|

น้ำมันดันดัชนีหุ้นไทยปิดเหนือ900จุด
ผู้จัดการรายวัน(30 ตุลาคม 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
ตลาดหุ้นไทยยังร้อนแรงพุ่งต่อ 20 จุด ปิดเหนือ 900 จุดเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 11 ปี หลังได้แรกหนุนจาก PTT ขึ้นเกือบ 8% ปิดที่ 440 บาท ขณะที่ BANPU พุ่ง 8.5% ปิดที่ 460 บาท "ภัทรียา" ยันยังไม่กลุ่มทุนการเมืองเข้ามาปั่นหุ้นเพื่อไปใช้ก่อนการเลือกตั้ง ระบุดัชนีทะยานไม่หยุดเป็นไปตามตลาดหุ้นในภูมิภาคหลังสภาพคล่องล้นโลก ขณะที่รับอานิสงส์ราคาน้ำมันพุ่งไม่หยุด บวกกับแรงเก็งกำไรลุ้น "ปตท." แตกพาร์ ด้านหุ้นเอเชียทะยานถ้วนหน้าเช่นกัน
ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ (29 ต.ค.) ดัชนียังปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังราคาน้ำมันในตลาดโลกยังเดินหน้าทะยานสร้างสถิติใหม่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้หุ้นในกลุ่มพลังงานต่างปรับตัวเพิ่มขึ้น โดย บมจ.ปตท. หรือ PTT ราคาปรับตัวขึ้นแตะระดับ 440 บาท ขณะที่บมจ.บ้านปู หรือ BANPU ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาปิดที่ 460 บาท
ทั้งนี้ ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นปิดที่ 915.03 จุด เพิ่มขึ้น 20.46 จุด หรือ 2.29% โดยจุดสูงสุดของวันอยู่ที่ 916.06 จุด ขณะที่จุดต่ำสุดอยู่ที่ 905.85 จุด มูลค่าการซื้อขาย 24,399.18 ล้านบาท มีนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,999.59 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 346.77 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 1,652.82 ล้านบาท
หากพิจารณามูลค่าการซื้อขายเฉพาะในกลุ่มพลังงาน พบว่า มีมูลค่าซื้อขายรวม 1.21 หมื่นล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 50% ของมูลค่าการซื้อขายรวม ส่วนดัชนีกลุ่มพลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้นมาปิดที่ 24,700.37 จุด เพิ่มขึ้น 1,134.24 จุด หรือ 4.81%
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เข้าไปตรวจสอบความผิดปกติจากการซื้อขายในช่วงที่มูลค่าการซื้อขายในตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก แต่ที่ผ่านมายังไม่พบความผิดปกติ และไม่พบว่ามีนักการเมืองหรือกลุ่มทุนทางการเมืองเข้ามาใช้ปั่นราคาหุ้นเพิ่มใช้เป็นทุนในการเลือกตั้ง
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาไม่มีหน่วยงานทางการเมืองหรือคำสั่งพิเศษจากภาครัฐให้เข้าไปตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวเป็นพิเศษ แต่การตรวจสอบของตลท.เป็นไปเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน โดยประเด็นหลักที่ส่งผลทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากเป็นผลมาจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลกจากสภาพคล่องที่ไหลเข้ามาในตลาดทุน
"เราไม่ได้รับคำสั่งอะไรพิเศษจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้าไปตรวจสอบการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น แต่เท่าที่มีการตรวจสอบยังไม่พบว่ามีความผิดปกติในการซื้อขายทั้งราคาและปริมาณหุ้นที่ซื้อขาย"นางภัทรียากล่าว
นอกจากนี้ การปรับตัวเพิ่มขึ้นของดัชนีอย่างต่อเนื่องยังเป็นผลมาจากการการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นในกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มพลังงานจะโดดเด่นตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนต่างชาติค่อนข้างคาดหวังจะได้เห็นการเลือกตั้งเกิดขึ้นในวันที่ 23 ธ.ค. ซึ่งปกติก่อนการเลือกตั้งทุกครั้งตลาดหุ้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเสมอโดยในรอบนี้ได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่สูงทำให้หุ้นในกลุ่มน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก
สัดส่วนตปท.เทรดหุ้นแตะ40%
นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานคณะกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่า สัดส่วนนักลงทุนที่ซื้อขายในตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดิมอยู่ที่ประมาณ 25% เป็น 40% เนื่องจากมีเม็ดเงินจากต่างประเทศที่ไหลเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่องทั้งในตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นทั่วภูมิภาคเอเชีย ขณะที่ตลาดหุ้นไทยได้รับผลดีมากขึ้นเนื่องจากมีการพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ SET 50 Index Options ซึ่งคาด ว่าจะได้รับความสนใจเหมือน SET 50 Index Futures ซึ่งมีการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันสูงถึง 4.4 พันล้านบาทหรือประมาณ 7.4 พันสัญญาต่อวัน ซึ่งมีอัตราการเติบโตถึง39%
โบรกเตือนระวังแรงขายทำกำไร
นายวีระชัย ครองสามสี ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟาร์อีสท์ จำกัด กล่าวว่า จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นในกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะหุ้น PTT-PTTCH-TOP-ATC-PTTEP ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยราคาน้ำมันดิบไลท์ล่วงหน้าสัญญาส่งมอบเดือนธันวาคม ที่ตลาดนิวยอร์ก ปิดตลาดที่ราคา 91.86 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.40 ดอลลาร์
ทั้งนี้ ทิศทางในตลาดหุ้นวันนี้ คาดว่าดัชนีจะปรับตัวเพิ่มขึ้นตามสัญญาณเทคนิคและแรงซื้อในหุ้นมาร์เกตแคปขนาดใหญ่ที่ยังมีโอกาสที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยดัชนีมีโอกาสที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 920 จุด ซึ่งหากดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นถึงระดับดังกล่าวอาจจะมีการขายทำกำไรออกมา เนื่องจากตลาดหุ้นอาจจะต้องมีการปรับฐานอีกครั้ง โดยประเมินแนวรับไว้ที่ 911 จุดหากหลุดแนวรับดังกล่าวแนวรับต่อไปอยู่ที่ 900 จุด
ส่วนผลการประชุมคณะกรรมการของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 30-31 ตุลาคมนี้ ยังเป็นประเด็นที่นักลงทุนต้องติดตามแม้ว่าจะมีการคาดการณ์ไว้ว่าเฟดอาจอาจจะลดดอกเบี้ยในรอบนี้เพียง 0.25%
ลุ้นปตท.แตกพาร์เหลือบาทเดียว
แหล่งข่าวนักวิเคราะห์ กล่าวว่า ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นจนราคาหุ้นหลายบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ในหลักเกือบ 100 บาทหรือสูงกว่าแล้วนั้น ทำให้นักลงทุนต้องติดตามว่าอาจจะมีข่าวการประกาศแตกพาร์หุ้นในบางบริษัทเพื่อให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงจากราคาในปัจจุบัน
ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะมีการแตกพาร์หุ้นที่ราคาอยู่ในระดับค่อนข้างสูงไม่ว่าจะเป็น PTT หรือ BANPU ที่อยู่ในระดับมากกว่า 400 บาทโดยมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) อยู่ที่ 10 บาท ซึ่งหากมีการแตกพาร์จริงจะช่วยเพิ่มปริมาณการซื้อขายได้ค่อนข้างมาก
หุ้นแถบเอเชียพุ่งลิ่วถ้วนหน้า
ทางด้านสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ตลาดหุ้นทางแถบเอเชียวานนี้ ต่างก็ปิดเพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกัน โดยปัจจัยสำคัญมาจากการที่นักลงทุนมองการณ์ในแง่ดี ก่อนหน้าการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันอังคาร (30) และวันพุธ (31) นี้ ซึ่งใครๆ ต่างคาดหมายกันว่า จะต้องมีการลดดอกเบี้ยเฟดฟันด์เรตลงมาอีกอย่างน้อย 0.25%
ความรู้สึกในทางดีเช่นนี้ ทำให้นักลงทุนไม่หวั่นไหวถึงแม้ราคาน้ำมันตลาดโลกกำลังพุ่งทะยานทำนิวไฮที่ระดับสูงเลย 93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลแล้ว
ทั้งนี้ ในตลาดแถบเอเชียวานนี้ ดัชนีหุ้นสำคัญของโตเกียวปิด +1.17% ขณะที่ฮ่องกงปิด +3.9% ทะลุผ่านแนวจิตวิทยาสำคัญที่ระดับ 31,000 จุด เช่นเดียวกับเซี่ยงไฮ้ปิด +2.83% ทางด้านสิงคโปร์ +1.3% , กัวลาลัมเปอร์ +0.95%, และมุมไบ(บอมเบย์) +3.82%
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|