ความสำเร็จจากการเจรจาซื้อบงล. ตะวันออกฟายแน้นซ์ หนึ่งในทรัสต์ 4 เมษาฯ
เมื่อเร็ว ๆ นี้เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าใครคือนักซื้อกิจการตัวจริงในวงการธุรกิจไทย
ชื่อของกลุ่มเอเชียน แปซิฟิคออกจะดูใหม่ในวงการ แต่ชื่อของราเกซ สักเสนา
CHIEF OPERATING OFFICER ของกลุ่มฯนั้นไม่ใหม่เลย ออกจะเป็นที่รู้จักกันดีด้วยซ้ำไป
นอกจากซื้อตะวันออกฟายแน้นซ์แล้ว เอเชียน แปซิฟิคกรุ๊ปกำลังดำเนินการซื้อกิจการด้านฟาสต์ฟูด
กิจการผลิตอาหารสำเร็จรูปและกิจการอิเล็กทรอนิกส์รวม 3-4 แห่งเข้าไว้ในกลุ่มให้ได้ก่อนสิ้นปี
2532 ด้วย
ส่วนปี 2533 ก็มีเป้าหมายเมื่อถึงสิ้นปีหน้ากิจการที่จะซื้อเข้ามาไว้อีกมากกว่า
10 แห่ง คิดเบ็ดเสร็จก็เท่ากับมีกิจการในกลุ่มมากกว่า 50 แห่ง
แล้วจะไม่ให้เรียกกลุ่มนี้ว่าเป็นนักซื้อกิจการตัวจริงได้อย่างไร
การซื้อกิจการที่กลุ่มเอเชียนแปซิฟิคทำนี้ หมายถึงการเลือกพิจารณาร่วมลงทุนกับบริษัทขนาดกลางที่มีแนวโน้มจะเติบโตขยายตัวได้อีกไกลในอนาคตหรือเลือกร่วมทุน
เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตให้กับบริษัทเหล่านั้นโดยไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นบริษัทในแขนงธุรกิหนึ่ง
โดยเฉพาะแต่ให้กระจายไปในแนวธุรกิจที่กลุ่มมีความชำนาญ
ปัจจุบันเอเชียน แปซิฟิค กรุ๊ปมีบริษัทในเครือที่แยกประเภทธุรกิจได้ดังนี้คือ
ธุรกิจการเกษตร เครื่องจักรกล สุขภาพ การบริการอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม/การท่องเที่ยว
การค้า การจัดจำหน่ายอิเล็กทรอนิกส์ / คอมพิวเตอร์ INTERNATIONAL INVESTMENT
BANK และ RISK ARITAGE
บริษัทสำคัญในกลุ่มได้แก่ PROPERTY SOLUTIONS CO., LTD. ทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์
ปัจจุบันมีโครงการพัฒนาที่ดินในกรุงเทพฯ 3 แห่งที่พัทยา 1 แห่ง, บ.เอเชีย
พอยน์ ในฮ่องกงให้บริการการเงินเพื่อส่งเสริมการลงทุน, บ.นมอีสาน จก.ผลิตภัณฑ์นม,
บ.ไรซ์ เอ็นจิเนียริ่ง ซัพพลาย จก. ผลิตเครื่องจักรการเกษตร และบ.ไทยโปรโมชั่น
แอนด์ เวนเจอร์ จก. ให้บริการด้านข่าวสาร
บริษัทสำคัญในกลุ่มก่อตั้งขึ้นมาแห่งละหลายปี แต่ตัวเอเชียนแปซิฟิค กรุ๊ปนั้นเพิ่งจะมีขึ้นในราว
1 ปี โดยถือกำเนิดจากการรวมตัวของ 3 บริษัทคือ VENTURE CAPITAL CO., LTD.,
PROPERTY SOLUTIONS CO., LTD. FARM VENTURES CO., LTD. โดยมี VENTURE CAPITAL
ซึ่งเป็นอินเวสเม้นท์ คอมปานีเป็นหัวหอกของกลุ่ม
ราเกซกล่าวกับ "ผู้จัดการไ ว่ากลุ่มเอเชียน แปซิฟิคจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการบริหารงานของบริษัทในเครือเหล่านี้
พวกเขาจะมีการบริหารงานที่เป็นเอกเทศของตนเอง แต่ทางกลุ่มฯจะเข้าไปดูในด้านนโยบายการลงทุน
และ VENTURE CAPITAL ยังจะดูในเรื่องของโครงสร้างทางการเงินในโครงการต่าง
ๆ ของกลุ่มที่จะร่วมกันลงทุนด้วย
ในส่วนของ VENTURE CAPITAL นั้น เป็นชื่อที่คุ้นหูระดับหนึ่งในบรรดาธุรกิจประเภทใหม่
ๆ ที่เกิดขึ้นในเมืองไทย โดยเกิดขึ้นจากการร่วมลงทุนของธนาคารพาณิชย์ขนาดกลางและสถาบันการเงินหลายแห่ง
ทำธุรกิจร่วมทุนกับกิจการหลายประเภทที่มีอนาคตจะเติบโต และเมื่อพัฒนาไประยะหนึ่งจนพอจะมีความมั่นคงแล้ว
ก็อาจจะนำบริษัทนั้น ๆ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นบริษัทมหาชน และ
VENTURE CAPITAL ก็ขายหุ้นถอนตัวออกมา
VENTURE CAPITAL เป็นเอเซียน แปซิฟิคมาก แต่ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการรวมตัวเป็นกลุ่มฯ
มาจากการที่บริษัทในฮ่องกง 2 แห่งดได้เข้ามาร่วมถือหุ้นและร่วมบริหารกิจการของกลุ่มด้วย
โดยมีนโยบายที่จะซื้อกิจการหลายแห่งในออสเตรเลียและอเมริกาเหนือ
แผนการลงทุนที่น่าสนใจประการหนึ่ง คือเรื่องการซื้อหุ้นส่วนข้างมากของอินเวสเม้นท์โฮลดิ้งแห่งหนึ่ง
ซึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แวนคูเวอร์ โดยมีเป้าหมายที่จะอำนวจความสะดวกทางการลงทุนในประเทศไทยให้กับนักลงทุนชาวต่างชาติ
ทั้งนี้จะเน้นการลงทุนในบริษัทที่มีแนวโน้มจะเติบใหญ่ ก่อนที่จะนำบริษัทเหล่านี้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
จะว่าไปแล้วก็คือการดึงเอาทุนต่างชาติเข้ามาเป็นทุนร่วมเสี่ยง (VENTURE
CAPITAL กับบริษัทไทยนั่นเอง ซึ่งการทำ VENTURE CAPITAL เป็นเรื่องที่นักธุรกิจต่างชาติคุ้นเคยดีอยู่แล้ว
อย่างไรก็ดี คุณลักษณะที่สำคัญประการหนึ่งของผู้ที่จะทำ VENTURE CAPITAL
ได้จำเป็นที่จะต้องเป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจหรือเป็นผู้ที่เป็นที่รั้กมักคุ้นในวงการ
และนี่เองที่เป็นมูลเหตุของการเกิดข้อความโฆษณาแปลก ๆ ในหนังสือพิมพ์รายวันภาษาอังกฤษฉบับหนึ่ง
ราเกซกล่าวกับ "ผู้จัดการ" ถึงนัยยะของข้อความโฆษณานี้ว่า มันเป็นเรื่องการอธิบายวิธีการบริหารงานของกลุ่มเอเชียนแปซิฟิคเท่านั้น
"เราต้องการบอกว่าทำไมเราจึงร่วมลงทุนในบริษัทนี้ เราจะทำอะไรในบริษัทนี้บ้าง
เราต้องการเปิดเผยหรือประกาศให้ทราบถึงวิธีบริหารธุรกิจของเรา"
การลงประกาศข้อความเช่นนี้จึงไม่ได้มีเป้าหมายที่การหาลูกค้าเหมือนโฆษณาอื่น
ๆ ราเกซกล่าวว่าเขาไม่ได้ต้องการลูกค้าจากการประกาศนี้ เพราะขณะนี้เขาก็มีลูกค้ามากมายอยู่แล้ว
ไม่เพียงแต่กลุ่มเอเซียน แปซิฟิคจะมีบริษัทในเครือเพิ่มมากขึ้น ๆ แต่ในจำนวนบริษัทเหล่านั้นมีที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง
เช่น บริษัท BISNEWS AGENCY CO., LTD. ซึ่งเป็นบริษัทที่ขายบริการข่าวสารทางธุรกิจ
BISNEWS มีโครงการร่วมกับ VENTURE CAPITAL ในการที่จะพัฒนาและขยายการให้บริการข้อมูลข่าวสารแก่บริษัทและสถาบันการเงินใหญ่
ๆ ในประเทศไทย โดยจะมีการตั้งสำนักข่าว APEX เป็น NEWS SERVICE ที่มีข่าวทั่ว
ๆ ไปและข่าวการเงินที่ทันเหตุการณ์ทั้งในและนอกประเทศไว้บริการ
ระบบการรายงานแบบใหม่นี้จะช่วยให้ผู้บริหารของกลุ่ม ASIAN PACIFIC มีข้อมูลเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของบริษัทในเครืออย่างชัดเจนถูกต้องและเป็นข้อมูลที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด
ข้อมูลเหล่านี้จะใช้เป็นประโยชน์ในการวางแผนการขยายตัวของกลุ่มฯ ต่อไปในอนาคต
รูปแบบธุรกิจใหม่ ๆ ของกลุ่ม ASIAN PACIFIC เป็นสิ่งที่น่าสนใจติดตามเป็นอย่างยิ่ง
VENTURE CAPITAL มีเกณฑ์การคัดเลือกพิจารณาบริษัที่จะซื้อกิจการหรือตัดสินใจร่วมทุนด้วยอย่งไร
จะร่วมกันบริหารกิจการนั้น ๆ อย่างไร ชื่อของราเกซสักเสนาหรือเบิร์ต โรเมโร
คือใครมีประวัติความเป็นมาอย่างไรประเด็นเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่น่าสนใจติดตามทั้งสิ้นโดยเฉพาะเมื่อ
ASIAN PACIFIC GROUP กลายเป็น THE REAL VENTURE CAPITAL