ฝรั่งลุยซื้อดันดัชนีแตะ900จุด


ผู้จัดการรายวัน(16 ตุลาคม 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

หุ้นไทยแรงไม่ตกเหตุเงินนอกยังซื้อสุทธิอีกกว่า 2.1 พันล้านเก็บหุ้นพลังงานดันกลุ่มปตท.ขึ้นยกแผง PTT ปิด 366 บาท ขณะที่ PTTEP พุ่งเกือบ 6% ปิด 167 บาท โดยระหว่างวันดัชนีทะยานแตะ 900 จุดก่อนมีแรงขายทำกำไรออกมา โบรกฯเตือนระวังแรงขายทำกำไร ชี้หลายบริษัทไร้ปัจจัยพื้นฐานรองรับ แนะติดตามผลการประชุมครม.วันนี้ เชื่อหากอนุมัติวันเลือกตั้งเดิม 23 ธ.ค.หุ้นขึ้นต่อแน่ ด้านผู้บริหาร เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน เลื่อนขายไอพีโอ ลั่นเข้าเทรดแน่ปลายพ.ย.นี้

ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์วานนี้ (15 ต.ค.) ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นส่งผลทำให้มีแรงซื้อเข้ามาอย่างหนักในหุ้นกลุ่มพลังงานไม่ว่าจะเป็น PTT, PTTEP, PTTCH, TOP เป็นต้น ส่งผลทำให้ระหว่างวันดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นไปแตะระดับ 900 จุดเป็นครั้งแรกในช่วงเวลาเกือบ 11 ปี ก่อนจะปรับตัวลดลงมาปิดที่ 897.10 จุด เพิ่มขึ้น 10.08 จุด หรือ 1.14% โดยดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นไปสูงสุดที่ 900.28 จุดและจุดต่ำสุดที่ 887.18 จุๅด มูลค่าการซื้อขาย 25,908.59 ล้านบาท

ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,154.84 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 702.14 จุด นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 1,452.70 ล้านบาท

สำหรับความเคลื่อนไหวราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น เช่น หุ้นบริษัท ปตท.ปิโคตเคมีคัล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTCH ราคาปิดที่ 137 บาท เพิ่มขึ้น 7 บาท หรือ 5.38% มูลค่าการซื้อขาย 3,381 ล้านบาท ขณะที่หุ้นบมจ.ปตท. หรือ PTT ราคาปิดที่ 366 บาท เพิ่มขึ้น 14 บาท หรือ 3.98% มูลค่าการซื้อขาย 3,221 ล้านบาท, หุ้นบมจ.ปตท.ผลิตและสำรวจปิโตรเลียม หรือ PTTEP ราคาปิดที่ 167 บาท เพิ่มขึ้น 9 บาท หรือ 5.70% มูลค่าการซื้อขาย 3,126 ล้านบาท, หุ้นบมจ.ไทบออยล์ หรือ TOP ราคาปิดที่ 92 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ 2.79% มูลค่าการซื้อขาย 1,541 ล้านบาท

นายโกสินทร์ ศรีไพบูลย์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)หรือ UOBKH กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนต่างประเทศยังคงซื้อสุทธิในหุ้นกลุ่มพลังงาน เพราะราคาน้ำมันดิบล่วงหน้ายังทรงตัวในระดับที่สูง โดยดัชนียังไม่สามารถที่จะยืนเหนือ 900 จุด ได้ เพราะนักลงทุนมีการขายทำกำไรออกมาในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่จะเริ่มประกาศผลประกอบการในไตรมาส3/50ในช่วงปลายสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ คาดว่างบการเงินในไตรมาส3/50ของกลุ่มธนาคารจะปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส3/49 แต่หากเทียบกับไตรมาส2/50 นั้นจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยดัชนีตลาดหุ้นไทยจะสามารถยืนเหนือ 900 จุด ได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับเม็ดเงินต่างชาติยังคงไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นภูมิภาคและตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องหรือไม่ และทิศทางราคาน้ำมันล่วงหน้า ซึ่งหากยังคงทรงตัวในระดับสูงก็จะมีแรงซื้อเข้ามาและตลาดหุ้นในภูมิภาค

“ดัชนีฯยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องซึ่งเป็นไปตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคที่เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศยังคงไหลเข้ามาลงทุน โดยมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงานเป็นหลังจากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับที่สูง ”นายโกสินทร์กล่าว

สำหรับแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าดัชนีจะสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ต่อ แต่จะมีความผันผวนมากขึ้น เนื่องจากนักลงทุนอาจจะเริ่มขายทำกำไรออกมา และหากราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าปรับตัวลดลงก็จะมีผลกระทบทำให้นักลงทุนมีการขายหุ้นกลุ่มพลังงานออกมา โดยมองแนวรับที่ระดับ 887-890 จุด แนวต้านที่ระดับ 902-905 จุด

นางสาวสุภากร สุจิรัตนวิมล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.เคทีบี กล่าวว่า ดัชนีฯแกว่งตัวในแดนบวกตลอดทั้งวันซึ่งได้มีการทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 900.28 จุด ซึ่งได้รับผลบวกจากตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากที่ได้มีการประกาศตัวเลขค้าปลีกออกมาดีกว่าที่คาดการณ์จึงทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจว่าเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาจะเติบโตในระดับที่ดี ส่งผลทำให้นักลงทุนมีความกล้าที่จะนำเงินมากลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น เช่น ตลาดหุ้น น้ำมัน ตลาดเงิน ฯลฯ มากขึ้น

นอกจากนี้ นักลงทุนจะต้องติดตามข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในวันนี้ที่จะมีการพิจารณาโครงการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนแบบรางในส่วนของรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต รวมถึงเรื่องกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งว่าจะสรุปออกมาอย่างไรเนื่องจากจะส่งผลต่อตลาดหุ้นหลายกลุ่มโดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ และวัสดุก่อสร้าง

นายอดิศักดิ์ คำมูล ผู้อำนวยการเศรษฐกิจและกลยุทธ์ สถาบันวิจัย บล.เคจีไอ(ประเทศไทย) กล่าวว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นของดัชนีวานนี้เป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามตลาดหุ้นในภูมิภาค โดยเฉพาะใน 2 กลุ่มหลัก คือ พลังงานและเคมีภัณฑ์ ซึ่งการปรับตัวเพิ่มขึ้นในรอบนี้อาจจะมีการขายทำกำไรออกมาในหุ้นบางบริษัทที่ไม่ปรับตัวตามพื้นฐานของบริษัท

ทั้งนี้ หากดัชนีสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุระดับ 900 จุดได้มีโอกาสที่ดัชนีจะปรับตัวเพิ่มขึ้นไปแตะระดับ 910-920 จุดได้ โดยส่วนตัวเชื่อว่าภายในปีนี้ดัชนีน่าจะไม่สามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นจนถึงระดับ 1,000 จุดได้

"การปรับตัวเพิ่มขึ้นของดัชนียังมาจากเรื่องกระแสเงินไหลเข้าของเงินจากต่างประเทศ นักลงทุนต้องจับตาเงินทุนที่ไหลเข้ามาจะต่อเนื่องและมากน้อยเพียงใด"นายอดิศักดิ์กล่าว

"เบตเตอร์ฯ"เลื่อนขายIPO

นายสุวัฒน์ เหลืองวิริยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) หรือ BWG เปิดเผยว่า บริษัทได้เลื่อนการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) และการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ออกไป โดยจะเปิดให้จองซื้อหุ้นได้ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน 2550 และจะเข้าซื้อขายในปลายเดือนพฤศจิกายน จากเดิมที่บริษัทจะมีการเปิดให้จองซื้อหุ้นในวันที่ 17-19 ตุลาคมนี้ และเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯในปลายเดือนตุลาคมนี้

นอกจากนี้บริษัทได้เลื่อนการแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์(บล.) ที่จะเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (ไอพีโอ) จากวันนี้(16 ต.ค.)ออกไปก่อน โดยการเลื่อนการเสนอขายหุ้นของบริษัทนั้นไม่ส่งผลต่อกระทบต่อบริษัท ขณะที่สาเหตุในการเลื่อนเป็นไปเพื่อความเหมาะสม เนื่องจากยังมีหลายอย่างยังไม่ลงตัวจึงต้องเลื่อนการซื้อขายออกไปจากกำหนดการเดิม

สำหรับ ช่วงราคาหุ้นที่จะเสนอขายในครั้งนี้ยังกำหนดอยู่ในช่วง 2.90-3.10 บาท โดยบริษัทจะเสนอขายหุ้นไอพีโอครั้งนี้จำนวน 80 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์)หุ้นละ 1 บาท


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.