตลาดก็มีอยู่มากเช่นกัน ซึ่งเขาคาดการณ์ล่วงหน้าว่าภายใน 18 เดือนคงได้ทุนคืน

เมื่อขยายงานใหญ่ขึ้นทำให้การดูแลเพียงคนเดียวย่อมเป็นไปไม่ได้ ประกอบกับเหตุผลส่วนตัว คือ มีงานประจำในส่วนการตลาดของฝ่าย COMMUNICATION ENGINEERING ที่บริษัทล็อกซเล่ย์ด้วย การเข้ามาดูงานที่กราฟิก เดสก์ จึงมีได้เฉพาะในช่วงเวลาเย็นเท่านั้น

พิมพา เบญจฤทธิ์ จึงมีโอกาสเข้ามาร่วมงานในฐานะเป็นผู้ถือหุ้นคนหนึ่งของผู้ถือหุ้นทั้งหมด 22 คน และยังร่วมเป็นกรรมการบริหาร รวมทั้งเป็นที่ปรึกษาด้านกราฟิกดีไซน์ด้วย

พิมพา ศึกษาต่อต่างประเทศตั้งแต่จบชั้นประถม 4 ที่โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัยเช่นเดียวกับสุรช จะต่างกันก็ตรงที่พิมพาเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ และมีความสนใจศิลปะวาดรูป (ILLUSTRATION) ตั้งแต่เล็ก ๆ หลังจากจบไฮสกูลก็ต่อ RICHMOND COLLEGE OF ART ซึ่งเป็นโรงเรียนเตรียมพื้นฐานทางศิลปะก่อนจะเข้าศึกษาระดับปริญญาตรีต่อไป เธอได้เกียรตินิยมทางด้าน GRAPHIC DESIGN จาก MIDLESEX POLYTECHNIC และศึกษาหาประสบการณ์เพิ่มเติมอีก 3 เดือนที่เมืองฟลอเรนซ์ อิตาลี ก่อนบินกลับเมืองไทย

พิมพากลับมาอยู่เมืงอไทยนานเกือบ 10 ปีแล้ว แต่สำหรับสุรช เขากลับมาได้เพียง 6 เดือนเท่านั้น

เมื่อครั้งที่กลับจากอังกฤษ เธอไม่ได้ทำงานด้านกราฟิกดีไซน์ตามที่เรียนมาทันที แต่ก็ได้ใช้ความรู้ทางอ้อมในฐานะที่เป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการหอศิลปพีระศรีอยู่นานถึง 4 ปี หลังจากนั้นจึงได้มีโอกาสทำงานเป็นอาร์ตไดเร็กเตอร์ให้กับ วิล คอร์เปอเรชั่นประมาณ 2 ปี ซึ่งในช่วงนั้นคอมพิวเตอร์กราฟิกยังไม่เข้ามาเมืองไทย

"ชอบมากที่ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์วาดรูป มันช่วยลดความอึดอัดลงได้มากเวลาที่วาดรูปด้วยมือไม่ได้อย่างที่คิดไว้" เธอกล่าวกับ "ผู้จัดการ" ถึงความรู้สึกกับเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งเธอมีโอกาสเรียนรู้และใช้งานเป็นเมื่อไม่นานนี้เอง

ถึงแม้ว่ากราฟิก เดสก์จะทำงานด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์แทนการทำงานด้วย "มือ" แต่ทั้งเขาและเธอก็รู้ดีว่า การรู้จักใช้เครื่องเพียงอย่างเดียวโดยปราศจากฝีมือและหัวคิดในงานกราฟิก ผลงานย่อมไม่สมบูรณ์ ฉะนั้น บุคลากรที่ต้องการควรมีทั้งสองส่วนเท่า ๆ กัน

"กว่าผมจะหาคนทำงานได้ก็เหนื่อย มีบางคนเก่งกราฟิกแต่ไม่เคยใช้เครื่องมาก่อน เราก็สอนตั้งแต่หัดเปิดเครื่อง จนตอนนี้ใช้เครื่องได้คล่องพอควรแล้ว" สุรช เล่าถึงปัญหาการขาดแคลนบุคลากรกับ "ผู้จัดการ"

อย่างไรก็ดี แม้ว่ากราฟิก เดสก์ จะเป็นน้องใหม่ในวงการ ที่มีอายุเพียง 4 เดือนเท่านั้น แต่ก็มีงานประดังเข้ามาไม่ขาดสาย เรียกได้ว่าตอนนี้มีงานเต็มกำลังคน

ลูกค้ารายใหญ่ในขณะนี้ คือ บริษัทฮัทชิสัน ซึ่งมอบหมายให้ กราฟิก เดสก์ ออกแบบทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับงานสิ่งพิมพ์ นอกจากนี้ก็มีงานจากบริษัท 124 คอมมิวนิเคชั่น บริษัทที่ทำด้านโปรโมชั่นโดยเฉพาะนิตยสารรายการโทรทัศน์ของสตาร์ทีวี ซึ่งกำหนดออกฉบับแรกเดือนมกราคม 2535 และก็มีที่มาใช้บริการเฉพาะเครื่องถ่าย LINOTRONIC 330 เท่านั้น อย่างเช่น บริษัทโอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ และจิปาถะอื่น ๆ อีก

"คิดว่าจุดแข็งของเรา คือ คนทำงานที่นี่มีประสบการณ์ด้านกราฟิกมาก่อนที่จะมาอยู่กับเรา บวกกับการใช้คอมพิวเตอร์ทำงาน ทำให้งานออกมาเนียบ สวย และเร็วกว่าเดิมมาก" พิมพา บอกกับ "ผู้จัดการ"

นอกจากนี้ ทางกราฟิก เดสก์ ยังวางแผนต่อไปในอนาคตในเรื่องการพัฒนาเครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับงาน RE-TOUCHING ให้มีประสิทธิภาพทำงานได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น รวมทั้งช่วยย่นระยะเวลาการทำงานให้น้อยลง ซึ่งย่อมหมายถึงการบริการลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น และที่สำคัญคู่แข่งในด้านนี้ยังน้อยมาก เพราะต้องอาศัยความรู้ประสบการณ์ และใช้เงินทุนสูงพอสมควร

เมื่อมีความพร้อมทั้งความรู้และบุคลากรระดับมืออาชีพเป็นฐานที่แข็งแรง เสริมด้วยความเป็น "ล่ำซำ" ซึ่งเป็นตระกูลนักธุรกิจที่มีเครือข่ายกว้างขวาง กราฟิก เดสก์ คงเติบโตได้อีกไกลอย่างแน่นอน



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.