โบรกฯชี้หุ้นสวิงแนะถือเงินสด


ผู้จัดการรายวัน(1 พฤศจิกายน 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

ตลาดหุ้นไทยสุดสวิงระหว่างวันร่วงกว่า 10 จุด หลังหุ้นน้ำมันโดนกระหน่ำขายเหตุราคาน้ำมันในตลาดโลกร่วงกว่า 4 เหรียญต่อบาร์เรล ก่อนได้อานิสงส์นักลงทุนแห่เก็งกำไรหุ้นแบงก์-รับเหมาฯ ลุ้นเฟดประกาศลดอัตราดอกเบี้ยวันนี้ โบรกฯ แนะเลี่ยงลงทุน ชี้สถานการณ์ทั้งในประเทศ-นอกประเทศยังไม่นิ่ง เชื่อตลาดหุ้นยังผันผวนต่อ

ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์วานนี้ (31 ต.ค.) ตอลดทั้งวันดัชนีผันผวนอย่างหนักโดยในช่วงเช้าดัชนีปรับตัวลดลงกว่า 10 จุดเนื่องจากมีแรงขายหุ้นในกลุ่มพลังงานออกมาหลังจากราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลดลงกว่า 4 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ก่อนที่จะมีแรงซื้อเข้ามาอย่างหนักในหุ้นกลุ่มธนาคารส่งผลทำให้ดัชนีปรับตัวขึ้นมาปิดที่ 907.28 จุด เพิ่มขึ้น 0.62 จุด หรือ 0.07% โดยจุดสูงสุดของวันอยู่ที่ 911.64 จุด ขณะที่จุดต่ำสุดอยู่ที่ 894.02 จุด มูลค่าการซื้อขาย 32,118.75 ล้านบาท

ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 114.24 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 358.46 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 472.70 ล้านบาท

นายกวี ชูกิจเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์(บล.) กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า นักลงทุนเริ่มโยกเงินลงทุนจากเดิมที่ลงทุนในกลุ่มพลังงานเป็นกลุ่มธนาคารหลังราคาน้ำมันปรับตัวลดลงมาอยู่ในระดับประมาณ 90 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลจากการคาดการณ์ว่าปริมาณน้ำมันสำรองในสหรัฐฯที่จะประกาศโดยกระทรวงพลังงานสหรัฐฯจะเพิ่มขึ้นรวมถึงการกลับมาเปิดท่าเรือขนส่งน้ำมันอีกครั้งของท่าเรือในเม็กซิโก

นอกจากนี้ เม็ดเงินที่ไหลกลับเข้ามาลงทุนทั้งในหุ้นธนาคารพาณิชย์รวมถึงหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์สะท้อนถึงความมั่นใจในปัจจัยพื้นฐานของอุตสาหกรรมดังกล่าว รวมถึงแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ประกาศออกมาดีกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ โดยมีการคาดการณ์ต่อไปว่าในปีหน้ากลุ่มสถาบันการเงินที่เป็นธุรกิจที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ นักลงทุนจะต้องติดตามผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์หรือไม่ โดยคาดว่าเฟดน่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ซึ่งหากผลสรุปออกมาเป็นไปตามที่คาดอาจจมีแรงเทขายทำกำไรในหุ้นพลังงานออกมาแต่หากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่สูงกว่าน่าจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้น

อย่างไรก็ตาม คำแนะนำลงทุนในระยะสั้นนักลงทุนควรหลีกเลี่ยงการลงทุน เนื่องจากตลาดหุ้นยังจะมีความผันผวนต่อไป แต่หากลงทุนในระยะยาว สามารถเข้าลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มอสังหาฯ โดยประเมินแนวรับที่ 894 จุด และแนวต้านที่ 910 จุด

ซื้อแบงก์-รับเหมาฯหยุงดัชนี

นายวีระชัย ครองสามสี ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ฟาร์อีสท์ กล่าวว่า การซื้อขายในตลาดทุนของโลกค่อนข้างแกว่งตัวหลังโกแมนเซกได้ออกคำแนะนำให้นักลงทุนปิดสถานะการซื้อในหุ้นของกลุ่มสินค้า Commodity ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน หรือ ทองคำ ฯลฯ รวมถึงการคาดการณ์ของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) ที่น่าจะประกาศปริมาณน้ำมันสำรองน่าจะเพิ่มสูงขึ้นส่งผลให้มีการเทขายทำกำไรน้ำมันออกมาลดลงไป 4 เหรียญฯ จึงส่งผลต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน

ทั้งนี้ตลาดหุ้นไทยยังได้แรงซื้อจากกลุ่มธนาคารพาณิชย์ รวมถึงกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ช่วยให้บรรยากาศของตลาดกลับมาคึกคักในช่วงบ่าย วานนี้ โดยส่วนตัวยังมองแนวโน้มตลาดน่าจะรีบาวน์ช่วงสั้นๆ โดยจะต้องรอดูที่ 911 จุด หากดัชนีไม่สามารถผ่านอาจจะปรับตัวลงมาที่ 900 จุดอีกครั้ง

นายอภิศักดิ์ ลิมป์ธํารงกุล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.นครหลวงไทย กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยในวันนี้ต้องจับมาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอัตรา 0.25% หรือ 0.50% เนื่องจากค่อนข้างส่งผลต่อจิตวิทยาในการลงทุน โดยกลยุทธ์ในช่วงนี้แนะนำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอประเมินสถานการณ์ด้านต่างๆประกอบ โดยประเมินแนวรับไว้ที่ 890-900 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 915 จุด

"การตัดสินใจของเฟดค่อนข้างมีผลต่อจิตวิทยาในการลงทุน ซึ่งนอกจากจะต้องพิจารณาว่าจะปรับลดดอกเบี้ยหรือไม่แล้ว สัดส่วนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยยังถือว่าเป็นอีกเรื่องที่ต้องติดตาม"นายอภิศักดิ์กล่าว


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.