ชาญอิสสระฯเพิ่มพอร์ตค่าเช่า20%หลังทุ่ม2พันล.ลุยศรีพันวาเฟส3-ดูดเงินต่างชาติ


ผู้จัดการรายวัน(31 ตุลาคม 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

ชาญอิสสระฯ ลุยพัฒนาโครงการศรีพันวา เฟส3 ทุ่มงบกว่า2,000 ล้านบาท ผุดบ้านเดี่ยวสุดหรูราคาเริ่มต้น 70-200ล้านบาท พร้อมวิลล่าปล่อยเช่า จับกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติระดับไฮเอนด์ คาดดันสัดส่วนรายได้ระยะยาวเพิ่มในปี2552เป็น20% พร้อมทุ่มงบ400ล้านบาท ซื้อที่ดินตามเมืองท่องเที่ยว เล็งผุดอีก2โครงการรูปแบบเดียวกันในปี2551

นาย สงกรานต์ อิสสระ กรรมการผู้จัดการบริษ้ท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธาน บริษัท ชาญอิสสระ เรสซิเดนซ์ จำกัด เปิดเผยถึงแผนขยายการลงทุนว่า ได้ใช้งบประมาณ 2,000 ล้านบาท ในการพัฒนาโครงการศรีพันวา จังหวัดภูเก็ต เฟสที่3 บนเนื้อที่การพัฒนาโครงการ22 ไร่ โดยมีรูปแบบการพัฒนาแบ่งออกเป็น 2 ส่วนประกอบด้วย การพัฒนาบ้านพักตากอากาศ (Residences) เพื่อขายจำนวน 6 ยูนิต ซึ่งบ้านพักตากอากาศเพื่อขายนี้มีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 1,000 – 2,000 ตารางเมตร (ตร.ม.) ราคาเริ่มต้น70-200ล้านบาทต่อยูนิต และเป็นการพัฒนาในลักษณะพูล วิลล่า ( Pool Villas) จำนวน 23 ยูนิต ซึ่งมีรูปแบบการบริหารจัดการแบบธุรกิจโรงแรม โดยในส่วนของPool Villas ดังกล่าว จะมีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 240 – 300 ตร.ม.

สำหรับโครงการศรพันวา ภูเก็ตในเฟส1 นั้น มีพื้นที่การพัฒนา 22 ไร่ มูลค่า 500 ล้านบาท แบ่งการพัฒนาออกเป็นบ้านพักตากอากาศเพื่อขาย (Residences) จำนวน 9 ยูนิต มีพื้นที่ใช้สอยต่อยูนิตตั้งแต่ 800 – 1,200 ตร.ม. ส่วนการพัฒนา Pool Villas จำนวน 11 ยูนิต มีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 240 – 300 ตร.ม. ขณะนี้สามารถปิดการขายเรียบร้อยแล้ว สำหรับในเฟสที่2 มีพื้นที่การพัฒนาจำนวน 30 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท แบ่งการพัฒนาออกเป็นที่อยู่อาศัย จำนวน 10 ยูนิต พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 800 – 1,200 ตร.ม. ขณะนี้มียอดขายแล้ว 8 ยูนิต หรือประมาณ 90% และพัฒนาเป็นพูล วิลล่า จำนวน 20 ยูนิต พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 240 – 300 ตร.ม.

“ โครงการศรีพันวา จะเน้นตลาดระดับบน จับกลุ่มเป้าหมายผู้ซื้อชาวต่างชาติระดับราคาตั้งแต่ 1-5 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อหน่วย เป็นบ้านพักหรูสำหรับการพักผ่อนหรืออยู่อาศัยระยะยาวในบรรยากาศริมทะเลอันดามัน ซึ่งมีพัฒนาการพัฒนารวมทั้งหมดในโครงการประมาณ 80 ไร่ ”

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน บริษัท ชาญอิสสระ ดิเวลลอปเมนต์ฯ มีสัดส่วนรายได้จากการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อขายประมาณ 90% ส่วนที่เหลือ 10% เป็นรายได้จากการปล่อยเช่าโครงการอาคารสำนักงาน เป็นรายได้ระยะยาวของบริษัทฯ ซึ่งหลังจากที่โครงการ ศรีพันวา ภูเก็ต ก่อสร้างเสร็จในปี2552 แล้ว คาดว่าจะทำให้บริษัท ชาญอิสสระฯ มีสัดส่วนรายได้จากการปล่อยเช่าเพิ่มขึ้นเป็น 20%

ทั้งนี้ บริษัทฯตั้งเป้าว่า ในปี 2550 จะมีรายได้รวมที่ 900 ล้านบาท แบ่งออกเป็นรายได้จากการปล่อยเช่า 10% และรายได้จากการพัฒนาโครงการเพื่อขาย 90% ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ ส่วนในปี 2551 บริษัทมีแผนจะพัฒนาโครงการใหม่เพิ่มอีก 2 โครงการ จะเป็นการพัฒนาในรูปแบบรีสอร์ตและพัฒนาเพื่อขายในรูปแบบเดียวกับโครงการศรีพันวา ภูเก็ต โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตัดสินใจเลือกซื้อที่ดินอยู่ โดยบริษัทมีงบประมาณการซื้อที่ดินประมาณ 400 ล้านบาท

“ในปีหน้า รายได้รวมของกลุ่มคาดว่าจะเติบโตจากปี 50ประมาณ 10-15% ซึ่งรายได้ดังกล่าวจะมาจากการรับรู้รายได้จาก3โครงการ คือโครงการคอนโดมิเนียมลาดพร้าว ขณะนี้มียอดขายแล้ว 800ล้านบาทจากมูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท และจะมีรายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมสุขุมวิท 42 ปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 200 ล้านบาท จากมูลค่ารวม450ล้านบาท และโครงการบ้านชานทะเล ชะอำ ซึ่งมียอดขายแล้ว 500ล้านบาทจากมูลค่าขายรวมโครงการ1,500 ล้านบาท”


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.