เรียนตอนเช้า บ่ายเอามาใช้ทันที

โดย นภาพร ไชยขันแก้ว
นิตยสารผู้จัดการ( พฤศจิกายน 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

ชาญ ศรีวิกรม์ ถือเป็นบทพิสูจน์ได้อย่างหนึ่งว่า การเรียน MBA ในเมืองไทยก็ได้ผลลัพธ์ไม่แตกต่างจากการเดินทางไปเรียนถึงเมืองนอกที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแพงกว่า

นอกจากนี้เขายังเป็นคนที่ได้นำความรู้จากห้องเรียนที่ศศินทร์มาใช้อย่างเต็มที่ ทั้งที่อยู่ในบทบาทของนักการเงินหรือเป็นผู้บริหารกิจการของครอบครัว

ชาญเป็นทายาทนักธุรกิจที่ถูกส่งไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่เด็ก เขาจบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาเศรษฐศาสตร์ จากควีน แมรี่ คอลเลจ มหาวิทยาลัยลอนดอน

ในตอนแรกหลังเรียนจบ เขาตั้งใจจะเรียนต่อปริญญาโททันที โดยได้มองสถาบันการศึกษาไว้แล้ว 2-3 แห่ง เช่น เอ็มไอที มหาวิทยาลัยบอสตัน รวมทั้งที่ฮาร์วาร์ด

แต่มีคนใกล้ชิดบอกเขาว่าการเรียนปริญญาโทจะได้ประโยชน์มากกว่าหากก่อนเข้าเรียนได้มีประสบการณ์ในทำงานมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ปี

เขาจึงตัดสินใจเดินทางกลับมาเมืองไทย และเข้าทำงานกับธุรกิจของครอบครัว โดยเป็นผู้บริหารศูนย์การค้าเกษร ที่ขณะนั้น ยังเป็นเพียงศูนย์การค้าแนวราบ

"หลังจากทำงานไปได้ประมาณ 2 ปี พอดีศศินทร์เปิดสอน แล้วที่นี่ก็เรียนเป็นภาษาอังกฤษ เลยเหมาะมาก เพราะตอนนั้นภาษาไทยผมไม่ค่อยเก่ง" ชาญบอกกับ "ผู้จัดการ"

ชาญเข้าเรียนหลักสูตร MBA รุ่น 2 ในปี 2527 รุ่นเดียวกับกิตติรัตน์ ณ ระนอง ระหว่างที่เรียน เขาก็ยังคงทำงานอยู่กับศูนย์การค้าเกษร ทั้งที่เป็นหลักสูตรที่ต้องเรียนเต็มเวลา

สิ่งที่เขาเรียนจากห้องเรียน เขายอมรับว่าได้นำกลับมาใช้มากในการทำงาน ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ มีหลายกรณีที่เขาได้นำมาใช้ทันทีในที่ทำงานของเขาหลังจากที่เลิกเรียนแล้ว

"ผมเป็นนักเรียนที่นำความรู้มาใช้กับงานได้เยอะ ผมเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย ตอนเรียนที่ศศินทร์ก็ยังทำที่เกษร เพราะเป็นธุรกิจของครอบครัว เรียกว่าเรียนเช้า บ่ายทำงาน เย็นทำ case study กับเพื่อน ตอนเช้าทำรายงาน ทำ course work ตอนกลางคืน แต่ความรู้ที่ผมได้เรียนในตอนเช้า ก็เอามาใช้งานในตอนบ่ายได้เลย" ชาญเล่าปนหัวเราะ

หลังเรียนจบจากศศินทร์ ชาญกระโดดออกไปทำงานในวงการไฟแนนซ์ โดยไปร่วมงานในบริษัทหลักทรัพย์เอกธำรง (ตั้งแต่สมัยยังใช้ชื่อ บล.โกลด์ฮิลล์) ซึ่งมีบริษัทเงินทุนเอกธนกิจ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่

ที่เขาเลือกทำงานที่นี่ เพราะครอบครัวของเขาก็ถือหุ้นส่วนหนึ่งอยู่ในบริษัทเงินทุนเอกธนกิจ

งานที่เขาทำใน บล.เอกธำรง คืองานทางด้านวาณิชธนกิจ ซึ่งถือเป็นงานดาวรุ่งของพวกที่จบ MBA ในยุคนั้น

เขาทำงานอยู่กับเอกธำรงถึง 10 ปี จนเมื่อประเทศไทยประสบภาวะวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2540 จึงกลับมาช่วยบริหารงานธุรกิจของครอบครัวในฐานะประธานเกษร กรุ๊ป


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.