|

“เซนส์ฯ”อิงฟิตเนสเปิดสปาเล็งแฟรนไชส์-ร่วมทุน-ตปท.
ผู้จัดการรายวัน(25 ตุลาคม 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
ธุรกิจสปาเฟื่อง ปีนี้คาดโต 80% “เซนส์ ออฟ จอย” สยายปีกทุ่ม 20 ล้าน เกาะติดแคลิฟลอเนียร์ ฟิตเนส ผุดสาขาที่ 2 ที่เอสพละนาด เชื่อคุ้มทุนใน 18 เดือน มั่นใจรายได้สิ้นปีแตะ 60 ล้านบาท ส่วนปีหน้าเตรียมเปิดเพิ่มอีก 2 สาขา จากงบลงทุนไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท
นางวราลักษณ์ วาณิชย์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซนส์ ออฟ จอย จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจด้าน สปา แอนด์ เวลเนส เซ็นเตอร์ ภายใต้ชื่อ เซนส์ ออฟ จอย เปิดเผยว่า ธุรกิจสปาเมืองไทยมูลค่า 40,000 ล้านบาทปีนี้มองว่าจะมีการเติบโตถึง 80% เนื่องจากการกระตุ้นจากทางภาครัฐ อีกส่วนหนึ่งมาจากเป็นการเติบโตที่มาจากกลุ่มสปาที่อยู่ในระดับเชนใหญ่ตามโรงแรมและรีสอร์ตต่างๆถึงแม้ว่ากลุ่มเจนเนอรัลสปาอาจจะได้รับผลกระทบจากปัญหาสภาพเศรษฐกิจก็ตาม
ขณะที่ธุรกิจสปาของบริษัท ภายใต้ชื่อ เซนส์ ออฟ จอย ไม่ได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นมากนัก เนื่องจากกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มระดับเอขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีรายได้ค่อนข้างสูง ที่สนใจดูแลตัวเองและสุขภาพ ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น โดยกว่า 20% ยังเป็นกลุ่มชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยด้วย ส่งผลให้ขณะนี้การเปิดให้บริการ เซนส์ ออฟ จอย สาขาแรกที่สุขุมวิท 23 ระยะเวลากว่า 2 ปีตั้งแต่เปิดให้บริการ ยังคงได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า หรือมีฐานสมาชิกกว่า 5,000 ราย
ล่าสุดทางบริษัทฯได้จัดสรรงบประมาณกว่า 20 ล้านบาท ในการขยายสาขาที่ 2 เพิ่มขึ้นตามแผนการดำเนินธุรกิจในช่วง 3 ปีแรก ณ ศูนย์การค้าเอสพละนาด สำหรับเจาะกลุ่มเป้าหมายระดับเอขึ้นไปในย่านดังกล่าว โดยยังคงเป็นทำเลที่ติดไปกับฟิตเนสอย่าง แคลิฟอร์เนียร์ อยู่ ซึ่งมองว่าเป็นกลุ่มเดียวกัน และจะช่วยให้บริการสปาของเซนส์ ออฟ จอย มีความแตกต่างจากที่อื่นๆ เช่นเดียวกับในสาขาแรก ซึ่งมีลูกค้าจากทางศูนย์ออกกำลังกายดังกล่าวเข้ามาใช้บริการกว่า 70% ส่วนในสาขานี้คาดว่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการมากว่า 1-2 เดือน ขณะนี้มีฐานสมาชิกแล้วกว่า 1,000 ราย
นางวราลักษณ์ กล่าวว่า ผลประกอบการของธุรกิจสปาค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจ โดยในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา สาขาแรกที่สุขุมวิท มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเดือน 25% จากเฉลี่ยต่อวัน 30-40 ราย และในเสาร์อาทิตย์ที่ 60-70 ราย ซึ่งเมื่อรวมกับสาขาที่ 2 ที่เพิ่งเริ่มเปิดให้บริการมาได้ระยะหนึ่ง คาดว่าสิ้นปีนี้บริษัทฯน่าจะมีรายได้ที่ 60 ล้านบาท ขณะที่สาขาแห่งที่ 2 เชื่อมั่นว่าจะถึงจุดคุ้มทุนภายใน 18 เดือนหรือเร็วกว่านั้น
อย่างไรก็ตามบริษัทฯยังได้มีการรีโนเวตสาขาแรกภายใต้งบประมาณอีกกว่า 5 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ประมาณวันที่ 7 พ.ย.ที่จะถึงนี้ นอกจากนี้ในปีหน้าบริษัทฯมีแผนที่จะเปิดเพิ่มอีก 2 แห่ง ใช้งบอีก 40 ล้านบาท หรือ 20 ล้านบาทต่อสาขา โดยอยู่ในขั้นตอนของการหาทำเล ซึ่งหนึ่งในนั้นคาดว่าจะเป็นย่านถนนสุขุมวิท โดยยังคงเน้นการเปิดสาขาที่อยู่ในหรือใกล้ๆกับฟิตเนสเพื่อที่จะได้มีลูกค้าไหลเวียนเข้ามาใช้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทฯยังเปิดโอกาสให้กับผู้ที่สนใจเข้าร่วมลงทุนในการทำธุรกิจร่วมกันด้วย ทั้งในลักษณะของแฟรนไชส์หรือการร่วมทุนในอนาคตอันใกล้นี้ รวมถึงการเข้าไปขยายสาขาในต่างประเทศด้วย ซึ่งมองไว้ว่าน่าจะเป็นเวียดนามหรืออินเดียภายในระยะ 3 ปีหลังจากนี้
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|